หุ้นกลุ่ม‘อิเล็กทรอนิกส์’พุ่ง เก็ง‘สหรัฐ-ยุโรป’เปิดเมือง

หุ้นกลุ่ม‘อิเล็กทรอนิกส์’พุ่ง  เก็ง‘สหรัฐ-ยุโรป’เปิดเมือง

ราคาหุ้นกลุ่ม"ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์"เด้งขึ้นยกแผง ขานรับแรงซื้อเก็งกำไรของนักลงทุน ลุ้น"สหรัฐ-ยุโรป"ทยอยเปิดเมือง หนุนยอดคำสั่งซื้อสินค้าในต่างประเทศเพิ่มขึ้น ด้านโบรกเกอร์ประเมินงบครึ่งปีแรกย่ำแย่ แต่มองช่วงครึ่งปีหลังส่อแววฟื้นตัว

วานนี้ (29 เม.ย.2563) พบความเคลื่อนไหวราคาหุ้นกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ปรับตัวเพิ่มขึ้นกันถ้วนหน้า  รับข่าวตลาดสหรัฐและยุโรปอาจจะมีการทยอยเปิดเมือง เป็นปัจจัยบวกต่อคำสั่งซื้อสินค้าจากตลาดเหล่านี้ที่น่าจะกลับมา ทำให้นักลงทุนเข้ามาเก็งกำไรหนุนราคาหุ้นให้ปรับขึ้น นำโดยบริษัท เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ KCE ปิดตลาดมาอยู่ที่ระดับ 15.70 บาท เพิ่มขึ้น 0.70 บาท หรือ 4.67% มูลค่าการซื้อขาย 773 ล้านบาท

บริษัทเดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DELTA ปิดตลาดมาอยู่ที่ระดับ 45.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาท หรือ 4.05% มูลค่าการซื้อขาย 60.62 ล้านบาท,บริษัท ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส จำกัด (มหาชน) หรือ HANA ปิดตลาดมาอยู่ที่ระดับ 27.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ 3.74% มูลค่าการซื้อขาย 140 ล้านบาท และบริษัท เอสวีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ SVI ปิดตลาดมาอยู่ที่ระดับ 2.44 บาท เพิ่มขึ้น 0.01 บาท หรือ 1.61% มูลค่าการซื้อขาย 0.24 ล้านบาท

นายอเนกพงศ์ พุทธาภิบาล ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเชีย พลัส จำกัด เปิดเผยว่า คาดว่าราคาหุ้นในกลุ่มชิ้นส่วนฯที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นนั้น น่าจะมาจากแรงซื้อเก็งกำไรของนักลงทุนเพื่อลุ้นการทยอยเปิดเมืองของประเทศในยุโรปและสหรัฐฯ ซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มลูกค้าหลักของกลุ่มชิ้นส่วนฯที่น่าจะหนุนคำสั่งซื้อ (ออเดอร์) ให้ฟื้นตัว  ประกอบกับในช่วงที่ผ่านมา DELTA ประกาศงบออกมาดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ จึงทำให้นักลงทุนบางส่วนเชื่อว่าหุ้นกลุ่มชิ้นส่วนฯอื่นๆก็จะประกาศงบออกมาไม่ได้แย่กว่าที่คาดไว้เช่นกัน

ทั้งนี้ เบื้องต้นคาดว่าผลประกอบการของกลุ่มชิ้นส่วนฯในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้น่าจะออกมาไม่ดีนัก เนื่องจากมีผลกระทบจากมาตรการปิดเมืองของหลายประเทศ ซึ่งทำให้ลูกค้ากลุ่มโรงงานทั้งในประเทศจีน,ยุโรป และสหรัฐฯยังคงต้องปิดสายการผลิตและทำให้ออเดอร์ปรับตัวลดลง ขณะที่คาดว่าผลการดำเนินงานน่าจะทยอยฟื้นตัวในช่วงครึ่งปีหลัง เพราะหลายประเทศเริ่มส่งสัญญาณเปิดเมืองและช่วยหนุนกำลังซื้อให้ฟื้นตัวขึ้น รวมถึงในช่วงไตรมาส 3 มักเป็นช่วงไฮซีซั่นของกลุ่ม

อย่างไรก็ตาม มองว่าในส่วนของผลการดำเนินงานของกลุ่มชิ้นส่วนฯปีนี้ ยังคงเผชิญกับแรงกดดันในหลายๆด้าน ทั้งจากผลกระทบของการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) และภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงซึ่งฉุดกำลังซื้อของผู้บริโภค โดยเฉพาะการใช้จ่ายด้านอุปกรณ์เครื่องใช้อิเล็กทรอนิกส์ให้หดตัวลง แม้อาจมีแรงหนุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงในช่วงนี้บ้าง โดยประเมินว่ากำไรกลุ่มชิ้นส่วนฯปีนี้จะอยู่ที่ระดับ 5,000 ล้านบาท หรือลดลง 17.2% จากปีก่อนที่ทำได้ 6,100 ล้านบาท

“เรายังให้น้ำหนักกลุ่มชิ้นส่วนฯน้อยกว่าตลาด เพราะความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจและออเดอร์ที่ยังไม่กลับมาสู่ระดับปกติ โดยยังคงแนะนำขายทั้ง DELTA, HANA, KCE และ SVI” นายอเนกพงศ์ กล่าว