เปิดข้อเสนอ 150 ซีอีโอ “เร่งเข็ม3” เปิดเมืองท่องเที่ยว

เปิดข้อเสนอ 150 ซีอีโอ “เร่งเข็ม3” เปิดเมืองท่องเที่ยว

“กรุงเทพธุรกิจ” สำรวจความคิดเห็น 150 ซีอีโอองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ระหว่างวันที่ 20-26 ก.ย.2564 เพื่อสำรวจความเห็นถึง “เสถียรภาพการเมืองไทยต่อความเชื่อมั่นธุรกิจ และแผนเปิดประเทศ" ซีอีโอให้ข้อเสนอแนะเร่งฉีดวัคซีนให้ครอบคลุม โดยเฉพาะเร่งเข็ม 2-3 เพื่อเปิดเมืองให้ได้

เปิดข้อเสนอ 150 ซีอีโอ “เร่งเข็ม3” เปิดเมืองท่องเที่ยว

การสำรวจครั้งนี้ ยังแตะในประเด็นข้อเสนอแนะต่อภาครัฐในการพลิกฟื้นเศรษฐกิจและธุรกิจระยะสั้นและระยะยาว รวมถึงการเปิดประเทศ และ Bangkok Sandbox นั้น ซีอีโอ ส่วนใหญ่ให้ความสำคัญที่การปูพรมการฉีดวัคซีนอัตราเร่งเพื่อสร้างให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่โดยเร็ว จัดหาวัคซีนหลายยี่ห้อ รวมทั้งระบบการทำงานราชการควรปฏิรูปเพราะเป็นระบบ Top-Down ที่ Top ไม่มีศักยภาพพอ

“รัฐต้องวางแผนดำเนินงานที่เป็นจุดเดียว เพื่อรองรับในกรณีเกิดคลัสเตอร์ใหม่ รัฐบาลอาจให้อำนาจหน่วยงานหนึ่งเข้ามากำกับและดูแลเข้มงวดในทิศทางเดียวกัน นอกจากนี้ ต้องเร่งฉีดวัคซีนเข็ม 2 และ 3 ให้ได้มากกว่า 70-80% ภายในสิ้นปี 2564 เตรียมมาตรการสาธารณสุขรองรับการระบาดรอบใหม่จากเชื้อสายพันธุ์ใหม่”

ซีอีโอให้ความสำคัญเรื่อง ชุดตรวจ ATK ควรแจกฟรีเมื่อจำเป็น พร้อมแนะว่าควรให้องค์การเภสัชกรรมผลิตเองขึ้นมาแจก ส่งเสริมของไทย และเกิดการหมุนเวียนในประเทศ ขณะที่ชาวต่างชาติที่จะเข้ามาเที่ยวหรือลงทุน ต้องมีประกันสุขภาพครอบคลุมค่ารักษาเพราะรัฐไม่ควรแบกภาระตรงนั้น
 

รัฐบาลต้องวางแผนระยะกลางถึงยาวเกี่ยวกับการผลิตจัดหาและพัฒนาวัคซีนในประเทศเพื่อรับมือการกลายพันธุ์ ต้องแชร์บทเรียนจากภูเก็ต สร้างสำนึกในการเตรียมตัว พูดความจริง ร่วมมือ รับฟังกับเอกชนด้วยความจริงใจ จัดหาวัคซีนให้เหลือเกินพอ

ส่วนมาตรการทางเศรษฐกิจ ซีอีโอแนะว่ารัฐต้องเร่งสนับสนุนธุรกิจขนาดเล็กอย่างจริงจังและเข้าถึงทุกพื้นที่ และช่วยอย่างเป็นรูปธรรม มาตรการระยะสั้น เร่งเติมสภาพคล่องเพิ่มกำลังซื้อ ระยะยาวต้องส่งเสริมภาคผลิตทั้งเกษตร และอุตสาหกรรมให้พึ่งตนเองได้ 

นอกจากนี้แนะว่า รัฐบาลควรมองการปรับลดภาษี โดยเฉพาะลดภาษีการค้า 2 ปี ในกลุ่มธุรกิจโลจิสติกส์และอีคอมเมิร์ซ อาจต้องใช้เงินกู้ก่อนใหม่เพื่อพยุงธุรกิจให้อยู่รอดได้ การฟื้นตัวแบบ K shape ต้องรอบคอบ ขณะเดียวกันต้องเร่งฉีดวัคซีนให้มากที่สุด อนุญาตเปิดกิจการต่างๆ เพื่อให้เงินหมุนเวียนมากขึ้น

รัฐควรมีมาตรการตั้งรับกรณีการติดเชื้อในแต่ละ Scenario ที่ชัดเจน การสร้างเครือข่าย Community Isolation รองรับชุมชนหนาแน่นล่วงหน้า การเตรียมความพร้อมด้านเวชภัณฑ์​ที่ให้ประชาชนเข้าถึงง่ายและชัดเจน เช่น การใช้หมอพร้อมแสดงให้เห็นถึงจุดที่จะรับ ATK, เวชภัณฑ์ หรือ Community Isolation
 

“กำหนดบทลงโทษเฉียบขาดกับผู้ฝ่าฝืนหรือสร้างความเสี่ยงต่อการระบาด ควบคู่การสร้างมาตรการจูงใจให้ประชาชนฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้น และให้ภาคเอกชนมีส่วนร่วมทำงานแก้ปัญหาเศรฐกิจมากกว่านี้ ทบทวนแนวทางการผลักดันเศรษฐกิจ เน้นความยั่งยืนสู่ประชาชน”

รวมถึงพิจารณามาตรการผ่อนปรนในสถานที่ท่องเที่ยวและร้านอาหาร ให้ดื่มแอลกอฮอล์ได้ โดยหามาตรการป้องกันในสถานที่ดังกล่าว รวมทั้งยกเลิกสถานการณ์ฉุกเฉิน

สิ่งสำคัญสุดคือ ให้ประชาชนได้รับวัคซีนเข็ม 2 เกิน 70% ของประชากร หาแนวทางการรักษา เช่น ใช้ยาสมุนไพร ยา Ivermectin ราคาเหมาะสม ให้เกิดความมั่นใจต่อการดูแลผู้ป่วย ฉีดวัคซีนคุณภาพให้เร็วโดยเปิดให้เอกชนช่วย และลดความซับซ้อนของขั้นตอนเข้าประเทศ”