BGRIM จับมือUVรุกธุรกิจพลังงานตั้งเป้า3ปีกำลังผลิต400-500เมกะวัตต์

BGRIM จับมือUVรุกธุรกิจพลังงานตั้งเป้า3ปีกำลังผลิต400-500เมกะวัตต์

BGRIM เผย เข้าซื้อหุ้น ยูนิเวนเจอร์ บีจีพี บริษัทย่อย UV จำนวน 2.25 ล้านหุ้น คิดเป็น 45% มูลค่า 22.5 ล้านบาท เพื่อขยายการในด้านพลังงานที่เกี่ยวข้องด้านพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เช่น โซลารูฟ โครงการสมาร์ทกริด ตั้งเป้า3ปีกำลังลิตไฟฟ้า 400-500เมกะวัตต์

บริษัทท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน)หรือ BGRIM แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)ว่า บริษัทได้เข้าลงทุนในบริษัท ยูนิเวนเจอร์ บีจีพี จำกัด (UVBGP) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท ยูนิเวนเจอร์ จำกัด (มหาชน)หรือUV โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลงทุน พัฒนาบริหารจัดการ และดำเนินการโครงการในด้านพลังงานร่วมกับ UV


ทั้งนี้บริษัทได้เข้าซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ UVBGP จำนวน 2,250,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้(พาร์)
หุ้นละ 10 บาท ในราคาจองซื้อหุ้นละ 10 บาท คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 22.5 ล้านบาท ซึ่ง UVBGP ได้ดำเนินการจดทะเบียนเพิ่มทุนดังกล่าวกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าแล้วในวันเดียวกัน

สำหรับการเพิ่มทุนจดทะเบียนของ UVBGP ส่งผลให้บริษัทและ UVมีสัดส่วนการถือหุ้นใน UVBGPเท่ากับร้อยละ 45 และร้อยละ 55 ของจำนวนหุ้นที่มีสิทธิออกเสียงทั้งหมดของ UVBGP ตามลำดับ

นายฮาราลด์ ลิงค์ ประธาน บี.กริม และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM  กล่าวว่า การร่วมทุนดังกล่าว มีเป้าหมายเพื่อลงทุนในธุรกิจพลังงานที่เกี่ยวข้องหรือสนับสนุนธุรกิจการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และอื่นๆ ครอบคลุมโครงการพลังงานในรูปแบบต่าง ๆ เช่น โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคา โครงการผลิตไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์ติดตั้งบนทุ่นลอยนํ้า โรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม โรงไฟฟ้าแบบผสมผสาน โรงไฟฟ้าชีวะมวล บริการ Energy Solution และโครงการสมาร์ทกริด โดยตั้งเป้าผลิตไฟฟ้า 400-500 เมกะวัตต์ ภายในระยะเวลา 3 ปี

ดร.ฮาราลด์ ลิงค์ กล่าวว่า การเป็นพันธมิตรธุรกิจกับ UV จะช่วยขยายโอกาสทางธุรกิจของ บี.กริม เพาเวอร์ ในการลงทุน พัฒนา บริหารจัดการและดำเนินโครงการในด้านพลังงานที่เกี่ยวข้อง หรือสนับสนุนธุรกิจการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ผ่าน UVBGP ร่วมกับ UV

นายกำพล ปุญโสณี กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ยูนิเวนเจอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ UV กล่าวเสริมว่า ในการผนึกกำลังครั้งสำคัญกับ BGRIM ซึ่งถือเป็นผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่ระดับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จะเป็นการพัฒนาต่อยอดความเชี่ยวชาญของทั้ง 2 กลุ่มธุรกิจ เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต  

"การผนึกกำลังในครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสในการลงทุนในกลุ่มธุรกิจใหม่ที่มีศักยภาพ ตามเป้าหมายของ UV ในการสร้าง Portfolio การลงทุนให้มีความสมดุล เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต พร้อมกันนั้น ยังสอดคล้องกับแผนกลยุทธ์ Diversification และ Opportunistic Investment  เป็นการพัฒนาต่อยอดจากกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ UV มีความเชี่ยวชาญทั้งในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย, อาคารสำนักงานให้เช่า และโครงการอสังหาริมทรัพย์อื่น ๆ" นายกำพล กล่าว

ปัจจุบัน บี.กริม มีโรงไฟฟ้าที่เปิดดำเนินการแล้ว 48 โครงการ รวมกำลังการผลิต 3,058 เมกะวัตต์ โดยมีทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญในการบริหารจัดการทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยบริษัทมีเป้าหมายขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าให้ได้ตามเป้าหมาย 7,200 เมกะวัตต์ในปี 2568


ทั้งนี้การเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ UV ซึ่งเป็นผู้ประกอบธุรกิจลงทุนและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลาย จะเป็นการช่วยขยายโอกาสทางธุรกิจของบริษัท ในการลงทุนพัฒนาบริหารจัดการ และดำเนินโครงการในด้านพลังงานที่เกี่ยวข้องหรือสนับสนุนธุรกิจการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ผ่านUVBGP ร่วมกับ UV