‘ดาวโจนส์’บวก 104 จุดหลังเฟดหั่นวงเงิน QE ตามคาด

‘ดาวโจนส์’บวก 104 จุดหลังเฟดหั่นวงเงิน QE ตามคาด

ดัชนีดาวโจนส์ปิดวันพุธ (3พ.ย.)ปรับตัวขึ้น 104 จุด หลังเฟดมีมติปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (คิวอี) เดือนละ 15,000 ล้านดอลลาร์ เริ่มตั้งแต่เดือนพ.ย.และมีมติิคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 0.00-0.25%

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 104.95 จุด หรือ 0.29% ปิดที่ 36,157.58 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 29.92 จุด หรือ 0.65% ปิดที่ 4,660.57  จุด และดัชนีแนสแด็ก ปรับตัวขึ้น 161.98 จุด หรือ 1.04% ปิดที่ 15,811.58 จุด

ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 100 จุดเมื่อวานนี้ ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์เหนือระดับ 36,000 จุด ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน

บริษัทจำนวนมากกว่า 50% ในดัชนีเอสแอนด์พี 500 ได้รายงานผลประกอบการในไตรมาส 3 แล้ว โดย 83% ในจำนวนดังกล่าวมีผลประกอบการสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ และนักวิเคราะห์คาดว่าบริษัทจดทะเบียนจะมีกำไรในไตรมาส 3 เพิ่มขึ้นถึง 38.6%
 

คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (เอฟโอเอ็มซี) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 0.00-0.25% ในการประชุมวันนี้

นอกจากนี้ เฟดจะปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (คิวอี) เดือนละ 15,000 ล้านดอลลาร์ เริ่มตั้งแต่เดือนพ.ย. โดยเฟดจะปรับลดวงเงินซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐเดือนละ 10,000 ล้านดอลลาร์ และปรับลดวงเงินซื้อตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกันการจำนอง (เอ็มบีเอส) เดือนละ 5,000 ล้านดอลลาร์

การลดวงเงินคิวอีดังกล่าวจะทำให้เฟดยุติการทำคิวอีโดยสิ้นเชิงในกลางปี 2565

ก่อนหน้านี้ เฟดได้ทำคิวอีเดือนละ 120,000 ล้านดอลลาร์ โดยเฟดซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐวงเงิน 80,000 ล้านดอลลาร์ และซื้อตราสารหนี้ เอ็มบีเอสในวงเงิน 40,000 ล้านดอลลาร์
 

แถลงการณ์ของเอฟโอเอ็มซี ระบุว่า “เฟดดำเนินการดังกล่าว หลังจากที่เศรษฐกิจมีความคืบหน้าอย่างมากในการไปสู่เป้าหมายของเฟดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2563”

อย่างไรก็ดี แถลงการณ์ระบุว่า เฟดไม่ได้มีการดำเนินการอย่างตายตัว และเฟดจะทำการปรับมาตรการ หากมีความจำเป็น

“คณะกรรมการเอฟโอเอ็มซีมีความเห็นว่าการปรับลดการซื้อพันธบัตรในวงเงินที่เท่าๆกัน ถือว่ามีความเหมาะสมในแต่ละเดือน แต่เฟดก็พร้อมที่จะปรับวงเงินการซื้อพันธบัตร หากมีการเปลี่ยนแปลงต่อแนวโน้มทางเศรษฐกิจ” แถลงการณ์ระบุ

ทั้งนี้ การประกาศคงอัตราดอกเบี้ยและการปรับลดวงเงินคิวอีในวันนี้สอดคล้องกับที่ตลาดคาดการณ์ก่อนหน้านี้ หลังจากที่เฟดได้ส่งสัญญาณหลายครั้งในช่วงที่ผ่านมาว่าเฟดจะถอนมาตรการผ่อนคลายทางการเงินที่เฟดได้เริ่มใช้ในเดือนมี.ค.2563 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในขณะนั้น หลังจากที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า กระทรวงแรงงานสหรัฐจะรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 450,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. หลังจากที่เพิ่มขึ้นเพียง 194,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย.

นอกจากนี้ คาดว่าอัตราการว่างงานจะลดลงสู่ระดับ 4.7% ในเดือนต.ค. จากระดับ 4.8% ในเดือนก.ย.

ส่วนการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในวันนี้ ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (เอดีพี) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐพุ่งขึ้น 571,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. จากระดับ 523,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย.

ตัวเลขการจ้างงานดังกล่าวสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 395,000 ตำแหน่ง

ภาคบริการมีการจ้างงาน 458,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. ขณะที่ภาคการผลิตมีการจ้างงาน 113,000 ตำแหน่ง