แฟนปืนไล่โค้ช-สาลิกาสุดเฮง เชลซีปึ้กรับไก่เตะมันเดย์ไนท์

แฟนปืนไล่โค้ช-สาลิกาสุดเฮง เชลซีปึ้กรับไก่เตะมันเดย์ไนท์

“สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี ได้ “เจที” จอห์น เทอร์รี

ฟิตทันคุมแนวรับในเกมมันเดย์ไนท์ ดาร์บีแมทช์กรุงลอนดอนกับ “ไก่เดือยทอง” สเปอร์ส คืนวันนี้ (2 พ.ค.) ด้านแฟนบอล “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล สุดเซ็งกับผลงานของทีม รวมตัวชูป้ายประท้วงให้ปลด อาร์แซน เวนเกอร์ ออกจากตำแหน่งกุนซือ ขณะที่ “สาลิกาดง” นิวคาสเซิล สุดเฮงในช่วงหนีตกชั้น เฉือนชนะ คริสตัล พาเลซ 1-0

ศึกพรีเมียร์ลีกนัดมันเดย์ไนท์ คืนวันนี้ ( 2พ.ค.) “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี จะเปิดสนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ ทำศึกดาร์บี แมทช์กรุงลอนดอนกับ “ไก่เดือยทอง” สเปอร์ส เวลา 02.00 น. หลังจากที่นัดแรกเคยเสมอกันมา 0-0 ในถิ่นไวท์ ฮาร์ท เลน และแม้ว่าเชลซี ที่มี 47 แต้มจาก 34 นัดจะไม่มีลุ้นอะไรในลีกแล้ว แต่การที่ทั้งสองทีมอยู่ในเมืองเดียวกัน ทำให้เชลซีจะยังคงเล่นเต็มที่และหวังจะเอาชนะสเปอร์ส ให้ได้เป็นนัดแรกของฤดูกาลนี้

กุส ฮิดดิงค์ กุนซือเจ้าถิ่นมีข่าวดีที่ทีมจะแข็งแกร่งกว่าเกมที่บุกไปชนะ บอร์นมัธ 4-1 เมื่อสัปดาห์ที่แล้วที่ต้องเอา จอห์น โอบี มิเกล ไปเป็นเซ็นเตอร์แบ็กจำเป็น แต่เกมนี้ “เจที” จอห์น เทอร์รี กองหลังกัปตันทีมที่เจ็บน่องจะฟิตกลับมาลงสนามได้ทันเช่นเดียวกับ แกรี เคฮิลล์ ที่จะหายป่วยกลับมา ทำให้ บรานิสลาฟ อิวาโนวิช จะกลับไปเล่นเป็นฟูลแบ็ก แต่ตำแหน่งผู้รักษาประตูยังเป็น แอชเมียร์ เบโกวิช เนื่องจากติบัวต์ กูร์ตัวส์ จะติดโทษแบนเป็นเกมสุดท้ายจากจำนวนสองนัด

แดนกลางตัวรับมีตัวเลือกทั้ง มิเกล และเนมันยา มาติช ขณะที่แนวรุกถือว่าสมบูรณ์มีตัวเลือกทั้ง เชส ฟาเบรกาส, เปโดร โรดริเกซ, เอดอง อาซาร์ด และวิลเลียน เป็นตัวเลือกเพื่อทำเกมให้ ดิเอโก คอสตา หัวหอกตัวหลัก

ฝั่งสเปอร์ส แดนกลางจะไม่มี เดล อัลลี กองกลางวัย 20 ปี ที่ติดโทษแบนจนจบฤดูกาลนี้ คาดว่า เมาริซิโอ โปเชตติโน ผู้จัดการทีมจะส่ง นาเซอร์ ชาดลี หรือว่า ซอน เฮือน มิน ลงสนามมาแทน รวมทั้งยังต้องลุ้นทดสอบความฟิตของ เอริค ไดเยอร์ กองกลางตัวรับ หากฟิตไม่ทันจะเป็น ไรอัน เมสัน ที่ได้ลงแทนเนื่องจาก นาบิล เบนทาเลบ ยังเจ็บ ส่วนกองหน้าจะยังเป็น แฮร์รี เคน ที่ยิงไป 13 ประตูจาก 14 นัดหลังสุดในพรีเมียร์ลีก

