แบนแข้งโหด ชกสุเชาว์4นัด อ้างเหยียดผิว

  บางกอกกล๊าส 0-0 เมื่อวันที่ 15 ก.ค.โดยเหตุดังกล่าวเกิดเมื่อ ลาซารัส คาอิมบี กองหน้าทีมชาตินามิเบียของบีจี เจตนาต่อยเข้าที่หน้าของ “กบ” สุเชาว์ นุชนุ่ม กัปตันทีมบุรีรัมย์ ทำให้ปากแตกเย็บ 4 เข็ม ซึ่งผู้ตัดสินควักใบแดงไล่ ลาซารัส ออกจากสนาม และหลังจบเกม ลาซารัส โพสต์ข้อความผ่านอินสตาแกรมส่วนตัวระบุว่าถูก สุเชาว์ ด่าทำนองเหยียดสีผิวทำให้เจ้าตัวระงับอารมณ์ไม่อยู่ ขณะที่ สุเชาว์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กยืนยันว่าไม่ได้ด่า ลาซารัส แต่อย่างใด

ล่าสุด เมื่อวันที่ 16 ก.ค.ที่ห้องประชุมสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย มีการประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณามารยาทวินัยและข้อประท้วง โดยมี ธนพิชญ์ มูลพฤกษ์ ประธานคณะอนุกรรมการพิจารณามารยาท เป็นประธาน พร้อมด้วย ทัดเทพ พิทักษ์พูลสินธ์ ผู้จัดการทีมบุรีรัมย์ กับ “โค้ชง้วน” สุรชัย จตุรภัทรพงศ์ ผู้อำนวยการสโมสรบางกอกกล๊าส เป็นตัวแทนชี้แจง

การประชุมใช้เวลานานกว่า 2 ชม. ก่อนได้ข้อสรุปดังนี้ ลงโทษแบน ลาซารัส คาอิมบี 2 นัด ปรับ 4 หมื่นบาท ทำให้รวมกับโทษใบแดงโดยตรงในเกมดังกล่าวซึ่งโดนแบน 2 นัด เป็นเหตุให้ ลาซารัส ถูกแบนรวมทั้งสิ้น 4 นัดด้วยกัน ขณะที่ สุเชาว์ ถูกลงโทษแบน 1 นัด ปรับ 2 หมื่นบาท ทำให้รวมกับโทษใบเหลืองสะสมในเกมดังกล่าวซึ่งโดนแบน 1 นัด เป็นเหตุให้ สุเชาว์ ถูกแบนรวมทั้งสิ้น 2 นัด

ธนพิชญ์ กล่าวว่าประเด็นการพูดจาเหยียดสีผิวคณะอนุกรรมการไม่สามารถตรวจสอบได้ เนื่องจากไม่มีพยานและหลักฐาน เรื่องนี้เป็นเรื่องของทั้งคู่จะไปสู้กันทางกฎหมาย

ด้านสุเชาว์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า แค่วิ่งไปพูดคำว่า “ยู เพลย์ แฟร์เพลย์” และ “ยู ด้อน เพลย์ ฟุตบอล ดีส” ซึ่งสื่อทำนองว่า ลาซารัส เล่นนอกเกม เนื่องจากจังหวะก่อนหน้าที่จะมีปัญหากัน ลาซารัส ได้พุ่งเสียบใส่เพื่อนร่วมทีม ทำให้ตนเองในฐานะกัปตันทีมต้องออกโรงปกป้องลูกทีม ส่วนการพูดจาเหยียดสีผิวยืนยันว่าไม่ได้พูดอย่างแน่นอน พร้อมท้าให้มีการพิสูจน์หากพบว่าตนผิดจริงก็จะเลิกเล่นฟุตบอลตลอดชีวิต