อุบลฯตั้งกก.สอบทุจริตสร้างสนามฟุตซอล

นายประวิทย์ หลักบุญ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 29 กล่าวว่า การใช้จ่ายงบดังกล่าวเกิดขึ้นก่อนที่ตนจะมารับตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการเขต โดย 6 โรงเรียนที่ได้รับจัดสรรงบประมาณนี้ ประกอบด้วยโรงเรียนเบญจะมะมหาราช และศรีปทุมพิทยาคาร โดยโรงเรียนทั้งสองแห่งตั้งอยู่ที่จังหวัดอุบลราชธานี ได้รับงบประมาณเฉลี่ยโรงละ 1.9-2.5 ล้านบาท

ส่วนอีก 4 โรงตั้งอยู่ที่จังหวัดอำนาจเจริญ ประกอบด้วยโรงเรียนหัวตะพานพิทยาคม 2.5 ล้านบาท อีก 3 โรงได้รับงบประมาณโรงเรียนละ 5 ล้านบาท คือ โรงเรียนอำนาจเจริญ โรงเรียนศรีเจริญศึกษา และโรงเรียนสร้างนกทาวิทยาคม ทำให้ สตง.ตั้งข้อสังเกตทำไมทั้ง 3 โรงเรียน จึงใช้งบประมาณก่อสร้างสนามฟุตซอลแบบเดียวกันมากกว่าโรงเรียนอื่น

เมื่อได้รับข้อท้วงติงจาก สตง.สพม.เขต 29 จึงได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงไปตรวจสอบร่างทีโออาร์ของโรงเรียนกับบริษัทที่รับเหมาก่อสร้าง เป็นไปตามแบบรายการที่แจ้งไว้จริงหรือไม่ และแผ่นยางสนามฟุตซอลมีการชำรุดเสียหายหรือเสื่อมสภาพจริงหรือไม่ เมื่อทราบข้อเท็จจริงทั้งหมด สพม.จะดูว่าหากมีการทุจริตเกิดขึ้นใครจะต้องรับผิดชอบทางวินัย อาญา และทางแพ่งบ้าง

ซึ่งขณะนี้ คณะกรรมการได้ดำเนินการตรวจสอบแล้ว และจะสรุปผลการสอบสวนภายใน 60 วัน เพื่อดำเนินการหากพบความผิดปกติตามที่ สตง.ตั้งข้อสังสัยไว้

ขณะเดียวกันแหล่งข่าวจากวงการศึกษากล่าวถึงการใช้จ่ายงบประมาณจากการแปรญัตติงบประมาณของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เป็นกลุ่มนักการเมืองท้องถิ่น จึงมีการล็อกสเป็ก และกำหนดบริษัทผู้รับเหมามาจากส่วนกลาง ผู้บริหารโรงเรียนส่วนใหญ่ จึงไม่ต้องการรับงบประมาณนี้มา เพราะทราบจะมีปัญหาตามมาภายหลัง แต่มีผู้บริหารโรงเรียนบางรายที่สนิทกับนักการเมืองหรือถูกบีบบังคับ ทำให้ต้องยอมรับ

รวมทั้งคณะกรรมการตรวจรับงานก็เป็นเพียงครูผู้สอนที่ไม่มีความรู้เรื่องการใช้วัสดุมาก่อสร้าง สุดท้าย เมื่อถูกตรวจสอบครูที่เป็นกรรมการตรวจรับงานก็จะต้องถูกสอบสวนและลงโทษ โดยไม่สามารถสาวไปถึงนักการเมืองที่อยู่เบื้องหลังการทุจริตที่เกิดขึ้นได้ แหล่งข่าวที่เป็นครูอาวุโสรายนี้กล่าว