หุ้นบิ๊กแคป ผวา ตลท.ปรับเกณฑ์คำนวณดัชนี SET50-SET100 เสี่ยงหลุด

ความเคลื่อนไหวดัชนีหุ้นไทยวานนี้ (14 ก.ย.) ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง โดยปิดตลาดที่ 1,623.84จุด ลดลง 9.92 จุด หรือ 0.61% มูลค่าซื้อขาย 84,176.04 ล้านบาท

      ขณะที่หุ้นที่มีผลฉุดดัชนีปรับตัวลดลงมากสุด คือ บมจ.เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย)(DELTA)ราคาลดลง 70 บาท หรือ 10.74% มีผลทำให้ดัชนีหุ้นไทยปรับลง  7.58 จุด รองมา บมจ.สยามแม็คโคร(MAKRO) ราคาลดลง3.25 บาท หรือ 5.78% มีผลดัชนีลดลง1.35จุด 

นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจผู้อำนวยการอาวุโสและนักกลยุทธ์ ฝ่ายวิเคราะห์​หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย)  เปิดเผยว่า หุ้นขนาดใหญ่ (หุ้นบิ๊กแคป)ที่มีสภาพคล่องการซื้อขายไม่มาก ราคาหุ้นปรับตัวลงวานนี้ (14 ก.ย.) เช่น DELTA ,MAKRO,BAY ,บมจ.แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป จำกัด (LHFG)ฯลฯ เนื่องจากข่าวที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)อยู่ระหว่างการพิจารณาแนวทางปรับเกณฑ์คัดเลือกหุ้นเพื่อเข้าคำนวณในดัชนีSET50 และ SET100

ทั้งนี้จากวันที่ 13 ก.ย. ตลาดหลักทรัพย์ได้มีการจัดประชุมโฟกัสกรุ๊ป เพื่อพิจารณาแนวคิดปรับเกณฑ์คัดหุ้นที่เข้าSET50-SET100 เพราะที่ผ่านมาในเชิงพฤติกรรมมีการเก็งกำไรหุ้นที่มีฟรีโฟลทต่ำ แต่เป็นหุ้นขนาดใหญ่ และหุ้นดังกล่าวนั้นมีผลกระทบต่อดัชนีและยังคอนโทรลการเคลื่อนไหวตราสารล่วงหน้าในSET 50 และSET50 ฟิวเจอร์ส ตลาดหลักทรัพย์ จึงต้องการที่จะมีมาตรการกำกับดูแลหุ้นดังกล่าว

สำหรับแนวคิดที่นำมาหารือในกลุ่มย่อย (โฟกัสกรุ๊ป)ในการคัดเลือกหุ้นเข้า SET50 และ SET100 จะใช้เกณฑ์คุณภาพ ในเรื่องสภาพคล่องการซื้อขายที่มีความสม่ำเสมอที่เป็นไปตามสภาวะปกติ  คือจะใช้ปริมาณการซื้อขายเฉลี่ย 3เดือนมาพิจารณา โดยหากหุ้นใดติดเกณฑ์มาตรการกำกับดูแล เช่นติดแคชบาลานซ์ ตั้งแต่ระดับ1 ขึ้นไป จะไม่นำปริมาณการซื้อขายช่วงนั้นมาใช้คำนวณคัดเลือกหุ้นเข้าดัชนี เพราะถือเป็นช่วงที่ซื้อขายผิดปกติ

 อย่างไรก็ตามเรื่องดังกล่าวเป็นแค่แนวคิดเบื้องต้นจากการประชุมโฟกัสกรุ๊ป ยังไม่ได้มีข้อสรุปออกมาอย่างเป็นทางการ โดยส่วนตัวมองว่าแนวคิดดังกล่าวถือเป็นแนวคิดที่ดี โดยที่ผ่านมาตลาดหลักทรัพย์พยายามจะออกเกณฑ์คัดหุ้นที่เข้าSET50-SET100 โดยจะปรับมาใช้มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคา ตลาดที่ปรับด้วยสัดส่วนผู้ถือหลักทรัพย์รายย่อยในการคำนวณดัชนี(Free Float Adjusted Market Capitalization)แต่มีผู้ไม่เห็นเด้วยกับเกณฑ์ดังกล่าวจำนวนมาก ทำให้ตลท.ไม่นำเกณฑ์ดังกล่าวมาใช้

