‘จีน’ ผู้ร้ายรายใหม่ของประชาคมโลก?

‘จีน’ ผู้ร้ายรายใหม่ของประชาคมโลก?

"จีน" จะเป็นผู้ร้ายรายใหม่เหมือนกับที่หลายฝ่ายคิดหรือไม่? ต้องขึ้นอยู่กับจีนเอง มหาอำนาจในอดีตที่เก่งมักปรับตัวได้ดีเมื่อเกิดวิกฤติ จีนกำลังเกิดวิกฤติศรัทธาจากเพื่อนบ้านและตะวันตก ถ้าผ่านจุดนี้ไปได้ด้วยการลดราวาศอก ความยิ่งใหญ่ของจีนจะมีทางอยู่ยาว

ข่าวทางลบของจีนแผ่นดินใหญ่ที่ปรากฏออกสู่โลกภายนอกในห้วงไม่กี่เดือนมานี้ ค่อนข้างสร้างความวิตกให้แก่เพื่อนบ้านเอเชียไม่น้อย ไม่นับประเด็นค่ายกักกันอุยกูร์ ซึ่งเป็นเรื่องไกลตัวชาวอาเซียนไปหน่อย แต่พฤติกรรมจีนที่ออกแนวไม่แคร์ใคร ประเด็นยาวเหยียดตั้งแต่ทะเลจีนตะวันออก ไต้หวัน ฟิลิปปินส์ วัคซีน แม่น้ำโขง เมียนมา ไปจนถึงการเสริมกำลังในทะเลจีนใต้ 

ทำให้คนจับตามองว่ารัฐบาลปักกิ่งเดินเกมเร็วไปหรือไม่ หรือว่าได้ใจจากความสำเร็จที่ฮ่องกง การต่อต้านอย่างชัดเจนของโลกตะวันตก โดยเฉพาะสหรัฐก็รุนแรงขึ้น เปิดหน้าโต้งๆ กันไปเลย ในระดับประชาชน ความไม่พอใจจีนก็มีส่วนสัมพันธ์ต่อการเหยียดและทำร้ายคนหน้าเอเชียในช่วงนี้เช่นกัน 

จีนจะเป็นผู้ร้ายรายใหม่ของโลกแล้วหรือ มันเป็นเพราะการใส่ร้ายของฝรั่งขี้อิจฉา หรือว่านโยบายรัฐบาลปักกิ่งทำให้เกิดภาพลักษณ์นี้โดยไม่ตั้งใจ

จีนพยายามสร้างภาพมาโดยตลอดว่า จะก้าวขึ้นเป็นผู้นำโลกที่มีคุณธรรม ไม่แทรกแซงกิจการใคร ไม่ได้อยากครองโลก ไม่เคยรุกรานใครด้วยซ้ำ (อันนี้ถ้าไปฟังเสียงคนทิเบต คนเวียดนาม คงจะต่างออกไป) มุ่งหน้าค้าขายสร้างสัมพันธ์เป็นหลัก ความร่วมโพ้นทะเลเส้นทางสายไหมที่กำลังดำเนินการกับชาติต่างๆ ก็เป็นไปเพื่อการนี้ เท่าที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าประโยชน์ในการคบค้ากับจีนของแต่ละประเทศมีอย่างมหาศาล มีความขัดใจกันบ้างก็เป็นระดับพ่อค้าในสนาม แต่ในระยะเวลาไม่กี่เดือนมานี้ ดูเหมือนว่ากองทัพจีนจะผลักดันให้เกิดความสบายใจในหมู่เพื่อนบ้านเอเชียมากขึ้น

เริ่มตั้งแต่ที่ทะเลจีนใต้ ที่จีนไม่กระมิดกระเมี้ยนมานานแล้วว่าจะครอบครองพื้นที่ตามอ้างสิทธิประวัติศาสตร์โดยไม่ฟังกฎหมายทะเลปัจจุบัน มีการสร้างเสริมกำลังทัพบนเกาะแก่งต่างๆ อย่างเป็นระบบ ถึงกับตั้งอำเภอใหม่ย้ายคนมาอยู่บนเกาะกลางทะเลอย่างครึกครื้น ปีก่อนๆ ผลกระทบในเรื่องนี้ต่อชาติอื่นยังไม่ชัดเจนนัก อาจเพราะกลางมหาสมุทรแปซิฟิกนั้นไม่มีใครไปเที่ยวหา นอกจากจงใจไปกวนอย่างเช่นเรือรบอเมริกัน แต่เมื่อจีนเริ่มขยับขยาย เอื้อให้เรือประมงหลายร้อยลำรุกเข้าไปจับปลาแบบเต็มเหนี่ยวในทะเลฟิลิปปินส์ตะวันตก ก็ทำให้คนฟิลิปปิโนไม่พอใจมาก ยิ่งออกกฎหมายให้ยามฝั่งใช้อาวุธได้ยิ่งถือว่าไม่แคร์ใครทุกหน้า

