'อนุทิน' มั่นใจภท.เป็นแกนตั้งรบ. ลั่นชิงนายกฯกับ 'ประยุทธ์-สมคิด'

'อนุทิน' มั่นใจภท.เป็นแกนตั้งรบ. ลั่นชิงนายกฯกับ 'ประยุทธ์-สมคิด'

"หัวหน้า ภท." ลั่นชิงนายกฯ ไม่กลัวคู่แข่ง "ประยุทธ์-สมคิด" เผยมั่นใจเป็นแกนนำตั้งรัฐบาล ย้ำเลือกได้ใครจะมาอยู่ข้างเรา

ผู้สื่อข่าวรานงานว่า ช่วงเช้าวันนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และสมาชิกพรรค อาทิ นายสรอรรถ กลิ่นประทุม ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาพรรค, นายทรงศักดิ์ ทองศรี รองหัวหน้าพรรค นายสุนทร วิลาวัลย์ รองหัวหน้าพรรค, พันเอก ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ โฆษกพรรค และทีมผู้สมัครกรุงเทพมหานคร นำโดยนายสุวัจน์ ม่วงศิริ ผู้สมัครส.ส.กทม.เขตจอมทอง ร่วมงานเปิดสาขาพรรคพื้นที่บางแค โดยมีนายจิตรภณ ทิพย์โภคาสกุล ผู้สมัครส.ส.เขตบางแค พรรคภูมิใจไทยคอยต้อนรับ ท่ามกลางประชาชนที่มาต้อนรับกว่า 500 คน

นายอนุทิน กล่าวว่า พรรคภูมิใจไทย ต้องการปักธงในพื้นที่ กทม. ที่ผ่านมาทำงานเต็มที่ ผู้สมัครลงพื้นที่ไม่ได้พัก สำหรับนายจิตรภณ เป็นลูกหลานคนบางแค รู้จักพื้นที่และมีไฟในการทำงาน ขยัน คิดดี เป็นบุคคลน่าชื่นชมที่กล้าลงมาทำงานการเมือง

เมื่อถามว่าพรรคมุ่งมั่นแค่ไหนกับพื้นที่กรุงเทพ ฯ นายอนุทินกล่าวว่า พรรคตั้งใจปักธงในทุกพื้นที่ สำหรับ กทม. นโยบายที่สำคัญคือ co working space หรือการให้ภาครัฐสร้างออฟฟิศตามจุดต่างๆ ดักนักธุรกิจสตาร์ทอัพ ไม่ต้องเดินทางเข้าเมือง เพื่อลดปัญหาจราจร เช่นเดียวกับนโยบายทำงานที่บ้าน 1 วันเราก็หวังให้ลดจำนวนคนเข้าเมือง แก้ปัญหาวิกฤติฝุ่นอย่างยั่งยืน

นายอนุทินกล่าวว่า ส่วนที่มีการบอกว่าทำงาน 4 วัน จะทำให้กำลังการผลิตของชาติลดลง ขอย้ำว่า พรรคให้ทำงานตามปกติ ใครจะทำงาน 5 วันก็ทำงาน 5 วันเหมือนเดิม แต่ 1 วัน เราเสนอให้ทำงานที่บ้าน

นายอนุทิน กล่าวว่า ถึงเวลาที่ประชาธิปไตยจะเดินหน้า นี่คือเวลาของประชาธิปไตยที่แท้จริง พรรคสนับสนุนระบอบประชาธิปไตยอยู่แล้ว ในเรื่องกฎกรอบของ กกต. ที่ให้ผู้สมัครต้องยื่นภาษีย้อนหลัง 3 ปี พรรคไม่มีปัญหา เพราะพรรคนั้นมีแต่คนทำมาหากิน เราพร้อมแล้วถึงมาช่วยประชาชน คนทำไม่ทำงานทำการ พรรคไม่ยุ่งเกี่ยวด้วย

เมื่อถามถึงกรณีที่พรรคพลังประชารัฐ จะส่งชื่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ในรายชื่อบัญชีนายกฯ นายอนุทิน กล่าวว่า จะส่งใครมาตนก็ไม่กลัว ตนมาไกลขนาดนี้แล้ว ยิ่งทำงาน ยิ่งมั่นใจ ส่วนที่บอกว่าเราจะไปอยู่ข้างใคร ตอนนี้พรรคคิดไปถึงการเป็นแกนนำตั้งรัฐบาล ดังนั้น คำถามจึงต้องเปลี่ยนว่าใครจะมาอยู่ข้างเรา