สนค. ชี้ 5 ภูมิภาค เตรียมรุดเดินหน้า จัดทำยุทธศาสตร์การค้าของชาติ 

สนค. ชี้ 5 ภูมิภาค เตรียมรุดเดินหน้า จัดทำยุทธศาสตร์การค้าของชาติ 

สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า ชี้ได้ข้อสรุปผลระดมความเห็น 5 ภูมิภาค เตรียมรุดเดินหน้า จัดทำยุทธศาสตร์การค้าของชาติ

สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับ สำนักงานศูนย์วิจัยและให้คำปรึกษาแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ดำเนินกิจกรรมภายใต้ “โครงการจัดทำยุทธศาสตร์และแนวทางการขับเคลื่อนการค้าของชาติ พ.ศ. 2565 – 2570”  โดยมีการจัดประชุมระดมความคิดเห็นผ่านระบบออนไลน์ Zoom Meetings ครอบคลุมทั้ง 5 ภูมิภาค ได้แก่ ภาคตะวันตก ภาคตะวันออก ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ เพื่อรับฟังความคิดเห็นผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ในภาคธุรกิจ ผู้ประกอบการ และประชาชนผู้สนใจ อันจะเป็นแนวทางสำคัญในการชี้ทิศทางด้านการค้า การตลาด การนำเข้าส่งออก ปัญหา อุปสรรคต่างๆ และข้อเสนอแนะอื่นๆ ซึ่งเป็นประโยชน์ในการวางยุทธศาสตร์การค้าประเทศร่วมกันให้พัฒนาและขับเคลื่อนต่อไปได้ในอนาคต 

การจัดประชุมแต่ละภูมิภาคจะแบ่งออกเป็น 2 ครั้ง ครั้งแรก เป็นรอบของการเชิญชวนผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งรัฐและเอกชนเข้ารับฟังปัญหาและอุปสรรค และครั้งที่สอง เป็นการระดมข้อคิดเห็นที่มีต่อร่างแผนยุทธศาสตร์การค้าของชาติ  ซึ่งการประชุมทั้ง 2 ครั้ง ครอบคลุม 5 ภูมิภาค ได้ดำเนินการเสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อย มีประเด็นหลักๆ อยู่ 7-8 ประเด็น โดยทุกความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ ที่ได้จากแต่ละภูมิภาค เตรียมนำไปปรับปรุงร่างแผนยุทธศาสตร์การค้าของชาติในระยะถัดไป อันมีรายละเอียด ดังนี้  

1. ผลการระดมความคิดเห็นภาคตะวันตก มีประเด็น 7 ข้อ    

  • สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าเกษตร ให้มีมูลค่าเพิ่มเพื่อแก้ปัญหาสินค้าล้นตลาดและกระจายรายได้สู่เกษตรกร เช่น การแปรรูปอ้อย ให้เป็นสินค้าอื่นที่เพิ่มมูลค่าได้มากกว่าน้ำตาล เป็นต้น
  • สร้างแบรนด์ให้กับสินค้าเกษตร เพื่อเพิ่มมูลค่าและสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน ด้วยการส่งเสริมการทำการตลาดและการสร้างแบรนด์ให้กับสินค้าที่แปรรูป 
  • กระจายความเสี่ยงให้กับสินค้าเกษตร การแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนด้วยวิธีการกระจายความเสี่ยงแก่สินค้าเกษตรให้สามารถค้าขายได้ในตลาดที่หลากหลาย จะช่วยจัดการความเสี่ยงในการค้าขายสินค้าเกษตรได้ดียิ่งขึ้น 
  • ความยืดหยุ่นและความต่อเนื่องของโครงการ  ปรับรูปแบบการจัดทำโครงการเพื่อให้ดำเนินการได้อย่างยืดหยุ่นและต่อเนื่อง 
  • ปรับกฎระเบียบเพื่ออำนวยความสะดวก การปรับเปลี่ยนนโยบายการค้าบางส่วนให้สอดคล้องกับสถานการณ์และนโยบายทางเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ 
  • การบูรณาการระหว่างหน่วยงาน โครงการของหน่วยงานภาครัฐควรมีความต่อเนื่องและบูรณาการกันระหว่างหน่วยงาน 
  • ส่งเสริมผู้ประกอบการรุ่นใหม่หรือทายาทธุรกิจ เพื่อสร้างโอกาสเติบโตของธุรกิจและส่งเสริมให้เกิดการปรับตัวของธุรกิจเดิมให้ดียิ่งขึ้น

