วิกฤติ 'สมุทรสาคร' สัญญาณเตือนคนไทย

วิกฤติ 'สมุทรสาคร' สัญญาณเตือนคนไทย

สถานการณ์ "โควิด-19" ที่ "สมุทรสาคร" เป็นตัวอย่างที่เห็นได้ชัดถึงการระบาดที่อยู่ในระดับรุนแรง สิ่งที่น่ากังวลคือ ความพร้อมในการรองรับผู้ติดเชื้อจำนวนมากในสมุทรสาคร ดังนั้นจึงจำเป็นที่ทุกคนต้องร่วมมือป้องกัน เฝ้าระวังไม่ให้เกิดขึ้นในพื้นที่อื่น

การระบาดของโรคโควิด-19 จะมีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นเมื่อการเฝ้าระวังและการป้องกันของทุกคนลดลง นับตั้งแต่การพบผู้ติดเชื้อที่เดินทางกลับจากประเทศเมียนมาแบบลักลอบเข้าประเทศผ่านจังหวัดเชียงราย ซึ่งการลักลอบเข้าประเทศทำให้ไม่เข้าสู่ระบบกักตัวเพื่อคัดกรองผู้ติดเชื้อโคโรนาเพื่อนำไปรักษา จึงเป็นเหตุให้ผู้ติดเชื้อกลุ่มนี้เดินทางไปหลายสถานที่และมีความเสี่ยงสูงที่จะกระจายเชื้อเพิ่มมากขึ้น

ในขณะที่การพบผู้ติดเชื้อในจังหวัดสมุทรสาครเป็นสถานการณ์ที่สร้างความตื่นตระหนกให้กับสังคม โดยข้อมูลวันที่ 20 ธ.ค.2563 ประเทศไทยพบจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 576 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยยืนยันสะสมอยู่ที่ 4,907 ราย โดยผู้ติดเชื้อรายใหม่เป็นการติดเชื้อภายในประเทศ 19 ราย เป็นการติดเชื้อในแรงงานต่างด้าวจากจังหวัดสมุทรสาคร (คัดกรองเชิงรุก) 516 ราย และเป็นผู้ติดเชื้อในสถานกักกันที่รัฐจัดให้ 41 ราย ซึ่งต่างจากสถานการณ์ก่อนหน้านี้ที่ผู้ติดเชื้อมาจากผู้เดินทางจากต่างประเทศเป็นหลัก

ข้อมูลที่น่าสนใจ คือ จำนวนผู้ติดเชื้อในแรงงานต่างด้าวจากจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งเป็นข้อมูลที่ได้จากการทำงานหนักของทุกฝ่ายเพื่อดำเนินการคัดกรองเชิงรุก และมีการประเมินว่าการตรวจเชื้อหลังจากนี้จะพบจำนวนผู้ติดเชื้อในกลุ่มแรงงานต่างด้าวเพิ่มขึ้นอีก ซึ่งทำให้จุดอ่อนของการเฝ้าระวังและป้องกันการระบาดในกลุ่มแรงงานต่างด้าว และอาจจะไม่จำกัดเฉพาะในจังหวัดสมุทรสาคร 

สิ่งที่น่ากังวล คือ ความพร้อมของการรองรับจำนวนผู้ติดเชื้อจำนวนมากในจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งมีทั้งคนไทยที่มีประวัติไปที่ตลาดกลางอาหารทะเลในจังหวัดสมุทรสาคร และคนต่างด้าวที่ทำงานในสมุทรสาคร โดยผู้ติดเชื้อดังกล่าวเข้าไปรักษาที่โรงพยาบาลหลายแห่ง เช่น โรงพยาบาลสมุทรสาคร โรงพยาบาลบ้านแพ้ว รวมถึงโรงพยาบาลเอกชนในจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งทำให้โรงพยาบาลรัฐบาลแห่งต้องออกประกาศเพื่อขอรับบริจาคอุปกรณ์ทางการแพทย์ สิ่งเหล่านี้เป็นเครื่องยืนยันว่าขีดความสามารถของสถานพยาบาลมีจำกัด

หากสถานการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นทั่วประเทศคงเป็นเรื่องยากที่สถานพยาบาลจะรองรับจำนวนผู้ติดเชื้อได้ทั้งหมด และอาจต้องสร้างโรงพยาบาลสนามจำนวนมากเพื่อรักษาผู้ติดเชื้อ สถานการณ์ที่จังหวัดสมุทรสาครเป็นตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนแล้วถึงการระบาดที่อยู่ในระดับรุนแรง จึงจำเป็นที่ทุกคนในประเทศจะต้องให้ความร่วมมือป้องกันและเฝ้าระวังเพื่อไม่ให้มีเหตุการณ์ลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้นในพื้นที่อื่น