ย้อนรอย 'ชาเปโคเอนเซ' เทพนิยายสู่โศกนาฏกรรม

จากโบลิเวียประสบอุบัติเหตุตก แถบภูเขานอกเมเดยินในโคลอมเบีย 

พร้อมกับรายงานว่าในกลุ่มผู้โดยสาร มีผู้เล่นและสตาฟฟ์โค้ชกับผู้บริหาร จากสโมสร ชาเปโคเอนเซ ของบราซิล ซึ่งมีกำหนดลงสนามในนัดชิงชนะเลิศ โกปา ซูดาเมริคานา นัดแรก กับ อัตเลติโก นาซิอองนาล ในวันพุธที่ 30 พ.ย. รวมทั้งสิ้น 45 ชีวิตด้วยกัน

จากสโมสรเล็กๆ ที่กำลังจะเขียนประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ในการชิงแชมป์ระดับสโมสรอเมริกาใต้ เทพนิยายอันน่าทึ่งของ ชาโปโคเอนเซ พลันจบลงด้วยความเศร้า เกินกว่าที่ใครจะคาดถึง

อุบัติเหตุโลกตะลึง

นับจากอดีตถึงปัจจุบัน เหตุการณ์ช็อคโลกในลักษณะนี้ เกิดขึ้นในวงการฟุตบอลมาแล้วหลายครั้ง 

ย้อนกลับไป เมื่อ 3 พ.ค. 1949 โตริโน ทีมชั้นนำของวงการฟุตบอลอิตาลีในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่สอง ต้องเสียผู้เล่นไปทั้งทีม เมื่อประสบอุบัติเหตุเครื่องบินโดยสารพุ่งชนมหาวิหารแห่งซูเปอร์กา (Basilica of Superga) บนหุบเขาในตูริน อันเป็นผลจากทัศนวิสัยอันย่ำแย่ ระหว่างเดินทางกลับจากเกมกระชับมิตรกับ เบนฟิกา ของโปรตุเกส

ถัดมาในวันที่ 6 ก.พ. 1958 เที่ยวบิน 609 ของสายการบิน บริทิช ยูโรเปียน แอร์เวย์ส ที่สมาชิกทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ใช้โดยสารหลังจบเกมรอบรองชนะเลิศ ยูโรเปียน คัพ กับ เรดสตาร์ เบลเกรด ที่ยูโกสลาเวีย ลื่นไถลออกนอกรันเวย์ไปชนกับรั้วสนามบินในเมืองมิวนิค เยอรมนี ขณะนักบินพยายามนำเครื่องขึ้นเพื่อเดินทางกลับ จนมีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 23 คน เป็นผู้เล่นของสโมสรปีศาจแดง 8 ราย ก่อนที่ เซอร์ แมตต์ บัสบี ผู้จัดการทีม ซึ่งรอดชีวิต กลับมานำปีศาจแดงคว้าแชมป์ยูโรเปียนคัพหนแรกใน 10 ปีถัดมา 

27 เม.ย. 1993 ทีมชาติแซมเบีย ซึ่งเพิ่งคว้าอันดับ 3 แอฟริกัน เนชันส์ คัพ เสียชีวิตทั้งทีม ขณะออกเดินทางไปเยือน เซเนกัล ในเกมฟุตบอลโลก 1994 รอบคัดเลือก เมื่อเครื่องบินโดยสาร เอเอฟ-319 ซึ่งได้รับการแจ้งเตือนว่าเครื่องยนต์มีปัญหา แต่นักบินกลับฝืนนำเครื่องขึ้นต่อจนเกิดไฟลุกท่วม ดิ่งลงสู่มหาสมุทรแอตแลนติก

เทพนิยาย

จากสโมสรเล็กๆที่อายุเพียง 43 ปี “อัสโซเซียเซา ชาเปโคเอนเซ เด ฟุตบอล” ก่อตั้งขึ้นในเดือน พ.ค. 1973 ที่เมืองชาเปโค รัฐซานตา กาตารินา และมีโอกาสกลับคืนสู่ บราซิเลียโร เซเรีย อา ลีกสูงสุดของประเทศเป็นครั้งแรก ในรอบกว่าสามสิบปี เมื่อฤดูกาล 2014

จากทีมที่ล้มลุกคลุกคลานในครึ่งล่างของตาราง แสงสว่างเริ่มส่องมาถึง เมื่อ ลุยซ์ การ์ลอส ซาโลรี หรือ “กาโย จูเนียร์” โค้ชผู้ประสบความสำเร็จในการสร้างทีมเล็กๆให้เทียบชั้นกับทีมระดับหัวแถวของประเทศ ตอบรับการทาบทามจากผู้บริหารสโมสร เข้ารับตำแหน่งเฮดโค้ชคนใหม่ก่อนเริ่มฤดูกาล 2016 แทน กูโต แฟร์เรยรา 

กาโย จูเนียร์ ใช้เวลาเพียงฤดูกาลเดียว ยกระดับ ชาเปโคเอนเซ ที่ต้องหนีตายใน 2 ปีก่อนหน้า มาจบฤดูกาลในอันดับ 9 ของตาราง ส่วนในฟุตบอลถ้วยสโมสรอเมริกาใต้ โกปา ซูดาเมริกานา ทีมโนเนมจาก ซานตา กาตารินา ก็ล้มคู่แข่งระดับยักษ์ใหญ่ของทวีป ทั้ง อินดิเพนเดียนเต (อาร์เจนตินา) จูเนียร์ เด บาร์รานกียา (โคลอมเบีย) และ ซาน ลอเรนโซ (อาร์เจนตินา) ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จ เหลือเพียงก้าวเดียวก่อนสร้างตำนานบทใหม่ของสโมสร

โศกนาฎกรรม

ตามกำหนดเดิม กาโย จูเนียร์ พร้อมลูกทีม มีแผนเดินทางตรงจากเซา เปาโล ถึงเมเดยิน แต่ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่การบินพลเรือน ให้แวะพักที่ ซานตา ครูซ เด ลา เซียร์ร่า ในโบลิเวีย ทั้งหมดจึงต้องเปลี่ยนมาใช้ เที่ยวบิน 2933 ของ ลามิอา แอร์ไลน์ส แทน 

เวลา 22.00 น. ของวันจันทร์ที่ 28 พ.ย. ตามเวลาท้องถิ่น เที่ยวบิน 2933 ขาดการติดต่อกับหอบังคับการบิน ขณะมุ่งหน้าสู่สนามบินนานาชาติเมเดยิน ภายหลังนักบินแจ้งว่าเกิดเหตุขัดข้องในเรื่องระบบไฟ ก่อนจะมีการยืนยันว่าเครื่องตกที่บริเวณหุบเขาในเวลาต่อมา 

จากจำนวนผู้โดยสารและนักบิน 81 ราย มีผู้รอดชีวิตเพียง 6 คน ในจำนวนนี้ เป็นผู้เล่น ชาเปโคเอนเซ 3 คน ประกอบด้วย แจ็คสัน โฟลล์มันน์, อลัน รุสเชล และ เอลิโอ เนโต ขณะที่ มาร์กอส ดานีโล ที่ถูกช่วยออกมาได้ก่อน ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา 

หลังข่าวร้ายได้รับการเผยแพร่ออกไป โลกลูกหนังก็ร่วมแสดงน้ำใจในความสูญเสียครั้งนี้ อัตเลติโก นาซิออนนาล คู่ชิงชนะเลิศ ยื่นเรื่องขอให้สมาพันธ์ฟุตบอลอเมริกาใต้ (คอนเมโบล) ยกถ้วยแชมป์โกปา ซูดาเมริกานา ให้กับ ชาเปโคเอนเซ ส่วนสโมสรต่างๆในลีกสูงสุดของบราซิล ก็รวมตัวเสนอต่อสมาพันธ์ฟุตบอลบราซิล (ซีบีเอฟ)ให้สิทธิ์ ชาเปโคเอนเซ ไม่ตกชั้น 3 ฤดูกาล 

เช่นกัน กลุ่มแฟนบอลทั้งชายและหญิง ก็เดินทางมารวมตัวกัน ณ อารีนา กอนดา สนามเหย้าของสโมสร เพื่อร่วมไว้อาลัย กาโย จูเนียร์ และเหล่านักเตะผู้จากไปก่อนวัยอันควร 

จากนี้ คงไม่มีใครสามารถทำนายถึงอนาคตของ ชาเปโคเอนเซ ได้ ว่าจะดำเนินต่อไปอย่างไร อัลวาเดียร์ เปลิสเซอร์ หนึ่งในผู้ก่อตั้งสโมสร กล่าวแต่เพียงสั้นๆว่า “ผมช็อคมาก ทุกคนคือครอบครัวของเรา...แต่วันนี้ ความฝันของเราจบลงแล้ว”