“ก้าวไกล” ชวนจับตาร่าง กม. “ล้างมรดก คสช.” ฉบับประชาชน บรรจุเข้าสภา 1 ธ.ค.

“ก้าวไกล” ชวนจับตาร่าง กม. “ล้างมรดก คสช.” ฉบับประชาชน บรรจุเข้าสภา 1 ธ.ค.

“พรรคก้าวไกล” ชวนจับตาร่างกฎหมาย “ล้างมรดก คสช.” ฉบับประชาชน ถูกบรรจุวาระเข้าสภา 1 ธ.ค.นี้ “โรม” จี้ “ปธ.สภาฯ” อย่าดองร่างของ “อนาคตใหม่” ให้บรรจุเข้าพิจารณาพร้อมกันด้วย ยันพร้อมโหวตรับหลักการ

เมื่อวันที่ 29 พ.ย. 2564 นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองเลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวว่า สัปดาห์นี้ถือเป็นอีกหมุดหมายสำคัญในการล้างมรดกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เนื่องจากทางไอลอว์ (iLaw) ในฐานะผู้ประสานงานเครือข่ายภาคประชาชนที่ต้องการ “รื้อมรดก คสช.” ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรว่า ร่าง พ.ร.บ.ยกเลิกประกาศและคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ และคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ขัดต่อหลักสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย พ.ศ. .... ที่เข้าชื่อเสนอโดยประชาชน 13,409 คน ให้ยกเลิกประกาศและคำสั่งของ คสช. รวม 35 ฉบับ ได้ถึงคิวการพิจารณาและจะบรรจุในวาระการประชุมของสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 1 ธ.ค. 2564 

นายรังสิมันต์ กล่าวอีกว่า ตนและพรรคก้าวไกลขอสนับสนุนร่างกฎหมายของประชาชนและการอภิปรายที่กำลังจะมีขึ้นในครั้งนี้อย่างเต็มที่ พร้อมกันนี้อยากเชิญชวนให้สื่อมวลชนและพี่น้องประชาชนติดตามการอภิปราย เพื่อช่วยกันส่งเสียงไปให้ถึง ส.ส.ในสภาทุกคน ให้มาร่วมกับประชาชนในการปลดอาวุธ คสช.ที่ยังคงอยู่ ถึงแม้ว่าตอนนี้ คสช.จะหมดสถานะไปแล้วในทางกายภาพ แต่ในความเป็นจริงยังมีวิญญาณร้ายสิงอยู่ผ่านประกาศคำสั่งทั้งหลายที่ได้รับการรับรองโดยรัฐธรรมนูญ มาตรา 279 ทำให้มีผลบังคับใช้ตลอดไปจนกว่าจะถูกยกเลิก ซึ่งช่องทางการยกเลิกในระบบประชาธิปไตยก็คือ การเสนอให้รัฐสภาออกพระราชบัญญัติมายกเลิก

หากมรดกบาปเหล่านี้ยังอยู่ ประเทศไทยจะไม่อาจกลับคืนสู่สภาวะปกติ เป็นประชาธิปไตยที่ยืนอยู่บนหลักนิติรัฐได้เลย ด้วยเหตุนี้ อดีตพรรคอนาคตใหม่จึงประกาศนโยบายเรื่องจัดการ ‘มรดกบาป" คสช.’ ไว้เป็นหนึ่งในนโยบายการเลือกตั้ง 24 มี.ค. 62 และได้ดำเนินการตามนโยบายดังกล่าวผ่านกลไกของสภาผู้แทนราษฎร มีการ ร่างพ.ร.บ.ยกเลิกประกาศคำสั่งของหัวหน้า คสช. และได้เสนอเข้าสู่สภา โดย อาจารย์ปิยบุตร แสงกนกกุล  ตั้งแต่วันที่ 6 ก.ย. 62 เนื้อหาหลักใหญ่ใจความคือ ยกเลิกประกาศคำสั่งหัวหน้า คสช. ทั้งสิ้น 17 ฉบับ เนื่องจากหลายฉบับมีเนื้อหาที่กระทบสิทธิมนุษยชน ขัดหลักการความยุติธรรม ขาดหลักนิติรัฐนิติธรรม และเป็นประกาศที่ออกมาช่วง คสช. ครองอำนาจ ที่ขาดการมีส่วนร่วมประชาชน” นายรังสิมันต์ กล่าว

รองเลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาแม้ว่าหลายพรรคการเมืองจะเสนอ ร่าง พ.ร.บ. ที่มีประโยชน์ต่อประชาชนเข้าสู่สภาฉบับแล้วฉบับเล่า แต่สังเกตว่า ถึงปัจจุบันมีเฉพาะร่างญัตติของรัฐบาลเท่านั้นที่แทรกคิวด่วนเข้าสู่การพิจารณาของสภาได้ตลอดเวลา ขณะที่ ร่างกฎหมายต่าง ๆ ที่เสนอโดย ส.ส.กลับยังไม่เคยถูกบรรจุเข้าสู่วาระพิจารณาของสภาแม้แต่ฉบับเดียว รวมถึง ร่างพ.ร.บ.ยกเลิกประกาศคำสั่งของหัวหน้า คสช. ของอดีตพรรคอนาคตใหม่ฉบับนี้ ซึ่งโดนดองมากว่า 2 ปีแล้ว

นายรังสิมันต์ กล่าวด้วยว่า ตนจะประสานไปยัง นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้เสนอต่อ นายชวน หลีกภัย ประธานสภา ให้นำร่างของอดีตพรรคอนาคตใหม่เข้าสู่การพิจารณาไปพร้อมกับร่างของประชาชน พร้อมกันนี้ ยังอยากฝากให้เรียนแจ้งต่อทางประธานสภาผู้แทนราษฎรด้วยว่า ควรเห็นความสำคัญของร่างกฎหมายที่เสนอมาจาก ส.ส.เหมือนร่างกฎหมายที่เสนอมาจากทางรัฐบาลบ้าง เพราะ ส.ส.คือ ฝ่ายนิติบัญญัติโดยตรง มีหน้าที่และพันธกิจในการนำความต้องการและมติมหาชนมาจัดทำเป็นร่างกฎหมายในฐานะตัวแทนจากประชาชน การจัดคิวและบรรจุญัตติเข้าสู่วาระพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรจึงควรเป็นสภาที่สะท้อนการทำหน้าที่เพื่อประชาชน ไม่ใช่สภาตรายางเพื่อคอยผ่านกฎหมายของรัฐบาลเพียงเท่านั้น