จีนในสมการ 'สหรัฐ-อิหร่าน'

จีนในสมการ 'สหรัฐ-อิหร่าน'

ในช่วงที่ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับอิหร่านระอุช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา จากเหตุโดรนสหรัฐถล่มขบวนรถปลิดชีพ กาเซ็ม โซไลมานี นายพลคนสำคัญของอิหร่าน เสียชีวิตในดินแดนอิรัก หลายคนตั้งคำถามถึงจีนว่ามีบทบาทอย่างไรในวิกฤตินี้

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า การที่รัฐบาลปักกิ่งไม่พูดอะไรกรณีลอบสังหารโซไลมานีชี้ว่า จีนยังไม่พร้อมร่วมวงกับรัสเซียเข้าไปมีบทบาทโดยตรงมากขึ้นในความขัดแย้งของตะวันออกกลาง

บลูมเบิร์กระบุว่า ถึงแม้ หวัง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวว่า จีนกังวลมากกับการกระทำที่ไม่อาจยอมรับได้ แต่เขาไม่ได้ใช้คำว่า “ประณาม” เหมือนอย่างที่จาวาด ซาริฟ รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่านและเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียใช้ ในทางกลับกันหวังอี้บอกกับซาริฟว่าจีนจะแสดงบทบาทสร้างสรรค์ช่วยปกป้องความมั่นคงในภูมิภาค และคุยโทรศัพท์กับลาฟรอฟแจ้งว่า ทุกฝ่ายต้องยึดมั่นในกฎหมายระหว่างประเทศ

ความเห็นของหวัง อี้ สอดคล้องกับการดำเนินการของจีนในอดีต ที่หลีกเลี่ยงไม่เข้าไปผูกพันในตะวันออกกลางด้วยอาจปะทะกับสหรัฐและพันธมิตรได้ ถึงขณะนี้รัฐบาลปักกิ่งยังต่อต้านความพยายามกดดันอิหร่านของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ไม่มากนัก แค่ปกป้องข้อตกลงนิวเคลียรอิหร่านและวิจารณ์ที่สหรัฐคว่ำบาตรอิหร่านแต่เพียงฝ่ายเดียว

157840287693
- หวัง อี้ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของจีน (ขวา) และจาวาด ซารีฟ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของอิหร่าน -

เมื่อวันจันทร์ (6 ธ.ค.) ตามเวลาท้องถิ่นนิวยอร์ก สหรัฐกล่าวหาจีนว่าเข้าข้างรัสเซีย ขวางข้อมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) ประณามการโจมตีสถานทูตสหรัฐในกรุงแบกแดด ก่อนที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ตัดสินใจสั่งโจมตีโซไลมานี ทูตสหรัฐประจำยูเอ็นกล่าวว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้เกิดความเคลือบแคลงต่อความน่าเชื่อถือของยูเอ็นเอสซี

ทั้งนี้ มีข้อบ่งชี้เพียงเล็กน้อยว่า มรณกรรมของโซไลมานีจะกระตุ้นให้จีนหันเหออกจากการวางตัวอย่างสมดุลในอดีต โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อประธานาธิบดีสี จิ้นผิง พยายามทำข้อตกลงการค้าเฟส 1 กับทรัมป์ในเดือนนี้ พร้อมๆ กับที่จีนเพิ่มความร่วมมือทางทหารกับรัสเซีย และขยายความสัมพันธ์กับเตหะราน แถมยังต้องพึ่งพาซาอุดีอาระเบียคู่อริอิหร่าน ในฐานะซัพพลายเออร์น้ำมันรายใหญ่อันดับ 1 ของโลกด้วย

“จีนกำลังตกอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ทั้งไม่อยากยั่วยุรัฐบาลทรัมป์ แต่ก็เป็นพันธมิตรทางยุทธศาสตร์ที่ลึกซึ้งกับรัสเซีย แถมยังมีผลประโยชน์ในอิหร่าน ผมหวังว่ารัฐบาลจีนจะยึดมั่นในท่าทีนุ่มนวล เรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายอดทนอดกลั้น ละเว้นไม่ทำให้ความตึงเครียดบานปลาย” ฉียินฮอง ที่ปรึกษาคณะรัฐมนตรีจีน และอาจารย์ภาควิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยเหริ่นหมินในกรุงปักกิ่งให้ความเห็น

ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จีนและรัสเซียกระชับสัมพันธ์ทางทหารกันมากขึ้น ทั้งซ้อมรบร่วมประจำปีและประสานนโยบายความมั่นคงทั่วเอเชียผ่านองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ ประธานาธิบดีสีและประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน เจอกันกว่า 30 ครั้งแต่ตั้งปี 2556 เป็นต้นมา ผู้นำจีนถึงกับเรียกผู้นำรัสเซียว่า เป็นเพื่อนต่างชาติที่สนิทที่สุด ส่วนปูตินเรียกความสัมพันธ์รัสเซีย-จีนว่า ดีถึงระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน

ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญด้านจีนเตือนว่า ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐกับอิหร่านอาจกระทบผลประโยชน์จีนในอ่าวเปอร์เซีย และความร่วมมือที่ทำกับอิหร่านและอิรัก รัฐบาลจีนจะต้องใช้การทูตป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เลยเถิดไปมากกว่านี้

โมฮัมหมัด เคชาวาร์ซซาเดห์ ทูตอิหร่านประจำปักกิ่ง เผยกับหนังสือพิมพ์โกลบอลไทม์ส เมื่อวันจันทร์ (6 ม.ค.) ว่า อิหร่านสามารถปกป้องผลประโยชน์จีนในปัจจุบันได้ และหวังว่ารัฐบาลปักกิ่งแสดง “บทบาทสร้างสรรค์”ในความความขัดแย้งอันมีสาเหตุมาจากสหรัฐโจมตีทางอากาศสังหารนายพลโซไลมานี

“จีนมีบทบาทสร้างสรรค์และสำคัญมากในยูเอ็นเอสซี เราหวังว่าจีนสามารถใช้เวทีระหว่างประเทศอย่างยูเอ็นเอสซี แสดงบทบาทสร้างสรรค์ในสถานการณ์ปัจจุบัน”

หัว หลี่หมิง อดีตทูตจีนประจำอิหร่าน กล่าวว่า จีนมีผลประโยชน์สำคัญในต่างแดนโดยเฉพาะผลประโยชน์ด้านพลังงานในอิรักและอิหร่าน

“จีนจะจับตาสถานการณ์นี้และช่วยทั้งสองฝ่ายป้องกันไม่ให้ขัดแย้งมากขึ้น ในขั้นนี้การดำเนินการทางการทูตเป็นสิ่งดีที่สุดที่เราทำได้” อดีตทูตกล่าวและว่า ไม่น่าจะเป็นไปได้ที่จีนจะส่งกำลังทหารเข้าไปในตะวันออกกลางมากขึ้นเพราะจะทำให้สถานการณ์ยุ่งยาก

จิน ชานหรง รองคณบดี วิทยาลัยการระหว่างประเทศศึกษา มหาวิทยาลัยเหริ่นหมิน มองว่า การลอบสังหารนายพลคนสำคัญของอิหร่านชี้ว่า ยุทธศาสตร์ของวอชิงตันต่อตะวันออกกลางล้มเหลว พิสูจน์ว่าสหรัฐไร้ความสามารถในการจัดการสถานการณ์

“การตัดสินใจแบบนี้แสดงให้เห็นว่า สหรัฐไม่มีทางเลือกที่ดีกว่าหรือไร้ความสามารถในการจัดการกับอิหร่านและกองกำลังต่างๆ ในอิรัก ด้วยวิธีที่สมเหตุสมผลและต้นทุนต่ำกว่านี้” นักวิชาการรายนี้กล่าว