ตลาดหลักทรัพย์ฯ เปิดแผน“ตลาดทุนดิจิทัล”

ตลาดหลักทรัพย์ฯ เปิดแผน“ตลาดทุนดิจิทัล”

สัมมนา “ส่องหุ้นไทย 2022 ลงทุนรับเปิดประเทศ” โดยผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้เปิดยุทธศาสตร์ปี 65 ตั้งเป้าสนับสนุนบริษัทขนาดเล็ก-ธุรกิจนิวเอสเคิร์ฟ เข้าระดมทุน เล็งออกผลิตภัณฑ์เชื่อมโยงการลงทุนต่างประเทศเพิ่มขึ้น ช่วยนักลงทุนกระจายความเสี่ยง

นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า โจทย์ใหญ่ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ในปี 2565 ตั้งเป้าหมายสนับสนุนการระดมทุนของบริษัทขนาดเล็ก รวมถึงเปิดโอกาสให้นักลงทุนสามารถเข้ามาลงทุนในกลุ่มบริษัทดังกล่าวได้ ถัดมาคือการสนับสนุนภาคธุรกิจใหม่ (New S-curve) ทั้งในไทย ภูมิภาค และต่างประเทศ เข้ามาระดมทุนมากขึ้น และสุดท้ายคือการสนับสนุนให้นักลงทุนไทยสามารถกระจายการลงทุนไปต่างประเทศได้ง่ายขึ้น

โดยขณะนี้ตลาดหลักทรัพย์ฯ มี 5 เรื่องสำคัญที่ต้องปรับตัว 1. ผลิตภัณฑ์การลงทุนต่างประเทศจากปัจจุบันตลาดทุนไทยมีแต่หุ้นของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ของไทยเป็นส่วนใหญ่  2.การสนับสนุนการระดมทุนของบริษัทขนาดเล็ก เช่น สตาร์ทอัพ และธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) รวมถึงบริษัทที่มาจากภาคเศรษฐกิจใหม่(New Economy) ที่อาจยังไม่มีผลกำไร แต่มีศักยภาพเติบโตได้อย่างรวดเร็วในอนาคต

3.การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล ต้องทำอย่างไรให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ มีผลิตภัณฑ์ลงทุนที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่สนใจลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลมากขึ้น อาทิ โทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุน และโทเคนดิจิทัลเพื่อการใช้ประโยชน์ สามารถดึงคนรุ่นใหม่ให้ลงทุนผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ หรือลงทุนในประเทศไทยได้

4. Digital Disruption เข้ามากระทบอย่างรวดเร็วและรุนแรง ดังนั้นตลาดทุนไทยต้องเร่งทรานฟอร์มสู่ดิจิทัล และ 5. การคำนึงถึงการกำกับดูเเลกิจการที่ดี (CG) รวมถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (ESG)

ด้านนายเผดิมภพ สงเคราะห์ กรรมการผู้จัดการ ประธานสายธุรกิจรายย่อย บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า คาดภาพรวมตลาดหุ้นไทยมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อหลังจากนี้ ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจปีหน้าที่ 3.69% คาดการณ์ดัชนีหุ้นไทย มีโอกาสไปที่ 1,722 จุด แนะนำ 3 กลุ่มที่น่าสนใจ กลุ่มคอมเมิร์ซ ค้าปลีก, ที่อยู่อาศัย และกลุ่มธนาคาร

ส่วนนายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซียพลัส  กล่าวว่า คาดดัชนีหุ้นไทยปี 2565 มีโอกาส ทะลุ 1,800 จุด เนื่องจาก  คาดกำไรต่อหุ้น (EPS) โต 11-12% หรือ 81.80 บาทต่อหุ้น  โดยได้ปัจจัยหนุนทั้งจากปัจจัยพื้นฐาน คือ เศรษฐกิจไทยฟื้นตัว คาดจีดีพีโตไม่น้อยกว่า 3.5% จากรัฐบาลเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจ