โค้งสุดท้าย แอลพีจีเอ ทัวร์ เอรียา หรือ โค?

 ฤดูกาล 2016 ก็เข้าสู่ช่วงสุดท้ายเป็นที่เรียบร้อย

จากนี้ไป จะเหลือการแข่งขันอีกเพียง 3 รายการเท่านั้น คือ โตโต เจแปน คลาสสิค ที่ญี่ปุ่น ในสุดสัปดาห์นี้ (4-6 พ.ย.) ลอรีนา โอชัว อินวิเทชันแนล ที่เม็กซิโก ในวันที่ 10-13 พ.ย. และปิดท้ายด้วย ซีเอ็มอี กรุ๊ป ทัวร์ แชมเปียนชิพ ที่ฟลอริดา สหรัฐ ในวันที่ 17-20 พ.ย.

นอกจากตำแหน่งแชมป์และเงินรางวัลในแต่ละทัวร์นาเมนท์ ทั้ง 3 รายการยังมีความหมายมากกว่านั้น โดยเฉพาะกับสองสุดยอดโปรระดับโลกในยุคปัจจุบัน เอรียา จุฑานุกาล โปรอันดับ 2 ของโลกชาวไทย และ ลิเดีย โค โปรมือ 1 ชาวนิวซีแลนด์...

ปีทองของ ‘เอรียา’

คงไม่ผิดนัก หากจะเรียกว่าปี 2016 เป็นปีแจ้งเกิดในระดับโลกอย่างเต็มตัวสำหรับ เอรียา จุฑานุกาล

จากเด็กหญิงวัย 11 ขวบ เจ้าของสถิติอายุน้อยที่สุดที่ได้เข้าร่วมใน ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ เมื่อ 9 ปีก่อนเอรียา มีพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง ทั้งการเทิร์นโปร เมื่อสี่ปีก่อน และได้สิทธิ์ลงแข่งใน แอลพีจีเอ ทัวร์ เมื่อปีที่แล้ว

หลังจากรอคอยแชมป์แรกใน แอลพีจีเอ ทัวร์ นาน 3 ปี ในที่สุด เอรียา ก็ทำสำเร็จ ในรายการ โยโกฮามา ไทร์ แอลพีจีเอ คลาสสิค ที่อลาบามา เมื่อ 8 พ.ค. ก่อนคว้าแชมป์อีก 2 รายการติดต่อกัน ใน คิงส์มิลล์ แชมเปียนชิพ ที่เวอร์จิเนีย และ แอลพีจีเอ วอลวิค แชมเปียนชิพ ที่มิชิแกน

และบันทึกชื่อในฐานะโปรไทยคนแรกที่ได้แชมป์ระดับเมเจอร์ ในรายการ ริโคห์ วีเมนส์ บริทิช โอเพน ที่อังกฤษ ในเดือนก.ค. พร้อมขยับขึ้นเป็นมืออันดับ 2 ของโลกอย่างเป็นทางการ ในเดือนส.ค.

แม้จะแข่งขันไม่จบใน โอลิมปิก ที่ริโอ เดอ จาเนโร แต่ เอรียา ก็แก้ตัวได้ทันควัน ด้วยแชมป์แอลพีจีเอ ลำดับที่ห้าของปี ในรายการ แคนาเดียน แปซิฟิค วีเมนส์ โอเพน ในสัปดาห์ถัดมา

เข้าสู่สามสัปดาห์สุดท้าย เอรียา ยังรั้งตำแหน่งมือ 2 ของโลก พร้อมมีลุ้นรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปี “โรเล็กซ์ เพลเยอร์ ออฟ เดอะเยียร์”, ผู้ทำเงินรางวัลสูงสุด และ ตำแหน่ง “เรซ ทู เดอะ ซีเอ็มอี โกลบ” แม้จะต้องขับเคี่ยวกับสุดยอดนักกอล์ฟแห่งยุคก็ตาม

กระบี่มือหนึ่ง

เป็นเวลาเกือบสองปีแล้วที่ ลิเดีย โค ก้าวขึ้นเป็นโปรกอล์ฟหญิงอันดับหนึ่งของโลก (2 ก.พ.-ปัจจุบัน) ขณะอายุเพียง 17 ปี 9 เดือน และ 8 วัน พร้อมกับสร้างสถิติใหม่ๆขึ้นอีกมากมาย

