เลือกซ่อมลามศึกซักฟอก 'พปชร.' หัก 'ปชป.'สะเทือนรัฐบาล
หากเคลียร์กันไม่ได้ ก็อาจเป็นสัญญาณ “ศึกใน” ระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล จะสั่นคลอนเสถียรภาพรัฐบาลได้ไม่ยาก
ระฆังยกแรก ศึกระหว่าพรรคร่วมรัฐบาลดังขึ้นอีกครั้ง เมื่อ “ชัยชนะ เดชเดโช” ส.ส.นครศรีธรรมราช ในฐานะรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) ออกมาโจมตีคำให้สัมภาษณ์ของ “สัณห์พจน์ สุขศรีเมือง” รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กรณีออกมาเปิดประเด็นว่า การเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 3 นครศรีธรรมราช แทนที่ “เทพไท เสนพงศ์” กลุ่ม ส.ส.ภาคใต้ พลังประชารัฐพร้อมส่งผู้สมัครลงแข่งขันด้วย
กลายเป็นสถานการณ์ร้อนเพียงข้ามวันที่ระดับ “รองโฆษก” พรรคประชาธิปัตย์ ออกมาเบรคท่าที “รองโฆษก” พรรคพลังประชารัฐ ให้ไปเรียนรู้ “มารยาททางการเมือง”
โดยยกกรณีการเลือกตั้งซ่อม เขต 2 กำแพงเพชร เขต 4 ลำปาง การเลือกตั้งซ่อม เขต 7 ขอนแก่น การเลือกตั้งซ่อม เขต 5 สมุทรปราการ มาเปรียบเทียบให้เห็นชัดๆ ว่า “ประชาธิปัตย์” ยอมหลีกทางให้พรรคพลังประชารัฐ เพื่อเลี่ยงการตัดคะแนนกันเองของพรรคร่วมรัฐบาล
โดยเฉพาะหากย้อนไปถึงผลเลือกตั้งเขต 3 นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 27 มี.ค.2562 “เทพไท” ชนะเลือกตั้งนายอาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณจากพรรคพลังประชารัฐ มีคะแนนห่างกันเพียง 4,568 คะแนนเท่านั้น
ทำให้สถานการณ์ระหว่างทั้งสองพรรครอบนี้ ประชาธิปัตย์จึงยกมาตรฐานที่พรรคเคยทำไว้ กดดันกลับไปยังพลังประชารัฐในฐานะแกนนำพรรคร่วม ต้องยอมถอยเพื่อเปิดทางให้ประชาธิปัตย์ในสนามเลือกตั้งซ่อมพื้นที่ เขต 3 นครศรีธรรมราช เช่นกัน
แต่จากท่าที “พลังประชารัฐ” กลับเล่นเกมกับ “ประชาธิปัตย์” อย่างไม่ต้องสงสัย เนื่องจากพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช เป็นยุทธศาสตร์ที่เคยแข็งแกร่งของ “ประชาธิปัตย์” แต่สิ่งที่ “พลังประชารัฐ” เห็นช่องทางที่จะช่วงชิงพื้นที่มาเป็นของพรรค และหมายตาส่งคนสู้เช่นเดียวกัน ถึงแม้จะถูกพรรคร่วมท้วงติงเรื่องมารยาททางการเมืองก็ตาม
ขณะที่ “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ถึงแม้จะออกตัวว่าพรรคพร้อมส่งผู้สมัคร แต่ยังมีเงื่อนไขห้อยท้าย ให้รอให้คณะกรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรคพิจารณามีมติก่อน
เหมือนรับไม้ต่อกัน เมื่อ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ด้านปฏิบัติการ ซึ่งเป็นที่เคารพของ ส.ส.ภาคใต้ของพรรค ก็ยังปฏิเสธให้ความเห็น ว่าพรรคจะส่งคนลงเลือกตั้งซ่อมหรือไม่ โดยให้รอมติที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคในสัปดาห์หน้าเช่นกัน ทำให้จนถึงนาทีนี้ พลังประชารัฐ ก็ยังยื้อจังหวะเต้นฟุตเวิร์คทางการเมือง เพื่อ “รอ” ความชัดเจนอีกครั้ง
ขณะที่แหล่งข่าวระดับคณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยถึงการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค เมื่อช่วงเย็นวันที่ 28 ม.ค.ว่า พรรคได้หารือถึงการพิจารณาหาตัวบุคคลลงสมัครรับเลือกตั้งซ่อมในเขตเลือกตั้งที่ 3 จ.นครศรีธรรมราช ส่วนกระบวนการภายในของพรรคจะสอบถามความคิดเห็นของ “เทพไท” ก่อนว่า มีใครเป็นผู้ที่มีความเหมาะสมจะลงสมัคร ส.ส.ในฐานะอยู่ในพื้นที่
เพราะหากย้อนไปก่อนหน้านี้ ตั้งแต่ “เทพไท” ทราบผลคดีตั้งแต่ช่วงปลายปี 2563 เจ้าตัวก็พาน้องชาย “พงศ์สินธุ์ เสนพงศ์” อดีตรองนายกเทศมนตรีเทศบาลนครศรีธรรมราช ตระเวนไปงานบุญประเพณีต่างๆ ในเขตเลือกตั้ง อำเภอพระพรหม อำเภอเฉลิมพระเกียรติอำเภอชะอวด และอำเภอจุฬาภรณ์ อยู่เป็นระยะ
ถึงแม้ประเด็นขณะนี้ จะอยู่ที่ “สัญญาณ” ที่มาจากพลังประชารัฐว่าจะเลือกรักษามารยาททางการเมืองหรือไม่ แต่ในประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ครั้งนี้ ก็เดินหน้ากระบวนสรรหา โดยมอบหมายให้ “ชํานิ ศักดิเศรษฐ์” เป็นประธานสรรหาผู้สมัครทำหน้าที่รวบรวมรายชื่อ เพื่อไปสอบถามความเห็นกับสมาชิกพรรคในพื้นที่เขต 3 นครศรีธรรมราช
จากนั้นจะนำข้อมูลมาส่งให้กับ “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” หัวหน้าพรรค และ “เฉลิมชัย ศรีอ่อน” เลขาธิการพรรค พิจารณา โดยกำหนดให้ส่งรายชื่อภายใน 5 ก.พ.นี้
ท่าทีในประชาธิปัตย์ ที่กำลังจับตาพลังประชารัฐอยู่นั้น เป็นเรื่องมารยาทของพรรคร่วมรัฐบาลต่อกัน ซึ่งเป็นบรรทัดฐานที่ประชาธิปัตย์ปฏิบัติมาทุกสมัย แต่ในฐานะพรรคการเมืองที่เกิดใหม่อย่างพลังประชารัฐ กลับไม่ยึดถือมารยาทในส่วนนี้ ทั้งที่ผ่านมาประชาธิปัตย์ก็ไม่ส่งผู้สมัครไป “ตัดแต้ม” กันเองในการเลือกตั้งซ่อมของพรรคร่วมรัฐบาลเช่นกัน
ที่ไม่อาจมองข้ามไปได้ ต้องจับตาว่า ปัญหาในการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้่ และจบลงด้วยการเปิดศึกชิงพื้นที่ ก็อาจกลายเป็นความขัดแย้งที่จะลุกลามไปถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านที่กำลังจะมีขึ้นกลายเดือน ก.พ.นี้
หากเคลียร์กันไม่ได้ ก็อาจเป็นสัญญาณ “ศึกใน” ระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล ที่จะสั่นคลอนเสถียรภาพรัฐบาลได้ไม่ยาก.