"นิด้าโพล" เผย ปชช.พอใจ "เปิดประเทศ" แต่ห่วงยอด "ติดเชื้อโควิด-19" พุ่ง

"นิด้าโพล" เผย ปชช.พอใจ "เปิดประเทศ" แต่ห่วงยอด "ติดเชื้อโควิด-19" พุ่ง

นิด้าโพล เผยผลสำรวจ2สัปดาห์ การเปิดประเทศของรัฐบาล พบประชาชน พอใจ แต่ห่วงยอดติดเชื้อพุ่งสูงขึ้น เหตุรัฐบาลไม่เข้มงวด-ปชช. ฉีดวัคซีนไม่ครบ

            ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง “เปิดประเทศ 2 อาทิตย์แล้ว เป็นอย่างไรบ้าง” ทำการสำรวจระหว่าง วันที่ 15-16 พฤศจิกายน 2564 เกี่ยวกับสถานการณ์ต่าง ๆ ของประเทศเป็นอย่างไร ตั้งแต่รัฐบาลเปิดประเทศ เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา

 

เมื่อถามถึงความคิดเห็นของประชาชนต่อสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของประเทศ ตั้งแต่รัฐบาลเปิดประเทศ พบว่า

48.11% ระบุว่า สถานการณ์ทางเศรษฐกิจเหมือนเดิม

29.85% ระบุว่า สถานการณ์ทางเศรษฐกิจค่อนข้างดีขึ้น

9.62% ระบุว่า สถานการณ์ทางเศรษฐกิจค่อนข้างแย่ลง

8.94% ระบุว่า สถานการณ์ทางเศรษฐกิจแย่ลงมาก

3.48% ระบุว่า สถานการณ์ทางเศรษฐกิจดีขึ้นมาก

 

 

เมื่อถามถึงความพึงพอใจต่อมาตรการในการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ตั้งแต่รัฐบาลเปิดประเทศ พบว่า

42.88% ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ

29.09% ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ

17.04% ระบุว่า ไม่พอใจเลย

8.64% ระบุว่า พอใจมาก

 

เมื่อถามถึงด้านความกังวลต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ว่าจะรุนแรงขึ้นใน 1-2 เดือนข้างหน้า จากการที่รัฐบาลเปิดประเทศ พบว่า

43.11% ระบุว่า ค่อนข้างกังวล เพราะ มาตรการป้องกันยังไม่เข้มงวด จำนวนผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19 ภายในประเทศยังคงสูง และประชาชนบางส่วนยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน

32.50% ระบุว่า กังวลมาก เพราะ เมื่อนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาภายในประเทศ อาจเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของเชื้อโรคโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ ๆ และประชาชนบางส่วนยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด 19

15.23% ระบุว่า ไม่ค่อยกังวล เพราะ อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีการควบคุมการแพร่ระบาดได้เป็นอย่างดี ประชาชนมีการป้องกันตัวเองเป็นอย่างดี และได้รับการฉีดวัคซีนโควิด 19 ครบ 2 เข็มแล้ว ขณะที่บางส่วนระบุว่า ต้องปรับตัวเพื่ออาศัยอยู่ร่วมกับเชื้อโรคโควิด 19 ให้ได้

8.86% ระบุว่า ไม่กังวลเลย เพราะ รัฐบาลมีมาตรการป้องกันที่เข้มงวด อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีการควบคุมการแพร่ระบาดได้เป็นอย่างดี

ท้ายที่สุดเมื่อถามถึงการให้ความสำคัญของประชาชนระหว่างความอยู่รอดทางเศรษฐกิจกับความปลอดภัยของสุขภาพ พบว่า

ร้อยละ 58.94 ระบุว่า เลือกความปลอดภัยของสุขภาพ แม้ว่าจะต้องอยู่ในภาวะเศรษฐกิจที่ยากลำบาก

ร้อยละ 27.58 ระบุว่า เลือกความอยู่รอดทางเศรษฐกิจ แม้ว่าจะต้องเสี่ยงกับความปลอดภัยของสุขภาพ

ร้อยละ 13.48 ระบุว่า อะไรก็ได้แล้วแต่รัฐบาลจะเห็นสมควร 

 

เมื่อเปรียบเทียบผลการสำรวจครั้งนี้กับเดือนมิถุนายน 2564 พบว่า ผู้ที่ระบุว่า เลือกความปลอดภัยของสุขภาพ แม้ว่าจะต้องอยู่ในภาวะเศรษฐกิจที่ยากลำบาก มีสัดส่วนลดลง ในขณะผู้ที่ระบุว่า เลือกความอยู่รอดทางเศรษฐกิจ แม้ว่าจะต้องเสี่ยงกับความปลอดภัยของสุขภาพ และอะไรก็ได้แล้วแต่รัฐบาลจะเห็นสมควร มีสัดส่วนเพิ่มขึ้น.