ทั้งการเป็นแชมป์เมเจอร์อายุน้อยที่สุด ใน เอวิยอง แชมเปียนชิพ เมื่อ 13 ก.ย. ปีที่แล้ว ขณะอายุ 18 ปี 4 เดือน 20 วัน หรือการเป็นโปรหญิงคนแรกที่ทำเงินเกิน 2 ล้านดอลลาร์ ในทุกฤดูกาลที่ลงแข่งขัน ฯลฯ

จากตำแหน่ง รุกกี ออฟ เดอะเยียร์ ในปี 2014 โค ก็เอาชนะ พาร์ค อินบี คว้ารางวัล เพลเยอร์ ออฟ เดอะเยียร์ มาครองได้สำเร็จ เมื่อปีที่แล้ว เช่นเดียวกับรางวัล “เรซ ทู เดอะ ซีเอ็มอี โกลบ”

และในปีนี้ ก็เป็นอีกครั้งที่ โค ยังมีลุ้นความสำเร็จดังกล่าว แต่เปลี่ยนผู้ท้าชิงจากโปรชาวเกาหลีใต้ เป็นเจ้าของแชมป์ แอลพีจีเอ 5 รายการในปีนี้ - เอรียา จุฑานุกาล

ซีเอ็มบี โกลบ

“เรซ ทู เดอะซีเอ็มอี โกลบ” เป็นการแข่งขันแบบสะสมแต้มตลอดฤดูกาลของ แอลพีจีเอ โดยผู้ที่ผ่านการตัดตัวในแต่ละรายการ จะได้คะแนนสะสม หรือหากไม่มีการตัดตัว ก็จะมอบให้ 40 อันดับแรกเท่านั้น โดยผู้ที่มีคะแนนสะสมมากที่สุด จะได้รางวัลไปครอง

หลังจบรายการ ไซม์ ดาร์บี แอลจีพีเอ มาเลเซีย เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเอรียา เป็นผู้นำในตารางอันดับ (4,416 คะแนน) ขณะที่ โค (4,365 คะแนน) ไล่หลังมาติดๆเพียง 51 คะแนนเ ส่วน บรูค เฮนเดอร์สัน อยู่ในอันดับ 3 (3,186 คะแนน)

แต้มทั้งหมด จะถูกรีเซตหลังจบ ลอรีนา โอชัว อินวิเทชันแนล โดยคัดเอานักกอล์ฟ 9 อันดับแรกในตารางคะแนนเท่านั้นที่จะมีโอกาสเป็นผู้ชนะ และ 3 อันดับแรกที่กล่าวมา คือผู้ที่มีโอกาสกุมชะตาของตัวเอง ในรายการสุดท้ายของฤดูกาล ซีเอ็มอี กรุ๊ป ทัวร์ แชมเปียนชิพ 

เพลเยอร์ ออฟ เดอะเยียร์

ปัจจุบัน โค เจ้าของตำแหน่ง (247 คะแนน) ตามหลัง เอรียา (250 คะแนน) เพียง 13 แต้ม โดยในประเภทนี้ จะมีแต้มให้เฉพาะท็อป 10 ของแต่ละรายการ โดยแชมป์จะได้รับ 30 คะแนน อันดับสอง 12 คะแนน อันดับสาม 9 คะแนน ส่วนอันดับ 4-10 จะลดหลั่นลงไปจาก 7 ถึง 1 คะแนน นั่นหมายความว่า จากนี้ไป หากใครพลาดไม่มีแต้ม หรืออีกฝ่ายได้แชมป์รายการใดรายการหนึ่ง โมเมนตัมก็พร้อมจะเปลี่ยนข้างทันที

ผู้ทำเงินรางวัลสูงสุด

ปีที่แล้ว โค คว้ารางวัลนี้ไปครอง ด้วยการทำเงินถึง 2.8 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ในปีนี้ เจ้าตัวก็ยังเป็นผู้นำ มีทั้งสิ้น 2,451,642 ดอลลาร์ มากกว่า เอรียา เพียง 3,744 ดอลลาร์ เรียกว่าสูสีกันจนพลาดไม่ได้ เพราะใน 3 รายการสุดท้าย เฉพาะเงินรางวัลสำหรับผู้ชนะ ก็มีมูลค่ารวมกันเกือบ 1 ล้านดอลลาร์ 

บทสรุปสุดท้าย จะเป็นใครที่ได้ 3 รางวัลนี้ไปครอง ระหว่าง เอรียา หรือ โค มีเพียงผลงานในสนามเท่านั้นที่จะให้คำตอบได้ สำหรับอีกหนึ่งฤดูกาลที่เต็มไปด้วยความเข้มข้นของ แอลพีจีเอ ทัวร์