'ณัฐวุฒิ' สวมเสื้อลิเวอร์พูล ออกจากเรือนจำ โผสวมกอด 'ภรรยา-ลูก'

'ณัฐวุฒิ' สวมเสื้อลิเวอร์พูล ออกจากเรือนจำ โผสวมกอด 'ภรรยา-ลูก'

'ณัฐวุฒิ' งดแสดงความเห็นทางการเมือง ระหว่างคุมประพฤติ ถึงปลายมีนาคม64 หลังได้รับการพักโทษ ระบุ ขอใช้ชีวิตกับครอบครัวก่อน แต่อาจหาโอกาสไปพบจตุพร ยอมรับ เจอ นักศึกษาที่เคลื่อนไหวทางการเมืองในเรือนจำ

เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. 2563 นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ อดีตแกนนำ นปช. ได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพ หลังถูกจำคุกในคดีชุมนุมปิดล้อมบ้าน พักสี่เสาเทเวศร์ ของพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์  อดีตประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เมื่อปี2550 เป็นเวลา2ปี8เดือนและได้รับการลดโทษ ทำให้เหลือโทษอีก12เดือน แต่เข้าเงื่อนไขการพักโทษตามระเบียบ โดยมี อดีตแกนนำ นปช. อย่าง ธิดา ถาวรเศรษฐ นายแพทย์เหวง โตจิราการ นายก่อแก้ว พิกุลทอง และมวลชนมารอรับ

โดยทันทีได้รับการปล่อยตัว นายณัฐวุฒิ ได้สวมกอดภรรยา และลูกทั้งสองคน ที่มารอรับกลับบ้าน รวมถึงอดีตแกนนำ นปช. และมวลชนที่ต่างมาให้กำลังใจด้วย พร้อมทั้งกล่าวว่า วันนี้ได้รับการปล่อยตัวเพราะได้รับการพักโทษเป็นกรณีพิเศษ และมาติดกำไลอีเอ็ม ฟังการใช้ การดูแลรักษา รวมถึงรับฟังเงื่อนไขการคุมประพฤติ ซึ่งไม่ได้รู้สึกอึดอัดอะไร โดยเจ้าหน้าที่ได้อธิบายเงื่อนไข การอยู่ในหลักเกณฑ์คุมประพฤติ ซึ่งได้กำหนดให้อยู่ในพื้นที่จังหวัดนนทบุรีเป็นหลัก เพราะเป็นที่พักอาศัยตามทะเบียนบ้าน ถ้าหากจะออกจากพื้นที่ จะต้องขออนุญาต และหากต้องไปทำกิจกรรมนอกพื้นที่เป็นประจำ เช่น ไปรักษาพยาบาล พาลูกไปเรียนพิเศษ ในพื้นที่ กทม.ก็จะแจ้งให้สำนักงานคุมประพฤตินนทบุรี ทราบเพื่อขอขยายพื้นที่ควบคุม

และเมื่อติดกำไลอีเอ็ม ก็ไม่สามารถเดินทางโดยเครื่องบิน และเข้าไปในบริเวณสนามบินได้ ซึ่งตนเองก็มีแนวคิดที่จะกลับไปบ้านที่จังหวัดนครศรีธรรมราชด้วย ทำให้จะต้องไปสอบถามเงื่อนไขการเดือนทางไกล และประเมินสุขภาพร่างกายตนเองเพราะจะต้องนั่งรถกลับ   และยังมีเงื่อนไขเข้ารับการฝึกอบรมจริยธรรม หลักสูตรพุทธศาสนา รวมถึงมีข้อกำหนด ห้ามแสดงท่าที แสดงความคิดเห็น แสดงสัญลักษณ์ใดๆทางการเมือง และห้ามเข้าร่วมกิจกรรมทางการเมืองใดๆทั้งสิ้น ซึ่งจะเป็นไปตามกรอบระยะเวลาการคุมประพฤติ โดยกรอบการเหลือโทษคือ ปลายเดือนมีนาคม 2564และเมื่อถอดกำไลอีเอ็มแล้ว ก็จะมีสิทธิ เสรีภาพขั้นพื้นฐาน ทำให้ขณะนี้ยังไม่สามารถให้ความเห็นใดๆทางการเมืองได้ และไม่สามารถทำกิจกรรมใดๆที่มีนัยยะทางการเมืองได้
   

นายณัฐวุฒิ ยังบอกถึงการชีวิตภายในเรือนจำด้วยว่า เป็นชีวิตปกติ เพราะอยู่มก่อนหน้านี้สองครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่สาม การปรับตัวไม่ได้เป็นปัญหา จะต่างกันแค่ช่วงควบคุมโรคระบาด เพราะต้องอยู่ในแดนของการกักตัว แต่สามารถปรับตัวและทำความเข้าใจกับเจ้าหน้าที่ได้ แต่ก็มีความห่วงใยคนข้างนอก ทั้งครอบครัวและเพื่อนร่วมอุดมการณ์

พร้อมยอมรับว่า ได้พบเจอกับกลุ่มนักศึกษาที่เคลื่อนไหวทางการเมืองอยู่ในขณะนี้ และเป็นเรื่องราวที่ได้เจอกัน ส่วนรายละเอียด รอให้มีพื้นที่ในการแสดงออกได้ก่อน จะเล่ารายละเอียดอีกครั้ง  ทั้งนี้ยังไม่ได้ติดต่อกับ นายจตุพร พรมพันธุ์ อดีตแกนนำกลุ่มนปช. เพราะพึ่งออกมา ซึ่งอาจจะหาโอกาศไปพบเจอ แต่อาจจะติดเงื่อนไขในการเดินทางหากต้องเข้าพื้นที่กรุงเทพมหานคร ทำให้จะต้องเจอผู้เล่นนนทบุรีก่อน และเข้าใจว่าเพื่อนพี่น้อง และหลายคนจะติดภารกิจทางการเมืองอยู่  และยืนยันว่า ตนเองจะเป็นนายณัฐวุฒิ คนเดิมที่แข็งแกร่ง ซึ่งหลังจากนี้จะไปทำบุญให้กับบิดาที่เสียชีวิต และจะใช้เวลาใช้ขีวิตกับครอบครัวเป็นหลัก

นายณัฐวุฒิ ยังบอกถึงการใส่เสื้อลิเวอร์พลู ออกจากเรือนจำ ว่า เพราะเป็นเสื้อที่ตนเองใส่ในวันที่ไปรับฟังคำพิพากษาศาลฎีกาและถูกตัดสินคดี รวมถึงเป็นเสื่อที่ได้เปิดประมูลที่ใช้ในการช่วยเหลือเด็กผู้ด้อยโอกาส ที่อยู่ในความดูแลของตนเอง และจะทำโครงการนี้ต่อไป