ซีอีโอ "มาสเตอร์การ์ด" ชี้ ตลาดท่องเที่ยว-ชอปปิงชั้นนำโลก กลับมาโต 70%

ซีอีโอ "มาสเตอร์การ์ด" ชี้ ตลาดท่องเที่ยว-ชอปปิงชั้นนำโลก กลับมาโต 70%

ซีอีโอ "มาสเตอร์การ์ด" เผยการเปิดประเทศปลุกตลาดการเดินทางระหว่างประเทศ ท่องเที่ยว และธุรกิจชอปปิงชั้นนำระดับโลก กลับมาโตถึง 70%

นายไมเคิล ไมบาช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอบริษัทมาสเตอร์การ์ด ได้แสดงความเชื่อมั่นเกี่ยวกับการฟื้นตัวของธุรกิจการเดินทางทั่วโลก โดยเขาได้ให้สัมภาษณ์กับนายจิม เครเมอร์ ผู้ดำเนินรายการ “Mad Money” ของสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นบีซีว่า ธุรกิจมาสเตอร์การ์ดได้รับปัจจัยหนุนจากปริมาณการใช้จ่ายระหว่างประเทศที่เพิ่มขึ้น และมีแนวโน้มที่จะขยายตัวแข็งแกร่งต่อไป

นายไมบาชกล่าวว่า เพียงแค่เวลาสองวันหลังจากที่รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศยกเลิกมาตรการเข้มงวดด้านการเดินทางระหว่างประเทศ บรรดานักท่องเที่ยวจำนวนมากได้เดินทางเข้าสู่สหรัฐ และพากันจับจ่ายใช้สอย

“พลังของการเดินทางกำลังกลับมา และเราเองก็ได้ประโยชน์จากพลังนี้ด้วย” นายไมบาชกล่าว

ซีอีโอมาสเตอร์การ์ดยังกล่าวด้วยว่า การเดินทางท่องเที่ยวมีแนวโน้มที่ดีมาก โดยขณะนี้ 20% ของตลาดชั้นนำทั่วโลกมีการเดินทางคิดเป็น 70% ของระดับก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยเพิ่มขึ้น 30% ส่วนการเดินทางของสหรัฐ อังกฤษ และแคนาดาซึ่งเป็นตลาดใหญ่ที่สุด และเพิ่งเปิดพรมแดนในสัปดาห์นี้นั้น อยู่ที่ 50% ของระดับก่อนเกิดระบาดไวรัส ซึ่งทั้งหมดอยู่ในช่วงขาขึ้น เนื่องจากประชาชนจะออกมาเดินทางท่องเที่ยว

นอกเหนือจากสหรัฐ ที่ประกาศยกเลิกมาตรการเข้มงวดด้านการเดินทางเข้าประเทศนั้น นายไมบาชกล่าวว่า การเดินทางท่องเที่ยวทั่วภูมิภาคเอเชียก็เริ่มฟื้นตัวขึ้นด้วย หลังมีการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการเดินทางเข้าประเทศได้ไม่นาน 

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลสหรัฐอนุญาตให้ชาวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนต้านโรคโควิด-19 ครบโดสสามารถเดินทางเข้าสหรัฐได้นับตั้งแต่วันที่ 8 พ.ย. โดยผู้เดินทางจากต่างประเทศที่ไม่ใช่พลเมืองของสหรัฐจะต้องแสดงหลักฐานว่า ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วก่อนเดินทางไปยังสหรัฐล่วงหน้าอย่างน้อยสองสัปดาห์ โดยสามารถแสดงเอกสารได้ทั้งใบรับรองแบบกระดาษ, รูปถ่ายเอกสาร หรือใบรับรองดิจิทัล เพื่อให้เจ้าหน้าที่สนามบินตรวจสอบ