สตช.ถกนครบาล-ภาค1 แก้ปัญหานักเรียนตีกัน

พล.ต.อ.ปัญญา มาเม่น ที่ปรึกษา (สบ 10) พร้อมด้วย พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รรท.ผบช.น.) พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผู้บัญชาการตำรวจตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1) และผู้บังคับการและรองผู้บังคับการที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยง ร่วมประชุมติดตามผลการปฏิบัติและแก้ไขปัญหาการทะเลาะวิวาทของของนักเรียน นักศึกษา ก่อให้เกิดความสูญเสีย และสร้างความเดือดร้อนแก้ประชาชน หลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้มีคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 30/2559 มาตรการการดำเนินการทางกฎหมาย และดำเนินการกับผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้งนักเรียน ผู้ปกครอง และสถานศึกษา เพื่อช่วยเร่งรัดแก้ปัญหา กำกับดูแล ให้ปัญหาเหล่านี้ยุติ และเบาบางลง

 พล.ต.อ.ปัญญา กล่าวว่า ในส่วนการปฏิบัติงานสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยการเรียกผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 และผู้บังคับการและรองผู้บังคับการที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงมาประชุม เพื่อต้องการให้ไปดำเนินการในเบื้องต้นกับกลุ่มคนที่เชื่อว่า อาจจะก่อความรุนแรงได้ ซึ่งข้อมูลย้อนหลัง 3 ปี พบว่าอาวุธที่นักเรียนใช้ตีกันคืออาวุธธรรมดา แต่อีกส่วนที่เป็นห่วงมากที่สุดคือ กลุ่มศิษย์เก่า หรือกลุ่มคนบางกลุ่มที่แฝงตัวเป็นนักเรียน โดยใช้ความรุนแรง โหดร้าย ทารุณ ซึ่งได้จัดอันดับกลุ่มนี้เป็นกลุ่มแรกที่จะต้องดำเนินการ เนื่องจากมีการสะสมอาวุธ และมีแนวโน้มที่จะก่อเหตุต่อสถาบันคู่อริ และผู้ใดก็ได้ โดยได้ประสานกำลังตำรวจ อาสาสมัครร่วมด้วยช่วยกัน และอาสาสมัครอื่นๆ ที่จะให้ช่วยเรื่องการเฝ้าระวังจุดเสี่ยงในการนัดหมายรวมตัว

 พล.ต.อ.ปัญญา กล่าวต่อว่า จากการที่ได้ฟังบรรยายสรุปของกองบัญชาการตำรวจนครบาล 3 และ 4 พบว่าสถาบันต่างๆ ที่มีความขัดแย้งกัน มีทั้งศิษย์เก่า และศิษย์ปัจจุบัน เชื่อว่ากลุ่มเหล่านี้ บางส่วนถูกจับกุมแล้ว บางส่วนอาจจะพ้นโทษ และบางส่วนกำลังสะสมพรรคพวกเพื่อเตรียมก่อเหตุ 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าเห็นด้วยหรือไม่ที่รองนายกรัฐมนตรีได้ระบุว่า ให้จับนักเรียนที่ตีกันไปเกณฑ์ทหาร โดย พล.ต.อ.ปัญญา บอกว่า ตำรวจเป็นส่วนของการปฏิบัติหน้าที่ และจัดการปัญหาที่เกิดขึ้น แต่ในขั้นต่อไป เป็นเรื่องที่ผู้หลักผู้ใหญ่คิดกัน ส่วนเรื่องที่จะเกิดประโยชน์หรือไม่ ตนขอไม่ออกความคิดเห็น