ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ดีดขึ้นกว่า 200 จุด-น้ำมันพุ่งเกือบ 5%

ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ดีดขึ้นกว่า 200 จุด-น้ำมันพุ่งเกือบ 5%

ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ดีดขึ้นกว่า 200 จุด-น้ำมันพุ่งเกือบ 5% หลังทรุดหนักจากวิกฤตโอไมครอน เมื่อวันศุกร์ (26พ.ย.)

ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ดีดตัวขึ้นกว่า 200 จุดในช่วงเช้าวันนี้ และกลับมายืนที่เหนือระดับ 35,000 จุดได้อีกครั้ง หลังจากที่ทรุดตัวลงกว่า 900 จุดเมื่อวันศุกร์ (26พ.ย.)ที่ผ่านมา อันเนื่องมาจากความกังวลเกี่ยวกับไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนที่พบในแอฟริกาใต้

เมื่อเวลา 07.35 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ดีดตัวขึ้น 204 จุด หรือ +0.59% แตะที่ 35,062 จุด

ส่วนราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ดีดตัวขึ้น 3.25 ดอลลาร์ หรือ +4.77% แตะที่ 71.42 ดอลลาร์/บาร์เรลในช่วงเช้านี้ หลังจากที่ดิ่งลง 10.24 ดอลลาร์ หรือ 13.1% ปิดที่ 68.15 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อวันศุกร์

นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนที่พบในแอฟริกาใต้ โดยองค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ)

ประกาศว่าไวรัสโอไมครอนเป็นสายพันธุ์ที่น่าวิตก และอาจแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็วมากกว่าสายพันธุ์อื่น ๆ

ทั้งนี้ โอไมครอนเป็นไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ที่ 5 ที่ดับเบิลยูเอชโอประกาศให้เป็น สายพันธุ์ที่น่าวิตก

รายงานล่าสุดระบุว่า แคนาดาผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนจำนวน 2 รายในเมืองออตตาวา ซึ่งเป็นเมืองหลวงของแคนาดา โดยผู้ติดเชื้อทั้ง 2 รายเพิ่งเดินทางกลับจากประเทศไนจีเรียเมื่อเร็ว ๆ นี้

นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนต.ค., ดัชนีการผลิตเดือนพ.ย.จากเฟดดัลลัส

ดัชนีราคาบ้านเดือนก.ย.จากเอสแอนด์พี/เคส-ชิลเลอร์, ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ย.จาก Conference Board, ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนพ.ย.จาก ADP, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือนพ.ย.จากมาร์กิต, ดัชนีภาคการผลิตเดือนพ.ย.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM), การใช้จ่ายภาคการก่อสร้างเดือนต.ค.

จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ย., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือนพ.ย.จากมาร์กิต, ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนต.ค. และดัชนีภาคบริการเดือนพ.ย.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM)