สั่งผกก.หัวหมาก ล่ากลุ่มจุดพลุแฟร์สนามราชมังฯ

สั่งผกก.หัวหมาก ล่ากลุ่มจุดพลุแฟร์สนามราชมังฯ

วิจารณ์ว่อนโซเชียล! ล่าสุด "ผบช.น." ลั่นเอาผิดยกแก๊ง สั่งผกก.หัวหมาก สืบหาหลักฐานล่ากลุ่มจุดพลุแฟร์ ในสนามราชมังฯมาดำเนินคดี

จากกรณีเมื่อช่วงค่ำ วันที่ 17 ธันวาคม ที่ผ่านมา ในการแข่งขันฟุตบอล รอบชิงชนะเลิศ เอเอฟเอฟ ซูซุกิ คัพ (AFF Suzuki Cup) ระหว่าง ทีมชาติไทยและทีมชาติอินโดนีเซีย มีกลุ่มกองเชียร์ที่ใช้ชื่อว่า อัลตร้า ไทยแลนด์ (Ultras Thailand) ได้ทำการจุดพลุแฟร์ สีแดง จนเกิดควันและประกายไฟ ก่อความรำคาญให้กับผู้ร่วมเชียร์ รวมทั้งในโลกออนไลน์ยังมีการโจมตีเรื่องนี้อย่างหนัก จนหลายฝ่ายหวั่นเกรงว่าทีมชาติไทยอาจถูกการลงโทษจากคณะกรรมการฟีฟ่า (FIFA) ได้

ล่าสุดเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่า ภายหลังจากที่เห็นภาพของกองเชียร์ดังกล่าวในการถ่ายทอด และการส่งต่อในโลกออนไลน์ จึงได้สั่งการให้ ผู้กำกับการ สน. หัวหมาก ลงไปสืบสวนสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อเอาผิดกับผู้ที่จุดพลุแฟร์ในสนามราชมังคลากีฬาสถานแล้ว

เบื้องต้นสถานะจากการสืบสวนทราบว่า กลุ่มกองเชียร์ดังกล่าวมีการนำพลุแฟร์หลบซ่อนเข้าไปในอุปกรณ์เชียร์ และเมื่อถึงช่วงของการแข่งขันก็นำขึ้นมาจุด โดยวัตถุประสงค์ของกลุ่มดังกล่าวยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่า เป็นการจงใจดิสเครดิต ทำลายภาพลักษณ์และชื่อเสียงของสมาคมฟุตบอลไทยหรือไม่ เนื่องจากกลุ่มดังกล่าวมีปัญหาในระหว่างการเชียร์กับทีมต่างๆทั้งในและต่างประเทศบ่อยครั้ง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการข่าวอยู่ก่อนแล้วว่าจะมีการกระทำดังกล่าวเกิดขึ้น จึงมีการส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบและสายสืบเข้าไปในกลุ่มกองเชียร์ดังกล่าว

"ทั้งนี้ทั้งนั้นกลุ่มกองเชียร์นี้มีการตรวจสอบที่ค่อนข้างเข้มงวด และไม่ยอมให้บุคคลอื่นที่ไม่ใช่กลุ่มของตัวเองเข้าไปร่วมเชียร์ จึงได้ให้เจ้าหน้าที่ที่อยู่ภายในและนอกสนามเก็บรวบรวมข้อมูล ทั้งภาพถ่าย คลิปวีดีโอ รวมถึงข้อมูลต่างๆในโลกโซเชียล ที่มีการโพสต์ก่อนการแข่งขันไว้เป็นพยานหลักฐานแล้ว ซึ่งผู้ก่อเหตุบางคนมีการใช้ผ้าปกปิดหน้าตา เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ หากระบุได้ว่าผู้ก่อเหตุเป็นใครก็จะออกหมายเรียกมาให้ปากคำกับทางเจ้าหน้าที่ต่อไป" ผบช.น. กล่าว

พล.ต.ท.ศานิตย์ ระบุด้วย่า สำหรับการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิด ในข้อหาก่อความเดือดร้อนรำคาญ ซึ่งรัฐเป็นผู้เสียหาย แต่หากประชาชนคนใดที่ได้รับความเดือดร้อนจากการกระทำของกลุ่มกองเชียร์ดังกล่าว ก็สามารถเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อเอาผิดกับกลุ่มผู้ก่อเหตุได้ อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่า จะเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.พลุดอกไม้ไฟ และประกาศของ คสช. ข้อใดหรือไม่ ทั้งนี้ยืนยันว่า จะดำเนินการกับกลุ่มผู้ก่อเหตุที่อยู่ในกลุ่มกองเชียร์ดังกล่าวอย่างแน่นอน และอาจเอาผิดถึงแกนนำของกลุ่มดังกล่าวด้วย เพราะทำให้เสียภาพลักษณ์ของวงการฟุตบอลและประเทศชาติ