ชี้บึ้ม 'ศอ.บต.ยะลา' คนร้ายโต้กลับจนท. หลังถูกกดดันหนัก

ชี้บึ้ม 'ศอ.บต.ยะลา' คนร้ายโต้กลับจนท. หลังถูกกดดันหนัก

ผบ.ตร.ยกคณะลงใต้ ร่วมตรวจจุดวางระเบิดหน้า ศอ.บต.ยะลา ไล่หาเบาะแส ตรวจสอบกล้องวงจรปิด รองโฆษก ตร.ชี้ผลสอบเบื้องต้น ชี้กลุ่มก่อเหตุในพื้นที่ โต้กลับหลังถูกรัฐ ปิดล้อมไล่จับ กดดันอย่างหนัก

จากเหตุลอบวางระเบิด หน้าสำนักงานศูนย์อำนวยการบริหารส่วนตำบล( ศอ.บต.) ยะลา เมื่อช่วงสายของวันนี้ (17 มี.ค. 2563) เป็นเหตุให้มีตำรวจได้รับบาดเจ็บ 5 นาย ถูกนำส่ง โรงพยาบาลศูนย์ยะลา 3 ราย โรงพยาบาลศิริยะลารัตนรักษ์ 2 ราย

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. กล่าวถึงความคืบหน้าจากเหตุดังกล่าวว่า พลตำรวจเอก จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พร้อมด้วย พลตำรวจโท รณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 9 พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต., พลตำรวจตรี ปราบพาล มีมงคล ผู้บังคับการตำรวจภูธร จังหวัดยะลา, เดินทางไปลงพื้นที่หลังเกิดเหตุทันที

ขณะที่พนักงานสอบสวน ,ตำรวจชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด หรืออีโอดี เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันตรวจสอบจุดเกิดเหตุ ซักถามพยานที่เห็นเหตุการณ์และผู้ที่เกี่ยวข้องและให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ลงพื้นที่หาเบาะแสหรือข้อมูลของคนที่ก่อเหตุและตรวจสอบไล่กล้องวงจรปิดในพื้นที่ที่เกิดเหตุ


พร้อมกันนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ยังได้มอบเงินบำรุงขวัญ ให้แก่ เจ้าหน้าที่และหน่วยงานในพื้นที่ สำหรับใช้ในการปฏิบัติงานและเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้แก่เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่
จากการสืบสวนสอบสวนเบื้องต้น น่าเชื่อว่าเกิดจากฝีมือของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ หวังสร้างสถานการณ์และประสงค์ต่อชีวิตของเจ้าหน้าที่ จากการปิดล้อม กดดันจับกุมกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่

รองโฆษก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวอีกว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้ ผบ.ตร.ได้มีข้อสั่งการให้ สถานีตำรวจในพื้นที่ เพิ่มมาตรการในการเฝ้าระวังและการป้องกันเหตุความไม่สงบในพื้นที่โดยรอบของสถานีตำรวจและหน่วยราชการต่างๆ รวมไปถึงให้เพิ่มความเข้มงวดการตรวจตราสถานที่ต่างๆ เช่น แหล่งชุมชน สถานที่ท่องเที่ยว หรือ สถานที่สำคัญ ที่อาจเป็นเป้าหมาย เพื่อป้องกันการเกิดเหตุในลักษณะแบบนี้ ตลอดจนเพิ่มมาตรการเข้ม ทั้งจุดตรวจ จุดสกัด ในการตรวจค้นรถทุกชนิดและบุคคลเป้าหมาย ตามเส้นทางหลักและเส้นทางรอง จัดชุดลาดตระเวนในพื้นที่ย่านเศรษฐกิจ และชุมชน

โดยเน้นย้ำว่า หากเกิดเหตุขึ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเร่งสืบสวนสอบสวน ขยายผล จับกุมผู้ก่อเหตุได้ทันท่วงที เพื่อสร้างความมั่นใจและเพิ่มความปลอดภัยให้แก่ประชาชน นักท่องเที่ยวและนักลงทุนในพื้นที่ ทั้งนี้ก็ขอความร่วมมือประชาชนในการช่วยเป็นหูเป็นตา สังเกตบุคคล วัตถุต้องสงสัย หรือ วัตถุที่ไม่มีเจ้าของอยู่ผิดที่ ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ทันที หรือ โทรศัพท์แจ้งเหตุร้ายเหตุด่วน ที่หมายเลข 191 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง