อัดฉีดวัคซีน 7 แสนโดส ให้ ”เชียงใหม่” สู้โควิด   

รมว.สาธารณสุข ลงพื้นที่รับฟังสถานการณ์โควิด-19 จังหวัดเชียงใหม่ เตรียมจัดสรรวัคซีนเพิ่ม 700,000 โดสในเดือน พ.ย.64 ให้เชียงใหม่รับเปิดประเทศ ตั้งเป้าให้เป็นจังหวัดตัวอย่างการฉีดวัคซีน ครบ 100%

วันที่ 30 ตุลาคม 2564 ที่สำนักงานเทศบาลนครเชียงใหม่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข, นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่ง อธิบดีกรมอนามัย, นพ.โอกาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค พร้อมคณะ เดินทางมารับฟังบรรยายสรุปการดำเนินการและมาตรการควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19  

อ่านข่าว : “อนุทิน” นำทีม สธ.ลงพื้นที่เชียงใหม่ รับปากฉีดวัคซีนชาว ชม.ครบ 100% พ.ย.นี้

โดยมีนายประจญ ปรัชญสกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 นายแพทย์จตุชัย มณีรัตน์ นายกแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ นพ.วรเชษฐ เต๋ชะรัก ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครพิงค์ นายอัศนี บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม

 

อัดฉีดวัคซีน 7 แสนโดส ให้ ”เชียงใหม่” สู้โควิด   

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า เชียงใหม่เป็นจังหวัดที่มีการบูรณาการด้านการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดอย่างดี และเนื่องจากจังหวัดเชียงใหม่เป็นจังหวัดขนาดใหญ่ที่มีความสำคัญอย่างมากด้านการท่องเที่ยว มีจำนวนประชากรเป็นจำนวนมาก เป็นจังหวัดที่สร้างรายได้ให้กับประเทศ 

ดังนั้น   ในช่วงที่มีมาตรการเปิดประเทศจะมีการจัดสรรวัคซีนภายในเดือนพฤศจิกายน 2564 นี้ ให้กับประชากรในเชียงใหม่ให้ครบทุกคน เป็นเป้าหมายที่ทางกระทรวงสาธาณสุขได้วางไว้ เพื่อทำให้จังหวัดเชียงใหม่เป็นจังหวัดตัวอย่างในการที่ประชาชนในพื้นที่ได้รับวัคซีนทั้งหมด ซึ่งรัฐบาลมีความห่วงใยพร้อมให้การสนับสนุนดูแลประชาชนในพื้นที่อย่างเต็มที่

 

สำหรับเรื่องการดูแลรักษาผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในระบนสาธารณสุขได้ดำเนินการโดยใช้เขตสุขภาพเป็นหน่วยงานเครือข่ายในการสนับสนุน ทั้งหากจังหวัดเชียงใหม่มีจำนวนเตียงที่รองรับผู้ป่วยสีแดงไม่เพียงพอ สามารถที่จะส่งต่อไปยังจังหวัดลำปาง ลำพูน และ เชียงรายได้ แต่เชื่อว่าสถานการณ์จะไม่ถึงขั้นที่ต้องส่งผู้ป่วยสีแดงไปรักษาในจังหวัดอื่น ทุกอย่างจะได้รับการแก้ไข

 

ทั้งนี้ได้ให้ทางจังหวัดเร่งดำเนินการจัดทำ Home Isolation, Community Isolation และ Hospital เพื่อดูแลประชาชนได้อย่างทั่วถึง ดังนั้นสถิติการครองเตียงจะลดลง ซึ่งเหตุการณ์เช่นนี้ได้เกิดขึ้นในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลมาแล้ว จึงนำมาปรับใช้ในส่วนของภูมิภาค ของให้นักท่องเที่ยวจะเดินทางเข้ามาในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่มีความมั่นใจว่าในพื้นที่มีความปลอดภัย โดยจะเร่งฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมทั้งจังหวัด รวมไปถึงแรงงานต่างด้าว และประชากรแฝงที่อาศัยอยู่ในพื้นที่

 

สำหรับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในเชียงใหม่ ยังไม่มีอะไรเป็นที่น่าหนักใจสามารถบริหารจัดการได้ ส่วนกรณีที่ คณบดีคณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่ออกมาแดสงความกังวลเกี่ยวกับการบริหารจัดการเตียงในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ต้องไปทำความเข้าใจ เพื่อสอบถามว่าต้องการให้กระทรวงเข้ามาช่วยสนับสนุนในส่วนไหน จากการที่เคยได้พูดคุย เชื่อว่าคณะบดีคณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มีเจตนาที่จะให้ความช่วยเหลือจังหวัดเชียงใหม่

 

"อยากให้ประชาชนในพื้นที่ให้ความร่วมมือเข้ามารับการฉีดวัคซีน และดูแลตัวเองอย่างดีปฏิบัติตามมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดอย่างเคร่งครัด เพื่อทำให้อัตราการติดเชื้อลดลง ในเดือนพฤศจิกายน 2564 นี้ กระทรวงสาธารณสุขจะบริหารจัดการวัคซีนเข้ามาให้จังหวัดเชียงใหม่อีก 700,000โดส  จะทำให้วัคซีนเต็มแขนประชาชนในจังหวัดเชียงใหม่ โดยประชาชนชาวเชียงใหม่ต้องได้รับวัคซีนครบร้อยละ 100 ซึ่งจะทำให้สถานการณ์ในจังหวัดเชียงใหม่ดีขึ้น

 

นายประจญ ปรัชญสกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า รัฐบาลได้กำหนดให้เชียงใหม่เป็นเมืองท่องเที่ยวนำร่อง แม้ว่าช่วงที่ผ่านมาจะพบผู้ติดเชื้อจำนวนมาก แต่เป็นผลจากการตรวจเชิงรุก เพื่อนำผู้ติดเชื้อเข้าสู่กระบวนการรักษา คาดว่าอีก 2 สัปดาห์ น่าจะควบคุมสถานการณ์ได้ และจำนวนผู้ติดเชื้อจะลดลง หรือทรงตัว จึงมั่นใจว่าจะสามารถเปิดการท่องเที่ยวได้ตามนโยบายของรัฐบาล

 

จากนั้นหลังเสร็จการประชุม รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และคณะ ได้เดินไปบริเวณตลาดเมืองใหม่ เพื่อตรวจเยี่ยมการเปิดตลาดภายใต้มาตรการควบคุม ป้องกันโรค หลังเกิดการแพร่ระบาดอย่างหนัก พร้อมทั้งกล่าวทักทาย สอบถามการรับวัคซีนจากพ่อค้า –แม่ค้าภายในตลาด หลังจากนั้นช่วงบ่ายมีกำหนดการไปตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลสนามเฉพาะกิจ บ้านเด็กกำพร้ากิ่งแก้ว วิบุลสันติ และ โรงพยาบาลสวนปรุง