ตลท.ปลื้มมาร์เก็ตแคปทะลุ5.5แสนล.

ตลท.ปลื้มมาร์เก็ตแคปทะลุ5.5แสนล.

ตลาดหลักทรัพย์ฯ คาดมาร์เก็ตแคปจากการระดมทุนของบริษัทจดทะเบียนปีนี้เกิน 5.5 แสนล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อนและถือว่าสูงจากเป้าหมายในอดีต พร้อมลุ้นช่วงเดือนธ.ค.น้องใหม่กระจุกเข้าตลาดมากกว่า 10 บริษัท

นายแมนพงศ์ เสนาณรงค์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ คาดว่ามูลค่ามาร์เก็ตแคปจากการระดมทุนของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ปีนี้จะทำได้มากกว่าระดับ 5.5 แสนล้านบาท ซึ่งปรับตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อนและถือว่าสูงจากเป้าหมายในอดีตที่มักตั้งไว้ในระดับดังกล่าว ซึ่งเป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของมาร์เก็ตแคปการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนครั้งแรก (ไอพีโอ) และการระดมทุนในตลาดรองของบริษัทจดทะเบียนที่เพิ่มมากขึ้น

ทั้งนี้มองว่าปีนี้เป็นปีที่ดีของการระดมทุนของ บจ.โดยมีการเสนอขายหุ้นไอพีโอของบริษัทใหม่และการเพิ่มทุนของบจ.เดิมที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างคึกคัก ซึ่งในส่วนของตลาดหุ้นไอพีโอช่วงที่ผ่านมา (YTD) มีบริษัทเข้าระดมทุนในตลาดแล้วมากกว่า 20 บริษัท ซึ่งแบ่งเป็นตลาดหลักทรัพย์ฯ SET จำนวน 10 บริษัท และตลาดหลักทรัพย์ฯ mai จำนวน 11 บริษัท ขณะที่ช่วงที่เหลือของปีนี้นั้นคาดว่าจะมีบริษัทน้องใหม่ทยอยเดินสายเข้ามาระดมทุนในตลาดหุ้นอีกจำนวนมาก โดยเฉพาะในช่วงเดือนธ.ค.2562 ที่เบื้องต้นจะมีบริษัทใหม่แห่เข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯมากกว่า 10 บริษัท

157189943044

“เรามั่นใจว่ามาร์เก็ตแคปจากการระดมทุนของบจ.ปีนี้จะเกิน 5.5 แสนล้านบาท ซึ่งถือว่าโตจากปีก่อนและเลยจากธงที่เคยตั้งไว้ในอดีตเก่าก่อน ซึ่งการปรับตัวเพิ่มขึ้นของมาร์เก็ตแคปนั้นมาจากทั้ง 2 ส่วน อาทิ การเสนอขายหุ้นไอพีโอและการเพิ่มทุนของบจ.เดิมที่อยู่ระดับประมาณส่วนละ 2.7-2.8 แสนล้านบาท”

ส่วนทิศทางแนวโน้มการระดมทุนของบจ.ในช่วงปี 2563 ตลาดหลักทรัพย์ฯมองจากเทรนด์ในปัจจุบันเชื่อว่ายังทิศทางการเติบโตที่ดีอยู่ เพราะดูจากความสนใจของบริษัทที่อยู่ในระหว่างการยื่นคำขอเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นและอัตราการเจริญเติบโตของจีดีพีประเทศ อย่างไรก็ตามนอกเหนือจากปัจจัยดังกล่าวการเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯที่สำคัญก็ขึ้นอยู่กับภาวะตลาดหุ้นด้วย

“มองว่าปัจจุบันมี 3 ปัจจัยหลักๆที่จะผลักดันทำให้บริษัทเข้ามาระดมทุนเพิ่มมากขึ้น คือ 1.การเตรียมตัวของบริษัท,2.ความต้องการใช้เงินทุน และภาวะตลาดหุ้น อย่างไรก็ตามตลาดหลักทรัพย์ฯไม่ได้ตั้งเป้ามูลค่ามาร์เก็ตแคปหุ้นไอพีโอว่าแต่ละปีจะเป็นมูลค่าเท่าไหร่ แต่จะเน้นดูความสอดคล้องการเติบโตของจีดีพีประเทศและคุณภาพของบริษัทที่เข้ามาจดทะเบียน”