สาวแชทบีทอล์ก3เดือน ถูกหลอกเชิดกระบะป้ายแดง สูญเกือบล้าน

สาวแชทบีทอล์ก3เดือน ถูกหลอกเชิดกระบะป้ายแดง สูญเกือบล้าน

สาวขอนแก่นแชทบีทอล์คหนุ่ม3เดือน ตัดสินใจใช้ชีวิตคู่ ฝ่ายชายช่วยดาวน์รถ40,000บาท เพียง20นาที ใช้อุบายหลอกเชิดรถป้ายแดงคันเกือบล้านบาทหนี

ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก น.ส.จรรยพร แจ่มจันทร์ อายุ 37 ปี ชาวอำเภอบ้านฝาง จ.ขอนแก่น ว่าถูกชายหนุ่มที่รู้จักกันทางบีทอล์คนาน 3 เดือน หลอกเชิดรถกระบะสี่ประตูป้ายแดงไปตั้งแต่วันที่ 9 ธ.ค. 59 ทำให้ได้รับความเดือดร้อนต้องแบกรับภาระผ่านจ่ายงวดละกว่า 10,000 บาท

น.ส.จรรยพร กล่าวว่า มีอาชีพเป็นพนักงานบริษัทแห่งหนึ่งในจังหวัดขอนแก่น พร้อมกับทำธุรกิจส่วนตัวควบคู่กัน เมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมามีชายอ้างตัวว่าชื่อ นายโล เข้ามาทักและขอเป็นเพื่อนในบีทอล์คจึงได้พูดคุยทำความรู้จักกัน ที่ผ่านมาฝ่ายชายเคยเดินทางมาหาที่ขอนแก่น 2 ครั้ง ทราบแต่เพียงว่าฝ่ายชายเป็นชาว อ.พิมาย จ.นครราชสีมา ทำธุรกิจคาร์แคร์กับครอบครัว กำลังจะขยายกิจการมาลงทุนเปิดสาขาที่ขอนแก่น แต่ยังไม่เคยไปบ้านและไม่รู้ชื่อ นามสกุลจริงของฝ่ายชาย เรียกเพียงชื่อเล่น เมื่อตัดสินใจคบหาดูใจกัน ประกอบกับ น.ส.จรรยพร ต้องการขยายกิจการ จึงตัดสินใจซื้อรถกระบะคันใหม่ เพื่อใช้งานดูแลธุรกิจร่วมกัน

“รถที่ซื้อเป็นเงินและชื่อของตัวเองทั้งหมด ฝ่ายชายไม่ได้ช่วย ส่วนที่ทำให้เชื่อใจเพราะเวลาพูดคุยกัน ผู้ชายคนนี้จะพูดถึงครอบครัว พูดถึงแม่ ดูเป็นคนจริงจัง อบอุ่น รักครอบครัว แต่งตัวดี หน้าตาดี ไม่เหมือนมิจฉาชีพ เมื่อได้มาคบหาดูใจกันจึงคุยกับเขาว่าอยากซื้อรถกระบะเพื่อต่อยอดทำธุรกิจ ครั้งแรกที่ไปจองรถตั้งใจออกรถกระบะแคป ผ่านไป 2 อาทิตย์ เขาโทรศัพท์กลับมาบอกว่า แม่ให้ซื้อรถกระบะ 4 ประตู เพราะใช้งานได้มากกว่า ช่วงแรกปฏิเสธเพราะใช้เงินดาวน์ 130,000 บาท แต่มีไม่พอ เขาอ้างว่าแม่จะช่วยที่เหลือ 40,000 บาท จึงบอกฝ่ายชายว่าเงินจำนวนนี้จะเป็นเงินขอยืม หากมีเงินจะคืนให้ และเชื่อว่าไม่มีปัญหา ตัดสินใจหาฤกษ์ฤกษ์ดีออกรถเมื่อวันที่9ธ.ค.59”น.ส.จรรยพร กล่าว

กระทั่งวันที่ 9 ธ.ค. 59 ทั้งคู่เดินทางมารอดำเนินการเรื่องรถที่ศูนย์รถยนต์แห่งหนึ่งในจังหวัดขอนแก่น โดยตัดสินใจดาวน์รถสี่ประตู โตโยต้า รีโว มูลค่ากว่า 9 แสนบาท วางเงินดาวน์ 130,000 บาท ผ่อนเดือนละกว่า 10,000 บาท ระหว่างนี้ น.ส.จรรยพร บอกให้ฝ่ายชายนำเงิน 40,000 บาทมาให้เพื่อวางเงินดาวน์ ส่วนนายโลทำทีมีธุระยุ่ง พูดคุยโทรศัพท์ตลอด จากนั้นบอกว่าแม่ไม่มาแล้ว เพราะญาติที่บ้านเสียชีวิต แต่จะโอนเงินมาให้ หากดำเนินการเรื่องรถเสร็จสิ้น ต้องรีบเดินทางกลับบ้านทันที ผ่านไป 2 ชั่วโมง ยังไม่มีเงินเข้าบัญชี นายโล อ้างว่า พี่ชายกับพี่สะใภ้กำลังเดินทางมาจาก อ.พิมาย เพื่อนำเงินมาให้ด้วยตัวเอง

“ผู้ชายที่อ้างตัวเป็นพี่ชายอายุประมาณ 40 ปี มีหนวด หัวเกรียน พี่สะใภ้ สวย หุ่นสมส่วน ผิวขาว ทั้ง 3 คน หน้าตาดี ดูภูมิฐาน ได้พูดคุยกับผู้หญิงคนเดียว ส่วนผู้ชายที่นำเงินมาให้ไม่ได้คุยด้วย หลังจากที่ดำเนินการเรียบร้อย นายโลอ้างว่า พี่ชายอยากดูหนังที่ห้างเซนทรัล ก็รู้สึกแปลกใจ เพราะบอกว่าญาติเสีย ทำไม่จึงมีอารมณ์ดูหนัง แต่ไม่ได้ทักท้วง ประมาณ 20 นาที ขับรถคันใหม่ป้ายแดงมาจอดที่ห้างสรรพสินค้า นายโลชวนไปซื้อตั๋วรอพี่ชายที่กำลังขับรถตามมา ระหว่างนี้ผู้หญิงที่บอกว่าเป็นพี่สะใภ้ ขอยืมรถไปซื้อของที่ห้างบิ๊กซี แต่บอกว่าไม่ให้ยืม เพราะไม่ไว้ใจ นายโลจึงตัดบทบอกว่าเขาก็ไปซื้อตั๋วรออยู่กับเรา ทำไมจึงไม่ไว้ใจแล้วเขาก็ดึงมือให้ลงจากรถ ระหว่างนี้นายโลทำทีคุยโทรศัพท์ตลอด อาศัยช่วงเผลอเขาเดินห่างไปคุยไกลๆ จนเรามองไม่เห็น ไม่นานจึงโทรศัพท์หา เขาบอกว่ากำลังเข้าห้องน้ำ ผ่านไป 10 นาที ยังไม่ออกมา โทรตามปรากฏว่าปิดเครื่องติดต่อไม่ได้ จึงมั่นใจว่าถูกหลอกแล้ว จึงแจ้งบริษัทประกัน และเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองขอนแก่น แต่ยังไม่มีความคืบหน้า เพราะต้องรอเอกสารมอบอำนาจจากไฟแนนท์ ทำให้เสียเวลาและเกรงว่า นายโลจะนำรถไปชายแดนริมโขงแล้ว ”น.ส.จรรยพร กล่าว

ด้านพันตำรวจโทจิรวัฒน์ พุดซ้อน พนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น กล่าวว่า รับแจ้งความตั้งแต่วันที่เกิดเหตุ แต่เนื่องจากระยะเวลาที่หาย 2 ชั่วโมง ทำให้น.ส.จรรยพร ยังไม่มีเอกสารสัญญาเช่าซื้อ ต้องรอให้ไฟแนนซ์ดำเนินการให้เรียบร้อย จึงจะมีอำนาจเข้าแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดี

“สำหรับเคสนี้ถือเป็นหายเร็ว จากการสอบถาม น.ส.จรรยพร ยังพบว่ามีข้อสงสัยที่ต้องมาให้รายละเอียดเพิ่มเติม หากมีเอกสารสัญญาเช่าซื้อแล้ว ทางตำรวจจึงรับแจ้งความ พร้อมดำเนินการสอบสวนตามกระบวนการ รวมถึงการสเก็ตหน้าคู่กรณี เนื่องจากทั้งหมดไม่รู้จักชื่อ และที่อยู่กัน จำได้เพียงหน้าตาเท่านั้น พร้อมทั้งตรวจสอบตั้งแต่บริษัทที่ทั้งหมดไปออกรถ จนถึงจุดที่อ้างว่ารถหาย” พันตำรวจโทจิรวัฒน์ กล่าว