"ผอ.ฉาว" โผล่รับทราบข้อกล่าวหากระทำชำเราเด็กนักเรียนหญิงแล้ว พร้อมปฏิเสธทุกข้อหา ด้านคุรุสภาจ่อถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูและใบอนุญาตประกอบวิชาชีพผู้บริหาร
ความคืบหน้ากรณี ผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่ง ใน อำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา มีพฤติกรรมชู้สาวกับเด็กนักเรียนหญิง ม.2อายุ14ปี และถูกดำเนินการเอาผิดทั้งทางวินัยร้ายแรง และคดีอาญาไปพร้อมกัน โดยล่าสุดผู้ปกครองของเด็กนักเรียนหญิง ชั้น ม.2วัย14ปี ได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรบัวใหญ่ ให้ดำเนินคดีกับผอ.โรงเรียนดังกล่าว และเด็กนักเรียนชายชั้น ม.3ที่เป็นแฟนเก่ากับลูกสาวตัวเอง ในข้อหาพรากผู้เยาว์ฯ และกระทำชำเราเด็กหญิงอายุไม่เกิน15ปี โดยตำรวจนัดนายณฐาภพฯให้เข้ารับทราบข้อกล่าวหาในวันนี้นั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 12.06 น.วันนี้ 7กุมภาพันธ์2561 ผู้อำนวยการโรงเรียนดังกล่าว พร้อมด้วยทนายความ ได้เดินทางไปมอบตัว และรับทราบข้อกล่าวหาพรากผู้เยาว์เด็กอายุไม่เกิน15 ปี ไปเสียจากบิดามารดาเพื่อการอนาจาร และข้อหากระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน15ปี กับพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรบัวใหญ่ ตามที่แม่ของเด็กนักเรียนหญิงชั้น ม.2 วัย 14 ปี เข้าแจ้งความดำเนินคดี โดยได้ให้การปฏิเสธทุกข้อหา และขอไปให้การในชั้นศาล
หลังจากสอบปากคำเบื้องต้น พนักงานสอบสวนได้นำตัวผอ.ฉาว ไปขออำนาจศาลจังหวัดบัวใหญ่ฝากขัง เนื่องจากคดีนี้มีอัตราโทษสูง ซึ่งขณะนี้ผอ.ฉาว ได้ให้ทนายทำเรื่องขอใช้หลักทรัพย์ยื่นประกันตัวจากศาลทันที
ขณะที่การดำเนินการสอบสวนวินัยร้ายแรงกับ ผอ.โรงเรียนรายนี้ คณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง 3 คน ที่ทางศึกษาธิการจังหวัดนครราชสีมาได้แต่งตั้งขึ้นมา ยืนยันว่าจะสรุปผลการสอบสวนวินัยร้ายแรงได้ภายใน 60 วัน ตามที่นายการุณ สกุลประดิษฐ์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการได้เร่งรัดให้คณะกรรมการดำเนินการสอบสวนให้ทราบผลโดยเร็วที่สุดโดยล่าสุดเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2561 คณะกรรมการฯได้ลงพื้นที่อ.บัวใหญ่เพื่อสอบพยานแวดล้อมและรวบรวมพยานหลักฐานที่โรงเรียนบ้านป่าตองท่าเนินสามัคคีและที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 6 พร้อมแจ้งข้อกล่าวนายณฐาภพฯและเปิดโอกาสให้นายณฐาภพเข้าให้ปากคำและแก้ข้อกล่าวหาภายใน 15 วันจนถึงขณะนี้นายณฐาภพฯยังไม่เข้าพบคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงแต่อย่างใด
ในขณะเดียวกันสำนักงานคุรุสภา ก็ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่อ.บัวใหญ่เพื่อมารวบรวมข้อมูลหลักฐานการกระทำผิดต่างๆไปประกอบการพิจารณาเสนอถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูและใบอนุญาตประกอบวิชาชีพผู้บริหารด้วยแล้ว