เช็คความพร้อม ก่อน 'เดินทางข้ามจังหวัด' ไปกักตัว-รักษาโควิด-19

เช็คความพร้อม ก่อน 'เดินทางข้ามจังหวัด' ไปกักตัว-รักษาโควิด-19

หลังจากที่ผู้ป่วยบางส่วนในกทม.-ปริมณฑล "เดินทางข้ามจังหวัด" กลับ "ภูมิลำเนา" เพื่อรักษาตัว เมื่อเจอวิกฤติการระบาดที่กระจาย 77 จังหวัด ทำให้เตียงต่างจังหวัดเกือบเต็มศักยภาพ ดังนั้นก่อนเดินทาง ต้องเตรียมพร้อมและเช็กต้นทางก่อน

วันนี้ (14 ก.ค. 64) ที่ทำเนียบรัฐบาล พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์ 'โควิด-19' (ศบค.) กล่าวในการแถลงข่าวสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ประจำวัน ว่า ขณะนี้การรายงานผู้ติดเชื้อกระจายครบ 77 จังหวัด ไม่มีจังหวัดที่มีรายงานติดเชื้อเป็นศูนย์ ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา พื้นที่สีเข้มมากขึ้น ที่น่าสนใจ คือ 10 จังหวัดในพื้นที่ควบคุมเข้มงวด อย่าง กทม.ปริมณฑล และ 4 จังหวัดภาคใต้

"อย่างไรก็ตาม มีอีก 6 จังหวัดที่มีรายงานผู้ติดเชื้อเกิน 100 ราย ได้แก่ ชลบุรี นครราชศรีมา ฉะเชิงเทรา มหาสารคาม ศรีษะเกษ และราชบุรี ซึ่งจากการรายงานสอบสวนโรค พบว่า มีส่วนหนึ่งยังมีการจัดเลี้ยง รวมกลุ่ม จัดงานวันเกิด มีการติดเชื้อในแคมป์คนงาน โรงงาน ตลาด นำไปสู่ชุมชนและครอบครัว ขอเน้นย้ำ โดยเฉพาะ 6 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อเกิน 100 รายในวันนี้ แม้จะไม่ได้จัดอยู่ในจังหวัดสีแดงเข้มควบคุมเข้มงวด แต่การควบคุมต้องสูงสุดเพราะรายงานผู้ติดเชื้อสูงขึ้นต่อเนื่อง”

ตอนนี้ต่างจังหวัด ประกาศมาว่าเริ่มจะเต็มศักยภาพแล้ว อาจจะไม่สามารถรองรับผู้ที่เดินทางจากพื้นที่กทม.และปริมณฑล หรือสีแดงเข้ม เพื่อกลับต่างจังหวัด เช่น ภาคอีสาน ภาคเหนือ ดังนั้น หากตั้งใจเดินทาง กลับบ้านไปรักษาที่ รพ. หรือพื้นที่ใกล้บ้าน อาจจะต้องตรวจสอบจังหวัดปลายทางก่อนเสมอ เพราะหลายจังหวัดไม่สมารถรับกลับได้แล้ว ต้องติดต่อก่อนล่วงหน้า"

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

แนวทางปฏิบัติก่อนเดินทางกลับรักษาที่ 'ภูมิลำเนา' 

ทั้งนี้ คำแนะนำการปฏิบัติตนสำหรับผู้ติดเชื้อ โควิด-19 ที่เดินทางข้ามจังหวัดหรือ กลับภูมิลำเนา เพื่อทำการรักษาพยาบาลหรือกักตัว ดังนี้ 

  • ก่อนตัดสินใจเดินทาง 

ไม่แนะนำให้เดินทางข้ามจังหวัดหรือ กลับภูมิลำเนา โดยไม่จำเป็น เพื่อลดความเหนื่อยล้าที่เกิดกับร่างกายผู้ป่วยและลดการ แพร่กระจายเชื้อให้แก่ผู้อื่น หากมีความจำเป็นควรเตรียม ความพร้อมและปฏิบัติตน

  • การเตรียมพร้อมก่อนการเดินทาง

1. ติดต่อศูนย์ประสานงานรับคนกลับบ้านของจังหวัดปลายทาง หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด หรือโรงพยาบาลของ จังหวัดปลายทางที่ผู้ป่วยประสงค์จะเดินทางกลับ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ประเมินอาการ เตรียมความพร้อมรองรับการรักษา หรือกักตัว และให้คำแนะนาสำหรับการเดินทาง

2. เดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวเท่านั้น ผู้ขับรถหากไม่เคยติดเชื้อจะต้องสวมหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ตลอดเวลา เปิดหน้าต่างให้มีการระบายอากาศบ่อยๆ

3. เตรียมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าและเจลแอลกอฮอล์ให้เพียงพอ รวมทั้งถุงใส่ขยะส่วนตัว

4. เตรียมยาให้พร้อมทั้งยาบรรเทาอาการป่วยโควิด 19 และยารักษาโรคประจ าตัว

5. จัดเตรียมอาหารและน้ำให้เพียงพอตลอดการเดินทาง ไม่ควรแวะสถานที่อื่นระหว่างทาง

6. จัดเตรียมข้อมูลหมายเลขโทรศัพท์หน่วยงานที่ให้ความช่วยเหลือกรณีเกิดการเจ็บป่วย หรือมีเหตุฉุกเฉินขณะเดินทาง

   

  • ระหว่างเดินทาง 

1. สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า ตลอดการเดินทาง

2. หลีกเลี่ยงการใช้มือสัมผัสใบหน้า ตา ปาก จมูก โดยไม่จำเป็น

3. ล้างมือบ่อยๆ เจลแอลกอฮอล์ ทั้งก่อน-หลังรับประทานอาหาร เข้าห้องน้ำหรือหลังจากไอจาม

4. ห้ามแวะพักระหว่างการเดินทาง ให้ตรงไปยังโรงพยาบาลหรือสถานที่ที่ได้รับแจ้งไว้เท่านั้น

5. หากจำเป็นต้องใช้ห้องน้าสาธารณะ ต้องล้างมือก่อนใช้ห้องน้ำและหลังใช้ห้องน้ำเพื่อให้มั่นใจว่าเชื้อโรค ที่มือไม่เปื้อนพื้นผิวของห้องน้ำ

6. เปิดหน้าต่างหรือเปิดช่องหน้าต่างให้มีการหมุนเวียนของอากาศภายในรถยนต์

  

  • เมื่อถึงจุดหมาย 

1. แจ้งเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลหรือสถานที่ที่ได้รับประสานเพื่อรับการรักษาหรือแยกกัก

2. ปฏิบัติตามข้อกำหนดของผู้ดูแลโรงพยาบาลหรือสถานที่แยกกักอย่างเคร่งครัด

 

  • หน่วยงานติดต่อสำหรับผู้ติดเชื้อโควิด 19 ที่เดินทางข้ามจังหวัดหรือกลับภูมิลำเนา

หน่วยงานทั้งโรงพยาบาล และ สสจ. ได้แก่ 

  • ภาคเหนือ 4 แห่ง
  • ภาคกลาง 16 แห่ง
  • ภาคตะวันออก 4 แห่ง
  • ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 22 แห่ง