"นายกฯ" ชี้ถ้าเด็กไทยไม่ยึด "วินัย-กม." ประเทศ ก็เป็นโจรเท่านั้น

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธานในพิธี Kick off สร้างเกราะป้องกันด้วยวัคซีน เด็กปลอดภัย เรียนอุ่นใจ ต้อนรับเปิดเทอม ที่โรงเรียนพิบูลอุปถัมภ์ถนนลาดพร้าว เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ 

โดยนายกฯ กล่าวตอนหนึ่งว่า ยินดีที่มาพบกับครู นักเรียน บุคลากรทางการศึกษา รวมถึงส.ส.ในพื้นที่ รัฐบาล ส่วนราชการ ฝ่ายบริหาร นิติบัญญัติ จำเป็นต้องปรึกษากันตลอดเพื่อให้เกิดผลดีกับประเทศชาติบ้านเมืองและทุกคน ทั้งนี้สถานการณ์ที่ห่วงใย คือ 1.โควิด-19 2. อุทกภัย และ 3. เศรษฐกิจ จำเป็นต้องแก้ทุกอย่าง 

"ฝากครู อาจารย์ เด็กๆ ให้เข้าใจประเทศชาติอยู่ได้อย่างไร ทำให้ดีที่สุดจนกว่าจะเรียบร้อยทุกงาน" นายกฯ กล่าว

นายกฯ กล่าวว่า ตนรู้สึกมั่นใจในการบริหารจัดการศึกษาช่วงโควิด-19 ให้ต่อเนื่อง เด็กที่อยู่บ้านก็เห็นผู้ปกครองนั่งเรียนอยู่ด้วย ไม่ใช่เป็นภาระ ตนถือว่ามีเวลาอยู่กับลูกหลาน เป็นช่วงเวลาของครอบครัวที่จะได้อยู่ร่วมกันต่างเรียนรู้ไปด้วยกัน ขอโทษด้วยที่หลายคนรู้สึกเป็นภาระแต่ต้องใกล้ชิดกันในครอบครัวให้มากยิ่งขึ้น เป็นสร้างภูมิต้านทานให้อยู่กับโลกใบนี้ต่อไป

นายกฯ กล่าวว่า ตนอยากให้ทุกคนได้รับวัคซีนอย่างถ้วนหน้า ซึ่งเป็นหน้าที่ของรัฐบาลอยู่แล้วเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ เรื่องการจัดหาวัคซีนมีสองประเภท คือวัคซีนหลักที่รัฐบาลจัดหาเป็นการเจรจาโดยภาครัฐ รัฐบาลต่อรัฐบาล และวัคซีนทางเลือกเป็นอีกเรื่องหนึ่ง เป็นการเจรจาระหว่างผู้จำหน่ายวัคซีน เป็นทางเลือกให้กับคนทั่วไป 

"ผมยืนยันวันนี้วัคซีนเรามีเพียงพอ และมีเพียงพอไปถึงปีหน้าด้วย เราคาดการณ์ว่าจะมีวัคซีนถึง 150-170 ล้านโดสในปีนี้ ก็คิดว่าจะฉีดได้ครบทุกคนตามที่เราตั้งเป้าหมายไว้ทุกประการ" นายกฯ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้เราต้องเดินหน้าประเทศไปข้างหน้า รัฐบาลดำเนินการมาโดยตลอดต่อเนื่อง ซึ่งการควบคุมการระบาดของโควิด ก็ได้ทำตามแผนที่วางไว้ล่วงหน้า ถ้าสถานการณ์เป็นอย่างนี้จะทำอย่างไร นั่นคือการคิดอย่างเป็นระบบ ก็ฝากครูและนักเรียนช่วยกันศึกษาเรียนหนังสือ แล้วคิดว่าเราจะเรียนไปทำอะไร นั่นคือคำตอบของท่าน นั่นคืออนาคตของท่านเอง ว่าวันน่าจะมีงานทำหรือไม่ สามารถเลี้ยงดูพ่อแม่ญาติพี่น้องในครอบครัวได้หรือไม่เพราะฉะนั้นวันนี้รัฐบาลก็สั่งงานรอไว้วันข้างหน้า ทั้งการลงทุนใน EEC การลงทุนในเศรษฐกิจใหม่ หรือการลงทุนในอุตสาหกรรมใหม่อีกหลายอย่าง ก็ฝากหลานๆทุกคนด้วย ให้ความสนใจเรื่องเหล่านี้มากกว่าเรื่องอื่นๆ ว่าเราจะเลือกหนังสือไปเพื่ออะไร ต้องมีจุดมุ่งหมายในการเรียนหนังสือ ไม่ใช่เรียนเพื่อให้มันจบ ให้มันผ่านได้ปริญญา แต่ไม่ได้มุ่งหวังว่าจะมีงานทำหรือไม่ 

นายกฯ กล่าวว่า การจะหางานไม่ใช่เรื่องง่ายนักในโลกปัจจุบัน ถ้าเราไม่เตรียมความพร้อมตัวเอง ทั้ง ความคิดหลักการต่างๆมันมีปัญหามากแน่นอน จึงขอให้ทุกคนสนใจกันเรียนให้มากที่สุด สนใจสถาบันครอบครัว นั่นคือเทือกเถาเหล่ากอของเรา เหมือนตนตนก็มีรากเหง้าของตนถ้าเราไม่รู้ว่าเราเป็นใครมาจากไหน ไม่ต้องมีความสัมพันธ์กับใครเลย ตนว่าไม่ใช่ โลกใบนี้อยู่อย่างนั้นไม่ได้ ประเทศไทยให้ความสำคัญกับเรื่องเหล่านี้ ประวัติศาสตร์ ศีลธรรม หรือศาสนาอื่นๆ ทุกศาสนาสอนให้เป็นคนดีอยู่แล้ว 

"สิ่งสำคัญที่สุดคือวินัย ผมอาจจะเป็นทหารมาก่อน เพราะฉะนั้นผมก็ได้รับการฝึก การหัดของผมมา ซึ่งผมก็ไม่เคยไปต่อต้านอะไรในเรื่องเหล่านี้ มันเป็นเรื่องของวินัย ซึ่งจะต้องมีทุกคน ถ้าเราไม่มีวินัย เราก็จะสะเปะสะปะไปเรื่อย อยากทำอะไรก็ทำ บางครั้งก็รบกวนสมาธิคนอื่นเขาเหมือนกัน ก็ขอฝากไว้ด้วยแล้วกัน วันนี้ก็ดีใจ แล้วก็พยายามจะทำให้ดีที่สุดในทุกปัญหาที่เกิดขึ้นในวันนี้" นายกฯ กล่าว

นายกฯ กล่าวอีกว่า วันนี้สิ่งที่ทุกคนต้องเรียนรู้ก็คือจะทำอย่างไรให้ประเทศชาติเดินไปข้างหน้าและตัวเราเป็นส่วนหนึ่งของสังคม ในการพัฒนาประเทศภายใต้กรอบการบริหารราชการแผ่นดิน ของสามอำนาจซึ่งมีการตรวจสอบถ่วงดุล นั่นคือกลไกหลักของชาติ ทุกประเทศในโลกมีอย่างนี้ทั้งนั้น 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่นายกฯ พูดอยู่นั้น ก็ได้ชี้นิ้วถามนักเรียนที่มาร่วมงานซึ่งนั่งอยู่หน้าเวทีว่า "นี่เป็นไงเนี่ย คันๆเป็นไรเปล่า ไอคนที่สองเนี่ย ห๊ะ ก็พูดอยู่นี่ ก็ขอโทษนะ นั่งให้เรียบร้อยหน่อยแล้วกัน คนเรามันต้องมีวินัย เพราะวินัยหรือกฎหมาย ทำให้ประเทศนี้ ทำให้ประเทศทุกประเทศมันอยู่ได้ ถ้าไม่มีกฎหมาย ไม่มีวินัย อะไรเลยมันอยู่ไม่ได้ ประเทศนั้นก็เป็นโจรเท่านั้นเอง" ก่อนที่นายกฯ จะถอนหายใจ 

โดยในช่วงท้าย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ขอให้เด็กทุกคนจบการศึกษาอย่างที่ทุกคนต้องการและมีงานทำทุกคน นั่นคือสิ่งที่ตนคาดหวัง คืออนาคตของท่าน ถ้าทุกคนไม่คำนึงถึงอนาคตตัวเอง ก็จะปล่อยเนื้อปล่อยตัว ก็ไปไม่ได้หมดในวันหน้า ตนก็ไม่ได้อยู่กับท่านแล้วล่ะ อย่าให้มันเสียเวลาไปเปล่าๆ

"ปัญหาเรามีอยู่เยอะแยะ เราจะทำอย่างไรทำให้ปัญหาของประเทศลดลงให้ได้ด้วยความเข้าใจซึ่งกันและกัน อย่าสร้างความเกลียดชังซึ่งกันและกัน นั่นคือประเด็นที่ผมเป็นห่วงในวันนี้ รัฐบาลจะทำทุกอย่างให้ดีที่สุด ขอให้ประสบความสำเร็จทุกประการ" นายกฯ กล่าว