จับ4โจ๋ปล้นทรัพย์หนุ่มบีเอ็ม เป็นเหตุเพื่อนดับ1
"นครบาล2" จับ4โจ๋ปล้นทรัพย์หนุ่มบีเอ็ม เป็นเหตุเพื่อนดับ1
ที่ สน.โคกคราม - เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 12 สิงหาคม 2559 พล.ต.ต.เจริญ ศรีศศลักษณ์ ผบก.น.2 , พ.ต.อ.กิตติคุณ พูลสมบัติ รอง ผบก.น.2,พ.ต.อ.สุริยา นาคแก้ว ผกก.สน.โคกคราม,พ.ต.ท.ทัสสุมิ ยอดประทุมวัน รอง ผกก.สส.,พ.ต.ต.ภานุพงศ์ จินดาหลวง สว.สส. ร่วมกันแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับศาลมีนบุรี เลขที่ 831,832,833,/2559 และศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง(สาขามีนบุรี)เลขที่ 130/2559 รวม4ราย คือ นายปรมัตถ์ หรือดี้ หมัดเสพ อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 152 การเคหะคลองจั่น แฟลต7 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิกทม.,นายภาณุพงศ์หรือน้ำ มีชนะ อายุ 18ปี อยู่บ้านเลขที่ 681 ถนนนวมินทร์ แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กทม.,นายธนพงษ์ หรือปู เคนถาวร อายุ 18ปี อยู่บ้านเลขที่ 15/302 หมู่5 ซอยนวมินทร์42 แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กทม.และนายเอ (นามสมมติ) พร้อมด้วยของกลาง รถจักรยานยนต์จำนวน2คันคือรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า พีซีเอ็กซ์ ทะเบียน5กถ5613 กทม.,รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ ทะเบียน3กย1312 กทม.,มีดอีโต้1เล่ม,โทรศัพท์มือถือผู้เสียหาย1เครื่อง,กัญชาจำนวน2ถุงพลาสติกแบบรูดปิด และยาทามาดอลบรรจุแคบซูล จำนวน 5ถุง สามารถจับกุมได้ที่ ซอยนวลจันทร์36 ถนนนวลจันทร์ แขวงนวลจันทร์ เขตบึงกุ่ม กทม.
พล.ต.ต.เจริญ กล่าวว่า เมื่อเวลาประมาณ 03.30น. เมื่อวันที่11สิงหาคม นายนรินทร์ หลิมศิริวงศ์ อายุ 24 ปี ผู้เสียหายกลับจากชมภาพยนต์ที่เดอะคริสตัน สาขารามอินทรา ขณะเดินทางกลับบ้านโดยใช้รถยนต์เก๋ง บีเอ็มดับบิว รุ่นGT 320d สีดำ ทะเบียนร3722 กทม. เมื่อมาถึงบริเวณถนนกาญจนาภิเษก ต่อเนื่องจนถึงหน้าบริษัท เวิร์คเพรส แขวงรามอินทรา เขตคันนายาว กทม. ผู้เสียหาได้ลงจากรถเพื่อคุยโทรศัพท์กับพี่ชายฝาแฝด ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่กลุ่มคนร้ายทั้ง5คน 1ในนั้นคือนายภาคภูมิ หรือพีท วราโพธิ์ อายุ 18ปี อยู่บ้านเลขที่ 27/78 การเคหะหลังที่27 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กทม. ซึ่งได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา ได้ใช้จักรยานยนต์ทั้งสองคัน คันแรกเป็นรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า พีซีเอ็กซ์ ทะเบียน5กถ5613 กทม.มีนายปรมัตถ์เป็นผู้ขับ นายภาคภูมิ(ผู้ตาย)ซ้อนท้ายอยู่ตรงกลาง และนายภาณุพงศ์ นั่งซ้อนท้ายอยู่ด้านหลัง ส่วนจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ ทะเบียน3กย1312 กทม.มีนายธนพงษ์ เป็นผู้ขับและมีนายเอ(นามสมมติ)เป็นผู้ซ้อนท้าย