จีนกำลังตอบโต้ญี่ปุ่นที่ประสานเสียงกับกลุ่ม Quads ในการโอบล้อมจีนด้วยการส่งอากาศยานและเรือรบบินเข้าไปก่อกวนน่านน้ำทับซ้อนบริเวณทะเลจีนตะวันออกบ่อยครั้งขึ้น การกระทำแบบนี้ไม่รู้ว่าญี่ปุ่นที่ครอบครองหมู่เกาะ Senkaku/Diaoyu ในทางปฏิบัติอยู่จะหลุดเมื่อไร ที่ไต้หวันดูเหมือนจะหนักกว่าอีก อาจเพราะไต้หวันเป็นหัวหอก MilkTeaAlliance ต่อต้านจีนทั้งทางตรงและทางลับหนักขึ้นเรื่อยๆ กองทัพจีนจึงกลับมาแสดงให้โลกเห็นว่าอาจบุกยึดไต้หวันนาทีใดก็ได้ การคุกคามแบบนี้ทำให้สหรัฐอยู่เฉยไม่ได้ต้องออกมาอวดธงในช่องแคบไต้หวันบ้าง

การทูตวัคซีนของจีนก็ใช่ว่าจะทำให้ทุกฝ่ายพอใจ มีข้อกังขาสารพัดตั้งแต่ประสิทธิภาพว่าดีจริงไหม ไปจนถึงเงื่อนไขที่ผูกมา เช่น นักธุรกิจที่จะเข้าจีนได้ต้องฉีดแต่วัคซีนจีนเท่านั้น ทำให้งานที่ควรเป็นบุญคุณกลับถูกมองว่าหาผลประโยชน์ เช่นเดียวกับกรณีลุ่มแม่โขงตอนล่างแห้งแล้ง จีนไม่ยอมปล่อยน้ำที่กักไว้เหนือเขื่อน จะปล่อยบ้างก็อ้างบุญคุณ ปีที่ผ่านมาแล้งหนักยิ่งทำให้คนปลายน้ำไม่พอใจกันมาก

เพราะรัฐบาลปักกิ่งดำเนินวิเทโศบายแบบมุ่งเดินไปข้างหน้าไม่ฟังเสียงทัดทาน จึงทำให้กระแสต่อต้านจีนเริ่มแรงขึ้น เช่นในเมียนมา การที่จีนซึ่งมีอิทธิพลอยู่สูง ไม่ขัดขวางการทำรัฐประหารของระบอบมิน อ่อง หล่าย ที่ฆ่าประชาชนไปหลายร้อยศพ ก็เป็นแรงขับให้เกิดขบวนการลอบเผาทำลายธุรกิจจีน และขู่ถึงขั้นจะระเบิดท่อก๊าซทิ้งเสียด้วย 

ในโลกตะวันตกนั้นยิ่งหนัก ข่าวเรื่องการจับชาวอุยกูร์เข้าค่ายกักกันเพื่อล้างสมองทั้งโครงสร้างนั้นมีมาระยะหนึ่งแล้ว ปีที่แล้วซึ่งเป็นปีสุดท้ายของโดนัลด์ ทรัมป์ เริ่มเอาเรื่องจีนประเด็นนี้ ยุคโจ ไบเดน ดูเหมือนจะจริงจังเป็นรูปธรรมมากขึ้น มีการลงดาบห้ามค้าขาย ยึดทรัพย์ผู้เกี่ยวข้อง พอฝรั่งทำอย่างนี้ก็มีการปลุกกระแสชาวจีนบอยคอตสินค้าอเมริกันบ้าง ความเป็นปรปักษ์ระหว่างรัฐบาลวอชิงตันกับปักกิ่งรุนแรงขึ้นทุกที ทุ่มเถียงกันทุกเวทีเจรจา ถึงขั้นสหรัฐประกาศจะขัดขวางจีนอย่างโต้งๆ กันแล้ว

ความขัดแย้งระดับประเทศมีผลต่อความขัดแย้งระดับประชาชนไม่มากก็น้อย ด้วยการที่จีนส่งเสริมคนเชื้อสายจีนเป็นสำคัญ ฝรั่งจำนวนไม่น้อยที่ไม่พอใจจีนแผ่นดินใหญ่จึงไปลงกับคนเชี้อสายจีนหรือคนหน้าเหมือนจีนแบบเหมารวม โดยเฉพาะในยุคโควิดที่คนจำนวนมากปักใจเชื่อว่าไวรัสร้ายนั้นมาจากเมืองจีน บางคนถึงขนาดว่าหลุดจากห้องแล็บ Wuhan ทีเดียว ทำให้ฝรั่งจำนวนไม่น้อยระแวงคนเอเชียหน้าตี๋ ที่แย่ก็ถึงขนาดทำร้ายร่างกาย คาดว่ากรณีอุยกูร์ที่สื่อตะวันตกกำลังปั่นจะแรงขึ้นอีกในปีนี้

จีนจะเป็นผู้ร้ายรายใหม่เหมือนกับที่หลายฝ่ายคิด (หรือบางฝ่ายวาดภาพให้เป็น) หรือไม่นั้นต้องขึ้นอยู่กับจีนเอง มหาอำนาจในอดีตที่เก่งมักปรับตัวได้ดีเมื่อเกิดวิกฤติ จีนกำลังเกิดวิกฤติศรัทธาจากเพื่อนบ้านและตะวันตก ถ้าจีนผ่านจุดนี้ไปได้ด้วยการลดราวาศอกกันบ้าง ความยิ่งใหญ่ของจีนจะมีทางอยู่ยาว