162515184934  

2.  ผลการระดมความคิดเห็นภาคตะวันออก มีประเด็น 7 ข้อ   

• ส่งเสริมผู้ประกอบการไทยในพื้นที่ EEC การส่งเสริมการลงทุนจากผู้ประกอบการในประเทศของเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก EEC การเน้นให้โอกาสผู้ประกอบการไทยก่อน   

• ปรับห่วงโซ่อุปทานอุตสาหกรรมยานยนต์ การปรับเปลี่ยนห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมยานยนต์ให้สอดคล้องกับแนวโน้มของตลาด  

• เชื่อมโยงการขนส่งด้วยระบบราง การขนส่งด้วยระบบรางเพื่อเชื่อมโยงท่าเรือแหลมฉบังกับพื้นที่ทางการค้าอื่นๆ  

• หาตลาดรองรับสินค้าเกษตร เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาสินค้าเกษตรในพื้นที่ที่ไม่สามารถส่งออกได้ตามปกติ ทำให้เกิดสภาวะสินค้าล้นตลาด ดังนั้นรัฐอาจจะต้องดำเนินการหาตลาดอื่นๆ ที่สามารถรองรับสินค้าเกษตรดังกล่าวได้  

• พัฒนาสินค้ากลุ่มเกษตร การส่งเสริมให้มีการใช้เทคโนโลยีเพื่อสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ในการแปรรูปสินค้าเกษตรภายในพื้นที่ให้มากขึ้น  

• การบูรณาการระหว่างหน่วยงาน การปรับเปลี่ยนนโยบายและกฎเกณฑ์ของภาครัฐและเอกชนให้สอดคล้องกัน  

• กำหนดจุดเด่นของแต่ละจังหวัด การกำหนดตำแหน่งทางการตลาดของแต่ละจังหวัดในพื้นที่ให้ชัดเจน เพื่อให้สามารถบริหารงบประมาณในการส่งเสริมได้อย่างตรงจุด เนื่องจากจังหวัดต่างๆในภาคตะวันออกมีความโดดเด่นแตกต่างกัน จึงทำให้แต่ละจังหวัดมีความสามารถในการแข่งขันในตลาดที่ต่างกัน 

162515184828  

3.ผลการระดมความคิดเห็นภาคเหนือ มีประเด็น 8 ข้อ   

• ความคุ้มครองทางกฎหมายของพืชเศรษฐกิจ การส่งเสริมการปลูกพืชเศรษฐกิจที่มีความโดดเด่นสามารถปลูกได้เพียงในพื้นที่นั้นเท่านั้น หรือการสนับสนุนพืชสมุนไพรที่มีลักษณะเฉพาะจากความพิเศษภายในพื้นที่นั้น ๆ ให้มีการพัฒนาต่อยอดการใช้ประโยชน์ในหลากหลายรูปแบบผลิตภัณฑ์   

• ปกป้องสินค้าเกษตร การปกป้องสินค้าเกษตรที่เป็นพืชเศรษฐกิจของพื้นที่ไม่ให้ถูกละเมิดหรือปลอมแปลง  

• เชื่อมโยงการท่องเที่ยว การส่งเสริมการพัฒนาระหว่างหน่วยงานอื่น ๆ เพื่อให้เกิดการพัฒนาอุตสาหกรรมให้เกิดคุณค่าที่มากยิ่งขึ้น 

• เกษตรกรรุ่นใหม่ การส่งเสริมให้มีเกษตรกรรุ่นใหม่เข้าสู่อุตสาหกรรมการเกษตรให้มากยิ่งขึ้น เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนและพัฒนาอุตสาหกรรมที่ก้าวไกลมากยิ่งขึ้น  

• อัตลักษณ์ล้านนา การนำภูมิปัญญาและอัตลักษณ์ล้านนามาประยุกต์กับสินค้าและบริการต่างๆ  

• ใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่ทันสมัย ภาครัฐควรเป็นหน่วยงานที่ริเริ่มให้เกิดการนำข้อมูลต่างๆที่เป็นประโยชน์ มาร่วมในการวิเคราะห์ทางค้าผ่านการมี Platform ข้อมูลที่สามารถเข้าถึงได้โดยง่าย  

• พัฒนาเขตการค้าระหว่างประเทศ การสนับสนุนให้เกิดการร่วมกันพัฒนาการค้าในเชิงพื้นที่เพื่อเพิ่มความเข้มแข็งและอำนาจทางการค้า  

• การบูรณาการระหว่างหน่วยงาน การจะนำนโยบายหรือกลยุทธ์ไปใช้ให้เกิดประสิทธิผลนั้นทางภาคส่วนที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ  จำเป็นที่จะต้องมีการบูรณาการทำงานร่วมกันเพื่อ เพิ่มประสิทธิภาพในการประยุกต์ใช้ ซึ่งอาจทำได้โดยการจัดตั้งหน่วยงานที่เกิดจากความร่วมมือจากหลายภาคส่วน

162515184786  

4. ผลการระดมความคิดเห็นภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีประเด็น 8 ข้อ    

• ถ่ายทอดความรู้และเทคโนโลยี ส่งเสริมให้มีการถ่ายทอดความรู้และเทคโนโลยีจากหน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการค้าเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม  

• ดึงเอกลักษณ์เพิ่มมูลค่า การส่งเสริมภาคการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและการเกษตรที่มีอัตลักษณ์เฉพาะให้มีความโดดเด่นและน่าดึงดูดมากยิ่งขึ้น มาเป็นจุดขายในการเพิ่มมูลค่าการท่องเที่ยวในภูมิภาคด้วย  

• กฎระเบียบที่เป็นอุปสรรค การดำเนินการเรื่องเอกสารและกฎเกณฑ์ต่างๆของทางภาครัฐที่เป็นอุปสรรค ทำให้ภาคเอกชนเกิดความสับสน ไม่สามารถทำธุรกิจใหม่ๆ ได้  

• ปรับตัวชี้วัดด้านนวัตกรรม ภาครัฐควรให้งบประมาณในการสนันสนุนด้านนวัตกรรมให้มากขึ้นและปรับเปลี่ยนการวัดผลที่ไม่เหมาะสม  

• เชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐาน การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางการคมนาคมและการขนส่งที่รองรับการค้าระหว่างประเทศ เพื่อเป็นโอกาสทางการค้าของภูมิภาค  

• แผนการจัดการความเสี่ยง ภาครัฐควรมีการวางแผนเพื่อรับมือสถานการณ์ในอนาคตที่อาจส่งกระทบรุนแรงต่อเศรษฐกิจได้ จากสถานการณ์โรคระบาด และภัยแล้ง สร้างความเสียหายร้ายแรงด้านการค้าเป็นอย่างมาก ดังนั้นจึงควรจะมีการดำเนินการแผนการจัดการความเสี่ยงที่สามารถป้องกันความเสียหายร้ายแรงทางด้านการค้าไว้ก่อน  

• สร้าง Start-up ไทย การพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศต่างๆในปัจจุบันเริ่มหันไปส่งเสริมธุรกิจ Start-up มากขึ้น เพื่อให้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของประเทศคู่ค้าต่างๆ  

• การบูรณาการระหว่างหน่วยงาน การรวมกลุ่มของทุกหน่วยงานในพื้นที่จังหวัดเพื่อสร้างศักยภาพและความโดดเด่นของแต่ละจังหวัด ซึ่งการรวมกลุ่มหน่วยงานให้สามารถทำงานอย่างสอดประสานได้ จะช่วยเร่งความเร็วในการพัฒนาศักยภาพของจังหวัดนั้นๆ  

  162515184575

5. ผลการระดมความคิดเห็นภาคใต้ มีประเด็น 8 ข้อ    

• การส่งเสริมสินค้าเกษตรให้เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง การส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาสินค้าด้วยการแปรรูปเพื่อลดปัญหาผลผลิตล้นตลาดและสร้างมูลค่าเพิ่มให้ผลผลิต การจัดการผลผลิตให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า 

• การเชื่อมโยงการท่องเที่ยวกับพื้นที่การผลิต นโยบายที่มาสามารถส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปสู่จังหวัดรองหลังจากท่องเที่ยวในจังหวัดหลัก หรือการนำสินค้าจากจังหวัดรองไปขายในจังหวัดหลักได้ จะเป็นการกระจายรายได้ให้กับจังหวัดรอง 

• การส่งเสริมการท่องเที่ยวแบบเน้นคุณภาพ เพื่อให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวในพื้นที่สามารถฟื้นตัวจากภาวะวิกฤติได้อย่างรวดเร็ว การท่องเที่ยวแบบเน้นคุณภาพจะสามารถสร้างกำไรที่มากกว่าเมื่อเปรียบเทียบสัดส่วนต่อจำนวนนักท่องเที่ยว  

• การฟื้นฟูการค้าชายแดนไทย-มาเลเซีย ให้กลับมาเข้มแข็งอีกครั้ง เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 การเดินทางข้ามพรมแดนไทย-มาเลเซียจึงไม่ค่อยสะดวกนัก ทำให้นักท่องเที่ยวจากมาเลเซียไม่เข้ามาบริโภคสินค้าและบริการภายในพื้นที่ การออกมาตราการผ่อนปรนในการค้าชายแดนจึงเป็นสิ่งที่ควรพิจารณา  

• การพัฒนาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวร่วมกับอุตสาหกรรมเศรษฐกิจดิจิทัล การอนุญาตให้เป็นสถานที่ถ่ายทำของสื่อบันเทิงในรูปแบบออนไลน์ (ยูทูป) เพื่อสร้างการรับรู้ถึงอัตลักษณ์ ความสวยงามของวัฒนธรรมและทรัพยากรธรรมชาติในภาคใต้ และสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวให้กระจายการบริโภคไปสุ่ชุมชนอื่นๆได้ 

• การกระจายอำนาจจากส่วนกลางให้หน่วยงานระดับภูมิภาค สามารถตัดสินใจในการดำเนินนโยบายหรือออกโครงการที่ส่งเสริมการค้าได้เอง การรอการอนุมัติจากส่วนกลางจึงอาจไม่ทันการณ์ และหน่วยงานส่วนกลางต้องมีการส่งต่อและสื่อสารประสานงานกับหน่วยงานท้องถิ่นที่เป็นผู้สนองนโยบายมาปฏิบัติจริงอย่างชัดเจน  

• การพัฒนาระบบขนส่งทั้งทางรถและระบบราง นอกจากจะช่วยขนส่งสินค้าแล้วยังสามารถขนส่งแรงงานที่มีทักษะจากกรุงเทพฯไปยังภูมิภาคได้อีกด้วย ทำให้การพัฒนาพื้นที่ต่างๆในภูมิภาคจากแรงงานที่มีทักษะสูงเกิดขึ้นได้ 

• การพัฒนาและเตรียมความพร้อมทรัพยากรมนุษย์ แก่หน่วยงานหรือภาคส่วนที่เกี่ยวข้องให้มีความรู้ ความสามารถและทัศนคติที่จำเป็นต่อการดำเนินการทางการค้า  

162515184532

ดังนั้น จากการระดมความคิดเห็นของผู้เกี่ยวข้อง ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งภาครัฐ เอกชน และภาคประชาสังคม ตั้งแต่ผู้ประกอบธุรกิจ ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีทุกระดับ ไปจนถึงประชาชนผู้สนใจ ทั้ง 5 ภูมิภาค นั้น ทำให้ สนค.รับทราบข้อมูลตั้งแต่ปัญหา ข้อเสนอแนะ และอุปสรรคต่าง ๆ ด้านการค้า และมองหาจุดร่วมนำไปสู่การเตรียมร่างแผนยุทธศาสตร์การค้าของชาติ อันจะเป็นประโยชน์ต่อภาคการค้าของไทยในระยะ 5 ปีข้างหน้าต่อไป