เผยส.บอลไทยหนี้ค้าง147ล. ตั้งกก.สอบทีมบริหารชุดเก่า

ที่ห้องประชุมสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย
เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2559 “บิ๊กเจี๊ยบ” พล.ต.ท.พิสัณห์ จุลดิลก เลขาธิการสมาคมและ นายชนินทร์ แก่นหิรัญ รองเลขาธิการฝ่ายกฎหมาย รับส่งมอบงานจาก “เสธ.หลอ” พ.อ.วรวุฒิ ทองศรีงาม อดีตเลขาธิการสมาคมชุดเก่าของ “บังยี” นายวรวีร์ มะกูดี อดีตนายกสมาคม
นายชนินทร์ เปิดเผยว่า ครั้งนี้ได้รับมอบเอกสารโฉนดที่ดิน ที่ทำการสมาคมที่หนองจอกจำนวน 3 ฉบับ พร้อมด้วยงบดุลประจำปี 2557-2559 แต่ไม่มีรายละเอียดรายรับรายจ่าย ส่วนบัญชีเงินฝากธนาคารต้องมี 3 บัญชี แต่ที่ได้หนนี้มีเพียง 2 บัญชี สรุปมีเงินคงเหลือรวมแล้ว 1 ล้านกว่าบาท
“เมื่อวันศุกร์ สรรพากรแจ้งข้อมูลเพิ่มเติมว่านอกจากสมาคมกีฬาฟุตบอลจะค้างจ่ายภาษีหัก ณ ที่จ่ายประมาณ 11 ล้านบาทแล้ว ยังไม่เคยนำส่งภาษีมูลค่าเพิ่ม 7 เปอร์เซ็นต์ ของรายรับประจำปี 2550-2555 เป็นเงิน 131 ล้านบาทด้วย ตรงนี้ยังไม่รวมของปี 2556-2558 ถือเป็นความผิดพลาดจากการบริหารการเงินและบัญชีของผู้บริหารในอดีต”
นายชนินทร์ เผยต่อว่า พ.ต.ประชา ธรรมโชติ ผู้ตรวจสอบบัญชีผู้บริหารชุดเดิมให้ข้อมูลว่าที่ผ่านมาเมื่อได้รับเงินสนับสนุนต่างๆ แล้วไม่มีการจดภาษีมูลค่าเพิ่ม เนื่องจากเข้าใจว่าเป็นเงินบริจาคไม่ต้องจ่ายภาษี ทางสมาคมก็เพิ่งทราบว่าสรรพากรเรียกเก็บเงินดังกล่าว
“เรื่องนี้คงไม่โต้แย้ง แต่หากไปเจรจากับสรรพากันอาจได้รับการลดหย่อน สรรพากรมองว่าเมื่อมีการเซ็นสัญญาและมีการตอบแทนจะต้องมีจดภาษีมูลค่าเพิ่ม เมื่อได้รับการยืนยันว่าไม่ได้จดภาษีมูลค่าเพิ่มมาก่อน สมาคมฯชุดใหม่นี้ก็ต้องรับไป แต่ทั้งนี้ต้องหารือและเจรจากับสรรพากรก่อน”
รองเลขาฯ ฝ่ายกฏหมาย เผยอีกว่า จะมีการข้อมูลในเชิงลึกและจะมีการตั้ง คณะกรรมการตรวจสอบที่มาของหนี้ดังกล่าว ส่วนสัญญาที่ผู้บริหารชุดเก่าทำไว้กับบริษัทต่างๆ ที่เข้ามาสนับสนุนปรากฏว่า ยังไม่มีรายละเอียดอะไรเลย โดยเฉพาะสัญญาที่ทำไว้กับ บมจ.สยามสปอร์ต มีเพียงสำเนาส่งมาให้เท่านั้น
สรุปหนี้สินของ สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ มี 16 ล้านบาท รวมกับที่ สรรพากร ทวงภาษีอีก 131 ล้านบาท รวมเป็นทั้งสิ้น 147 ล้านบาท ขณะที่เงินในบัญชีเหลือเพียง 1 ล้านบาทเศษ







