ข่าวปลอม! สติ๊กเกอร์หัวหอมแฮปปี้โนส ฆ่าเชื้อไวรัสได้ภายใน 60 วินาที

ข่าวปลอม! สติ๊กเกอร์หัวหอมแฮปปี้โนส ฆ่าเชื้อไวรัสได้ภายใน 60 วินาที

โฆษกดีอีเอส เตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อแผ่นแปะสติ๊กเกอร์หัวหอม Happy Noz อ้างสรรพคุณ ฆ่าเชื้อไวรัสได้ภายใน 60 วินาที

เมื่อวันที่ 9 ต.ค.64 นางสาวนพวรรณ หัวใจมั่น โฆษกกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมฝ่ายการเมือง กล่าวว่า ตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลผ่านสื่อโซเชียลมีเดียเรื่อง สติ๊กเกอร์หัวหอม Happy Noz ฆ่าเชื้อไวรัสได้ภายใน 60 วินาที ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ

กรณีผลิตภัณฑ์สติ๊กเกอร์หัวหอม ตราHappy Noz สูตร Virus Protection ที่ใช้ข้อความแสดงสรรพคุณว่าสามารถฆ่าเชื้อไวรัสได้ภายใน 60 วินาทีนั้น ทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ตรวจสอบข้อมูล และเนื้อหาการโฆษณาดังกล่าวพบว่า 

เป็นผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่อยู่ในรูปแบบแผ่นแปะ มีสูตรส่วนประกอบหลักจากหัวหอม กล่าวอ้างสรรพคุณ และวิธีการใช้คือใช้แปะเพื่อฆ่าเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย ซึ่งเมื่อพิจารณาจากสูตรตำรับแล้วเห็นว่า มิได้มีสรรพคุณหรือมีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อไวรัสและแบคทีเรียตามที่กล่าวอ้าง 

อีกทั้งเมื่อสืบค้นในระบบฐานข้อมูลการอนุญาตผลิตภัณฑ์สุขภาพของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแล้ว ไม่พบว่าผลิตภัณฑ์สมุนไพรดังกล่าวได้รับการขึ้นทะเบียนไว้แต่อย่างใด จึงไม่แนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์สมุนไพรนี้ เพื่อหวังผลในการฆ่าเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย

ดังนั้น ขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ทางด้านสุขภาพ หรือหากพบผลิตภัณฑ์ที่ต้องสงสัย สามารถแจ้งได้ที่ www.fda.moph.go.th หรือโทรสายด่วน อย. 1556  

บทสรุปของเรื่องนี้คือ : ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวไม่ได้ขึ้นทะเบียนกับอย. และเมื่อพิจารณาจากสูตรตำรับแล้วเห็นว่า มิได้มีสรรพคุณหรือมีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อไวรัสและแบคทีเรียตามที่กล่าวอ้าง

นอกจากนี้ประชาชนทุกคนสามารถเข้ามามีส่วนร่วมสนับสนุนการแก้ไขปัญหาการเผยแพร่ข้อมูลเท็จทางสื่อสังคมออนไลน์ ตลอดจนแจ้งเบาะแสการฉ้อโกงหรือหลอกลวงทางโซเชียล โดยแจ้งเข้ามาได้ผ่านช่องทาง ดังนี้ 

ไลน์ @antifakenewscenter เว็บไซต์https://www.antifakenewscenter.com/ ทวิตเตอร์ https://twitter.com/AFNCThailand และโทรสายด่วน GCC 1111 ต่อ87 รวมทั้งศูนย์รับเรื่องร้องเรียนปัญหาออนไลน์ โทร. 1212 เพื่อจะประสานต่อไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป