ศบค. กางแผน "พื้นที่นำร่อง" ท่องเที่ยว 1 พ.ย. นี้ เปิด 10 จังหวัด

ศบค. กางแผน "พื้นที่นำร่อง" ท่องเที่ยว 1 พ.ย. นี้  เปิด 10 จังหวัด

ศบค. กางแผน แนวทาง เปิด "พื้นที่นำร่อง" การ "ท่องเที่ยว" หรือ "พื้นที่สีฟ้า" เป้าหมายถัดไประยะ 1 วันที่ 1 – 30 พ.ย. 64 พื้นที่ 10 จังหวัด นำไปสู่การปฏิบัติและขยายผลต่อ หากไม่มีการติดเชื้อเพิ่มขึ้น

วันนี้ (27 ก.ย. 64) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. กล่าวภายหลังการ ประชุม ศบค. ชุดใหญ่ ถึงหลักเกณฑ์พิจารณาการเปิดพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว และ แผนงานและแนวทางการเปิดพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว โดยระบุว่า มีหลายจังหวัดสามารถดำเนินกิจการ-กิจกรรมได้มากขึ้นกว่าระดับสีพื้นที่ โดยเจาะจงเฉพาะบางอำเภอ 

 

จึงขอให้กำหนดเป็น "พื้นที่สีฟ้า" ซึ่งเป็นพื้นที่สามารถดำเนินกิจการ-กิจกรรมได้เหมือนพื้นที่ "สีเขียว" ไม่จำกัดการเดินทาง เปิดกิจการ-กิจกรรม ได้ตามมาตรการที่ทางราชการกำหนด โดยให้อยู่ในการควบคุมของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด โดยจังหวัดที่มีการกำหนดเป็นพื้นที่นำร่องท่องเที่ยวแต่ละระยะ มีดังต่อไปนี้ 

 

ระยะนำร่อง วันที่ 1 – 31 ต.ค. 64 พื้นที่ 4 จังหวัด

 

ที่ผ่านมา มีการทำ พื้นที่นำร่อง 1 – 31 ต.ค. 64 ได้แก่ จ.ภูเก็ต จ.สุราษฎร์ธานี (เกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า) จ.พังงา (เขาหลัก เกาะยาว) จ.กระบี่ (เกาะพีพี เกาะไหง ไร่เลย์ คลองม่วง ทับแขก)

 

เกณฑ์กำหนดพื้นที่นำร่องด้านเศรษฐกิจ เป็นเมืองหลักหรือจังหวัดที่มีสัดส่วนรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของรายได้จากการท่องเที่ยวทั้งหมด

 

ระยะที่ 1 วันที่ 1 – 30 พ.ย. 64 พื้นที่ 10 จังหวัด

 

พื้นที่นำร่อง ท่องเที่ยว ระยะที่ 1 ได้แก่ กรุงเทพมหานคร จ.กระบี่ จ.พังงา (ทั้งจังหวัด) จ.ประจวบคีรีขันธ์ (หัวหิน หนองแก) จ.เพชรบุรี (ชะอำ) จ.ชลบุรี (พัทยา บางละมุง จอมเทียน บางเสร่) จ.ระนอง (เกาะพยาม) จ.เชียงใหม่ (อ.เมือง แม่ริม แม่แตง ดอยเต่า) จ.เลย (เชียงคาน) และ จ.บุรีรัมย์ (เมือง)

 

หลักเกณฑ์กำหนดพื้นที่นำร่องด้านเศรษฐกิจ เป็นเมืองหลักหรือจังหวัดที่มีสัดส่วนรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ ไม่น้อยกว่าร้อยละ 15 ของรายได้จากการท่องเที่ยวทั้งหมด

ระยะที่ 2 วันที่ 1 – 31 ธ.ค. 64 พื้นที่ 20 จังหวัด

 

ส่วนแผนการเปิดพื้นที่นำร่องท่องเที่ยวระยะที่ 2 ในช่วงเดือน 1-31 ธ.ค.นี้ จำนวน 20 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน ลำพูน แพร่ หนองคาย สุโขทัย เพชรบูรณ์ ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา สมุทรปราการ ตราด ระยอง ขอนแก่น นครราชสีมา นครศรีธรรมราช ตรัง พัทลุง สงขลา ยะลา และนราธิวาส

 

หลักเกณฑ์กำหนดพื้นที่นำร่องด้านเศรษฐกิจ ได้แก่ เป็นเมืองหลักหรือจังหวัดที่มีสัดส่วนรายได้ จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ ไม่น้อยกว่าร้อยละ 15 ของรายได้จากการท่องเที่ยวทั้งหมด มีสินค้าการท่องเที่ยวด้านศิลปวัฒนธรรม เป็นจังหวัดที่มีพรมแดนติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน

 

ระยะที่ 3 วันที่ 1 ม.ค. 65 เป็นต้นไป พื้นที่ 13 จังหวัด

 

แผนการเปิดพื้นที่ท่องเที่ยวระยะที่ 3 ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2565 เป็นต้นไป จำนวน 13 จังหวัด ได้แก่ สุรินทร์ สระแก้ว จันทบุรี ตาก นครพนม มุกดาหาร บึงกาฬ อุดรธานี อุบลราชธานี น่าน กาญจนบุรี ราชบุรี และสตูล

 

หลักเกณฑ์กำหนดพื้นที่นำร่องด้านเศรษฐกิจ ได้แก่ จังหวัดที่มีพรมแดนติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน

 

ศบค. กางแผน \"พื้นที่นำร่อง\" ท่องเที่ยว 1 พ.ย. นี้  เปิด 10 จังหวัด

หลักเกณฑ์พิจารณาพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว 

 

ศบค. กางแผน \"พื้นที่นำร่อง\" ท่องเที่ยว 1 พ.ย. นี้  เปิด 10 จังหวัด

 

แผนงาน แนวทาง การเปิดพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว

 

ศบค. กางแผน \"พื้นที่นำร่อง\" ท่องเที่ยว 1 พ.ย. นี้  เปิด 10 จังหวัด

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

โฆษก ศบค. กล่าวว่า สำหรับ "พื้นที่สีฟ้า" ซึ่งสามารถเปิดกิจการกิจกรรมต่างๆ ได้ดีขึ้น แต่ต้องมีการบริหารจัดการ ทั้ง COVID-Free setting ไม่จำกัดการเดินทาง กิจกรรมกิจการ ได้ถึง 500 คน ศูนย์การค้า บริโภค นวด ตามพื้นที่สีเขียว แต่ต้องเป็นความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด เป็นการนำร่อง

 

ขอความร่วมมือของพี่น้องประชาชนแต่ละจังหวัด ขอให้พยายามช่วยกัน เป็นการวางแผนถึงต้นปีหน้า หากไม่มีการติดเชื้อเพิ่มขึ้น แผนนี้จะถูกนำไปปฏิบัติและขยายผลต่อ กลับมาสู่ ชีวิตวิถีใหม่ โรคที่เคยบอกว่าเป็นโรคระบาด จะกลายเป็นโรคประจำถิ่น ซึ่งเราจะต้องอยู่กับมันให้ได้ โดยเฉพาะ วัคซีนที่จะมาในปลายปีนี้ถึงต้นปีหน้าก็จะเพิ่มขึ้น สร้างความเข้มแข็งด่านร่างกายและเศรษฐกิจ