     นายภากร ปีตธวัชชัย  กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯอยู่ระหว่างการพิจารณาออกมาตรการดูแลหุ้นที่มีความเคลื่อนไหวของราคาผิดปกติ โดยที่ไม่มีปัจจัยมาสนับสนุน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการรับฟังความคิดเห็นที่เป็นแบบเฉพาะกลุ่มอยู่ ยังไม่ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นแบบเป็นการทั่วไป ซึ่งคาดว่าจะมีการรับฟังความเห็นแบบเฉพาะกลุ่มอีกหลายครั้ง  ก่อนที่จะมีข้อสรุปเพื่อเปิดรับฟังความคิดเห็นเป็นการทั่วไป 

 

นายธันย์ จิระสิทธิกร ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์(บล.) กสิกรไทย เปิดเผยว่า การปรับตัวลงของหุ้น DELTA  ต่อเนื่องในช่วง 2 วันที่ผ่านมานี้ สาเหตุมาจากหลังมีกระแสข่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะปรับเกณฑ์การคำนวณดัชนีSET50 ใหม่ ซึ่ง มีโอกาสที่อาจจะทำให้หุ้น DELTA หลุดออกออกจากดัชนี SET 50 ได้   เนื่องจากหลักเกณฑ์ใหม่ จะมีการเพิ่มนำเกณฑ์สภาพคล่องที่สม่ำเสมอ และเป็นไปตามสภาพปกติ เพิ่มเข้ามาเพื่อคำนวณสภาพคล่อง หมายความว่า หุ้นที่เข้าข่ายมาตรการกำกับการซื้อขาย (Trading Alert List) ขึ้นเครื่องหมายT1 และ T2  ซึ่งช่วงที่ติดเครื่องหมายดังกล่าวจะไม่ถูกนำคำนวณสภาพคล่อง โดย หุ้น DELTA โดยติดแคชบาลานซ์อยู่บ่อยครั้ง ถ้าหากไม่นำมาคำนวณ ก็มีโอกาสหลุกจาก SET 50  

   อย่างไรก็ตาม เรายังต้องรอดูเกณฑ์จากทางตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ชัดเจนก่อน ซึ่งขณะนี้ตลาดหลักทรัพย์ ฯ ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง  ส่วนในกรณีหุ้นขนาดใหญ่ที่มีฟรีโฟลทต่ำ เช่น BAY และ MAKRO  จะเห็นได้ว่าราคาหุ้นดังกล่าวปรับตัวลงตามจากข่าวดังกล่าวด้วยเช่นกัน

    " ตลาดหลักทรัพย์ฯ มีความพยายามติดตามหุ้น DELTA  มาอย่างต่อเนื่อง ด้วยราคาหุ้นปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างเยอะมากจากในอดีต แต่ฟรีโฟลทยังต่ำมาก  และขณะนี้ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาเกณฑ์ใหม่ ยังต้องรอความชัดเจนก่อน หากหุ้น DELTA หลุดออกจากดัชนี SET 50 ในฝั่งของกองทุนรวมดัชนี (Index Fund) จะมีแรงขายออกมา มองว่าเป็นความเสี่ยงของผู้ลงทุนที่ผ่านมาเราแนะนำขายหุ้น DELTA มาอย่างต่อเนื่องไม่เฉพาะช่วงนี้ เพราะที่ราคาระดับนี้ไม่คุ้มความเสี่ยงที่มีมากเกินไป ปัจจุบันให้ราคาเหมาะสมไว้ที่ 420 บาท"