สำหรับการพบกันเมื่อฤดูกาลที่แล้ว เชลซี เป็นฝ่ายไล่ถล่ม สเปอร์ส ไปขาดลอย 3-0 และสถิติที่ผ่านมาเจ้าถิ่นไม่เคยแพ้ สเปอร์ส ในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ ของตัวเองมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปี 1990 โดย 25 นัดนับตั้งแต่นั้นเจ้าบ้านเอาชนะได้ถึง 17 นัดและเสมอกันอีก 8 นัด และครั้งสุดท้ายที่เชลซี แพ้ในพรีเมียร์ลีกคาบ้านตัวเองต้องย้อนไปเมื่อปี 2011 ที่แพ้ แมนฯ ซิตี แต่การไปเยือนของ สเปอร์ส เกมนี้พกสถิติแพ้เพียงนัดเดียวจาก 10 เกมในพรีเมียร์ลีกหลังสุด

ด้านเบื้องหลัเกมพรีเมียร์ลีกนัดวันที่ 30 เม.ย. ซึ่ง “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล ที่กำลังลุ้นตำแหน่งอันดับ 3 กับ “เรือใบสีฟ้า” แมนฯ ซิตี เปิดสนามเอมิเรตส์ ทำได้แค่เฉือนชนะ “นกขมิ้นเหลืองอ่อน” นอริช 1-0 จาก แดนนี เวลเบค ในนาที่ 59 โดยระหว่างเกมมีแฟนบอลกลุ่มหนึ่ง ชูป้ายว่าต้องการการเปลี่ยนแปลงผู้จัดการทีม เนื่องจากไม่พอใจการทำหน้าที่ของ อาร์แซน เวนเกอร์ ผู้จัดการทีมชาวฝรั่งเศส ที่ไม่สามารถพาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกเป็นฤดูกาลที่ 12 ติดต่อกัน รวมทั้งยังมีการเปรียบเทียบกับ เคลาดิโอ รานิเอรี ที่ทำทีมเลสเตอร์ ซิตี เพียง 9 เดือน แต่กำลังจะนำทีมคว้าแชมป์ ขณะที่ก็มีอีกกลุ่มยังชูป้ายให้กำลังใจ เวนเกอร์ ทำทีมต่อไป

หลังการแข่งขัน อาร์แซน เวนเกอร์ ยอมรับว่าได้รู้เรื่องนี้อยู่ก่อนแล้ว และหากว่าทำทีมไม่เป็นที่น่าพอใจของแฟนบอลก็ต้องขอโทษด้วย เพราะได้ทุ่มเททุกอย่างให้แก่สโมสรแล้ว

“เราได้รับการเตือนเกี่ยวกับเรื่องการประท้วง คุณอยากทำให้แฟนบอลมีความสุข ผมขอโทษที่ผมไม่สามารถบรรลุเป้าหมายนั้นได้ ผมขุ่นเคือง และอึดอัดเหมือนกันที่ผมไม่สามารถทำให้ผู้คนมีความสุข ผมให้ความเคารพกับสโมสร และให้สโมสรอย่างมาก ผมอยากทำให้ผู้คนมีความสุข” เวนเกอร์กล่าว

ขณะที่ “สาลิกาดง” นิวคาสเซิล ขยับหนีโซนอันตรายได้อย่างเหลือเชื่อ หลังจากเปิดบ้านเฉือนเอาชนะ “ปราสาทเรือนแก้ว” คริสตัล พาเลซ 1-0 โดยได้ประตูนำก่อนนาทีที่ 58 จาก อันดรอส ทาวน์เซนด์ แต่หวุดหวิดจะถูกตีเสมอนาทีที่ 70 แต่ คาร์ล ดาร์โลว์ นายทวารมือ 3 ที่ลงเป็นตัวจริงเซฟลูกยิงของ โยอัน กาบาย เอาไว้ได้ ทำให้ นิวคาสเซิล ขึ้นมามี 33 แต้มจาก 36 นัด

ผลคู่อื่น ซันเดอร์แลนด์ เสมอ สโตค 1-1, เวสต์บรอมวิช แพ้ เวสต์แฮม 0-3, เอฟเวอร์ตัน ชนะ บอร์นมัธ 2-1 และวัตฟอร์ด ชนะ แอสตัน วิลลา 3-2 โดยสถานการณ์ในกลุ่มท้ายตาราง แอสตัน วิลลา ตกชั้นแน่นอนแล้ว นอริช 31 แต้ม, ซันเดอร์แลนด์ 32 แต้ม, นิวคาสเซิล 33 แต้ม และคริสตัล พาเลซ 39 แต้ม