"เต้ มงคลกิตติ์" จี้ รมว.กลาโหม รับผิดชอบกรณี "เรือหลวงสุโขทัย" อับปาง

วันนี้(23 ธันวาคม 2565) ที่วิทยาลัยอาชีวศึกษาเชียงใหม่ นาย มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หรือ ส.ส.เต้ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ สังกัดพรรคไทยศรีวิไลย์ ได้เดินทางมาจัดกิจกรรมเสวนา ในหัวข้อ "ทิศทางพลังงานไทย ใครได้ใครเสีย" โดยในงานนี้ ส.ส.เต้ ยังได้พูดถึงกรณี "เรือหลวงสุโขทัย" อับปางด้วย

 

 

โดย ส.ส.เต้ มงคลกิตติ์ กล่าวถึงกรณีการอับปางของเรือหลวงสุโขทัย ว่า ตอนนี้ตนได้รับข้อมูลจากกำลังพลที่ทำงานบนเรือมาพอสมควรเกี่ยวกับการสื่อสารก่อนที่เรือจะอับปางลง ประมาณ 6-7 ชั่วโมงก่อนเกิดเหตุว่ามีการสั่งการอย่างไรบ้าง ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ก็ต้องมีการนำมาสอบสวนกันอีกครั้ง นอกจากนี้ตนยังสงสัยประเด็น "เรือหลวงกระบุรี" ที่เดินทางไปช่วยเหลือเรือหลวงสุโขทัยว่า ในเมื่อเห็นเรือกำลังเอียงลงทำไมถึงไม่มีการส่งเสื้อชูชีพไปยังเรือหลวงสุโขทัยหรือว่าจะต้องรอคำสั่งอะไรหรือเปล่า หรือว่าทุกคนเป็นห่วงเรือจนลืมเป็นห่วงตัวเอง แต่เท่าที่ตนดูคลิปการจมของเรือจะเห็นว่ายังมีกำลังพลของเรืออยู่ภายในเรือ แม้กระทั่งเรือจมไปกว่า 80% ซึ่งคาดการณ์ว่าภายในซากเรือน่าจะมีกำลังพลติดอยู่

 

ส่วนความรับผิดชอบนั้นตนมองว่า ต้องมีความรับผิดชอบกันตั้งแต่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการทหารเรือ เสนาธิการทหารเรือ ตามลำดับการบังคับบัญชา และหลังจากนี้ก็จะดำเนินเรื่องในการตรวจสอบเกี่ยวกับโครงสร้างของเรือและตัวเรือว่าสาเหตุที่แน่ชัดนั้นมาจากอะไร เกิดจากการขาดการบำรุงรักษาหรือไม่ หรือว่ามีรอยรั่วหรือเปล่า จะให้กองทัพเรือตรวจสอบเพียงฝ่ายเดียวไม่ได้เพราะอาจจะมีการช่วยกัน ซึ่งตนในฐานะเป็น กมธ.การทหาร ก็จะต้องเข้าไปร่วมตรวจสอบด้วย

 

 

ส่วนประเด็นที่เรือหลวงสุโขทัยจมเพราะถูกคลื่นลมแรงก็ยังไม่ปักใจเชื่อ เพราะเรือที่จมเป็นเรือรบไม่ใช่เรือประมง เป็นเรือที่ถูกออกแบบมาให้ทนสภาพคลื่นแรง ทนต่อกระสุนปืนใหญ่ ทนต่ออาวุธปล่อยนำวิถีแบบโทมาฮอกหรือว่าตอปิโด และเท่าที่ทราบเรือลำนี้น่าจะทนคลื่นได้ถึงระดับ 6-7 เมตร เพียงแต่ตัวเรืออาจไม่สมบูรณ์ก่อนที่จะออกเรือหรือเปล่า ส่วนเสื้อชูชีพมันไม่เพียงพออยู่แล้ว

 

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของประเด็นเรือดำน้ำที่ทางกองทัพเรือไทยได้สั่งซื้อจากประเทศจีนนั้น นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า เรือจะยังไม่จมเพราะยังไม่ได้ของ เรือดำน้ำจะจมได้ก็ต่อเมื่อเราซื้อมาและเขาได้ส่งมอบของมาแล้ว แต่นี้เรือยังไม่จมเพราะยังไม่ได้ของ เพราะฉะนั้นก็ยังไม่ต้องห่วง

 

ก่อนจบการให้สัมภาษณ์ ผู้สื่อข่าวได้สอบถามนายมงคลกิตติ์ว่า หากตนเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมจะทำอย่างไร ซึ่งนายมงคลกิตติ์ได้ตอบว่า ตนจะยกเลิกภารกิจทุกอย่างให้คนอื่นทำ และไปช่วยเหลือค้นหาให้กำลังใจกำลังพล และถ้าไม่เจอกำลังพลที่สูญหายก็จะไม่ขึ้นจากทะเล ซึ่งอีก 2 วันหากการค้นหายังไม่คืบหน้า ตนจะลงไปช่วยค้นหาอีกแรง

 

ข่าวโดย ธนกร วงศ์นาง เชียงใหม่