ทั้งหมดได้ขับสวนทางมาจากทางเลียบด่วนข้องมอเตอร์เวย์ และตรงเข้ามาทำทีว่าถามเส้นทางกับผู้เสียหาย จากนั้นนายภาคภูมิ ได้ใช้มีดอีโต้ที่พกมาจี้ผู้เสียหาย และคนร้ายอีก2คนที่นั่งซ้อนท้ายก็เข้ามาข่มขู่และบังคับให้ผู้เสียหายยื่นทรัพย์สินของมีค่าให้ ผู้เสียหายจึงยื่นเงินสดจำนวน 4,200บาทพร้อมกับโทรศัพท์มือถือยี่ห้แไอโฟน สีดำ1เครื่องให้ไป หลังจากนั้นกลุ่มคนร้ายได้เข้าไปค้นภายในรถผู้เสียหาย ก่อนจะพากันหลบหนีไปตามถนนรัชดารามอินทรา เมื่อมาถึงบริเวณหน้าสำนักงานบริษยาเวิร์คเพรส ผู้เสียที่ขับรถไล่ตามคนร้ายมาทันได้เกิดเฉี่ยวชนกัน ทำให้นายภาคภูมิเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ส่วนกลุ่มคนร้ายที่เหลือได้ขับรถหลบนี้ไป จนต่อมาเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.โคกครามสามารถไล่ติดตามจะบกุมได้ทั้งหมด
พล.ต.ต.เจริญ กล่าวอีกว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การสารภาพว่า ก่อนก่อเหตุได้กินยาทามาดอลเข้าไปทำให้เกิดอาการมึนงง โดยนายภาคภูมิ ได้ชักชวนให้ร่วมกันก่อเหตุ ซึ่งมีดอีโต้ที่ใช้จี้ผู้เสียหายนายภาคภูมิ ก็เป็นคนพกมา ทั้งนี้ จะนำเงินที่ได้ไปแบ่งกันเพื่อซื้ออะไหล่มาแต่รถ นอกจากนี้ในส่วนของการดำเนินคดีนั้นมีอยู่3ส่วนคือ 1.แจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาทั้งหมดในข้อหาร่วมกันปล้นทรัพย์ ส่วนคดีที่ 2.แจ้งข้อหาขับรถโดยประมาณเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย แก่นายนรินทร์ หลิมศิริวงศ์ อายุ 24 ปี ผู้ขับขี่รถยนต์ยี่ห้อบีเอ็มดับเบิ้ลยู รุ่นจีที 320 ดี สีดำ ป้ายแดง หมายเลขทะเบียน ร-3722 กรุงเทพมหานคร ที่ขับชนนายภาคภูมิ วราโพธิ์ อายุ 18 ปี เสียชีวิตคาที่
ทั้งนี้ หลังจากพนักงานสอบสวนพิจารณาแล้ว จึงปล่อยตัวชั่วคราว เพราะนายนรินทร์ ได้อยู่รอมอบตัว ไม่มีพฤติกรรมคิดหลบหนี ส่วนคดีที่ 3.แจ้งข้อหาลักทรัพย์ แก่นายมโน ครองตน อายุ 61 ปี ที่เป็นคนขับรถบรรทุก ซึ่งเป็นผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์จากนั้นในช่วงชุลมุนได้แอบขโมยกระเป๋าคาดเอวของนายภาคภูมิ วราโพธิ์ อายุ 18 ปี คนตายที่มีเงินสดสามพันบาทไป คดีนี้นายจ้างนายมโน มายื่นงินสด 100,000 ประกันตัวออกไปตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 11 ส.ค.59 ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (13 สิงหาคม) พนักงานสอบสวนจะนำตัว ผู้ต้องหาทั้ง 3รายฝากขังที่ศาลจังหวัดมีนบุรี ส่วน นายเอ(นามสมมติ)ซึ่งเป็นเยาวชนได้นำตัวไปฝากขังที่ศาลเยาวชนและครอบครัวกลางไปก่อนหน้านี้แล้ว







