นายกฯยืนยัน ภายในสิ้นเดือน ต.ค. อพยพคนไทยกลับบ้านได้ 5,700 คน

หลังประชุมศูนย์สถานการณ์ฉุกเฉินเกี่ยวกับสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอล-ฮามาส ณ กระทรวงการต่างประเทศเสร็จสิ้น นายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน รายงานว่า รัฐบาลไทยพยายามอพยพคนไทยออกมาให้ได้เร็วที่สุด โดยภายในสิ้นเดือนนี้ จะมีหลายสายการบินที่ช่วยอพยพคนไทย อาทิ สายการบินนกแอร์ การบินไทย อิสราเอลแอร์ไลน์ และสไปซ์แอร์ รวมทั้งหมด 32 เที่ยวบิน ซึ่งจะสามารถอพยพคนไทยได้ 5,700 คน แต่ยังคงไม่เพียงพอ เนื่องจากมีคนไทยประสงค์กลับบ้านราว 7,000 คน และอาจเพิ่มขึ้นอีกเรื่อย ๆ

รัฐบาลยังคงเป็นห่วงพี่น้องชาวไทย เนื่องจากอิสราเอลเตรียมปฏิบัติการภาคพื้น อาจทำให้การลำเลียงคนไทยออกจากอิสราเอลทางน้ำและทางบกไม่สะดวก ต้องพึ่งพาทางอากาศอย่างเดียว

อย่างไรก็ดี สถานทูตไทยในอิสราเอลสามารถนำคนไทยมาอยู่ศูนย์พักพิงที่จัดไว้ได้ 400 คนแล้ว และอำนวยความสะดวกเรื่องเอกสารให้คนไทยที่ขาดเอกสารเดินทางเรียบร้อย

สำหรับเที่ยวบินอพยพมีทั้งเที่ยวบินตรงและเที่ยวบินที่แวะไปยังประเทศที่ 3 และจากกระแสข่าวที่ว่าเครื่องบินเอ380 จุคนได้ราว 500 คน เป็นเรื่องจริง แต่เครื่องบินเอ380 ที่มีไม่สามารถจุคนได้มาก เนื่องจากเครื่องบินต้องมีการซ่อมบำรุง และนักบินต้องทบทวนทักษะ จึงให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหาเช่าเครื่องบินเอ380 เพิ่มเติม

ในการช่วยเหลือตัวประกัน รัฐบาลมีแนวทางช่วยเหลือ 3 ทางได้แก่ ทางการทูต สำนักงานข่าวกรอง การทหาร และภาคประชาชน หรือยูเอ็นจีโอ ส่วนคนไทยที่ยังติดต่อไม่ได้ รัฐบาลยืนยันว่า พยายามช่วยเหลือทุกช่องทาง ตราบใดที่ยังไม่มีข่าวร้ายออกมา เชื่อว่าเรายังมีความหวัง

ทั้งนี้ หลังคนไทยได้กลับบ้านแล้ว ทางกระทรวงแรงงานมีเงินชดเชยเพื่อให้แรงงานสามารถตั้งตัวได้โดยเร็ว