Holacracy : องค์กรธุรกิจยุคใหม่ในเขต EEC

ทำความรู้จัก "Holacracy" รูปแบบขององค์กรธุรกิจในยุคใหม่ ที่จะลบล้างอำนาจและโครงสร้างทางการบริหารออกไป มีการกำหนดหน้าที่รับผิดชอบให้ชัดเจน เพื่อให้สามารถดำเนินงานไปโดยอัตโนมัติ โดยไม่ต้องมีคนควบคุม หรือมีความเป็นผู้นำ
ปัญหาการแพร่ระบาดของ COVID-19 ในปัจจุบัน ส่งผลกระทบอย่างมากกับการดำเนินธุรกิจทั้งในระดับโลกและในประเทศไทย ระบบธุรกิจ การค้า การขายทั้งภายในประเทศและภายนอกประเทศเกิดการหยุดชะงักจากภาวการณ์ปิดประเทศเพื่อควบคุมการแพร่ระบาด ผลของการแพร่ระบาดของ COVID-19 ก่อกำเนิดวิถีชีวิตแบบใหม่ที่เรียกว่า New normal ส่งผลให้รูปแบบการใช้ชีวิตประจำวันของผู้คนเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
ในขณะเดียวกันองค์กรธุรกิจก็จำเป็นที่จะต้องมีการปรับกลยุทธ์การบริหารจัดการองค์กรในทุกมิติ เพื่อให้เกิดความเหมาะสมกับสถานการณ์ แล้วรูปแบบการบริหารจัดการองค์กรแบบใด จึงจะเหมาะสมและสามารถนำพาองค์กรไปรอดได้ โดยเฉพาะองค์กรธุรกิจในเขต EEC ที่กำลังได้รับการพัฒนาจากภาครัฐอย่างต่อเนื่อง
แนวคิดองค์กรแบบ Holacracy มีหลักการพื้นฐาน คือ การลบล้างอำนาจและโครงสร้างทางการบริหารออกไป และมีการกำหนดหน้าที่รับผิดชอบให้ชัดเจน เพื่อให้สามารถดำเนินงานไปโดยอัตโนมัติ โดยไม่ต้องมีคนควบคุม มีความเป็นผู้นำ มีการกระจายอำนาจและการตัดสินใจไปทั่วทั้งองค์กร ไม่มีลำดับชั้นในองค์กร มีความคล่องตัวและสามารถบรรลุผลสำเร็จตามเป้าหมายได้โดยไม่ยึดติดกับวันเวลาและแผนที่ตายตัว
องค์กรแบบ Holacracy เป็นความสมบูรณ์แบบของระบบที่ใช้ในการบริหารตนเองสำหรับองค์กร ซึ่งจะช่วยเพิ่มความโปร่งใส ความสำนึกรับผิดชอบและความคล่องตัวให้กับองค์กร โดยมีการมอบหมายหน้าที่รับผิดชอบอย่างชัดเจน และการกระจายอำนาจให้กับพนักงานในบทบาทการเป็นผู้นำ เพื่อให้สามารถตัดสินใจที่สำคัญได้ ในขณะที่ Robertson (2015) ได้กล่าวว่า รูปแบบการขับเคลื่อนขององค์กรแบบ Holacracy นั้น จะต้องใช้การขับเคลื่อนอย่างเอาจริงเอาจัง (Tension) เพื่อให้ระบบสามารถที่จะทำงานได้ด้วยตัวของมันเอง (Autonomous)
Rouse (2015) ได้ให้ความเห็นว่า องค์กรแบบ Holacracy เป็นองค์กรที่มีโครงสร้างการบริหารจัดการเป็นแบบราบเรียบ (Flat) ไม่มีลำดับชั้นการบริหาร สามารถดูแลรับผิดชอบตัวเองตามบทบาทและหน้าที่โดยปราศจากการควบคุม มีการกระจายอำนาจและการตัดสินใจไปสู่กลุ่มต่างๆ เพื่อให้สามารถบริหารจัดการตนเองได้อย่างมีธรรมาภิบาลและสำนึกรับผิดชอบในตัวเอง รวมถึงการนำนวัตกรรมเข้ามาช่วยในการดำเนินงาน ซึ่งจะทำให้การบริหารองค์กรมีประสิทธิภาพมากขึ้น และมีความคล่องตัวมากขึ้น
จะเห็นได้ว่า องค์กรแบบ Holacracy มีข้อดีคือ มีโครงสร้างการบริหารจัดการจะต้องเป็นแบบราบเรียบ (Flat) ไม่มีลำดับขั้น ไร้หัวหน้าหรือผู้คุมงาน และพนักงานแต่ละคนมีความรับผิดชอบในตัวสูง มีการบริหารองค์กรเป็นเครือข่ายเชื่อมโยงกับองค์กรอื่นๆ มีความยืดหยุ่นสามารถปรับเปลี่ยนได้ตลอดเวลา มีการกระจายอำนาจในการตัดสินใจไปยังกลุ่มหรือที่และทำงานแบบแบบอัตโนมัติ
ในขณะเดียวกันก็ต้องมีความคล่องตัวและมีการกำหนดหน้าที่ความรับผิดชอบอย่างชัดเจน มีธรรมาภิบาล โปร่งใส และสามารถตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน รวมถึงมีการใช้นวัตกรรมและระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาช่วยในการบริหารจัดการด้วย







