เด้ง 3 เสือ สภ.ปากเกร็ด เซ่นคดี ดาบตำรวจ ลักปืนหลวง ตามคืนได้แล้วกว่า 50 กระบอก

เด้ง 3 เสือ สภ.ปากเกร็ด เซ่นคดี ดาบตำรวจ ลักปืนหลวง ตามคืนได้แล้วกว่า 50 กระบอก

ไม่รอด! สั่งเด้ง "3 เสือ" สภ.ปากเกร็ด เซ่นคดี "ดาบตำรวจ" ลักปืนหลวงไปขาย-จำนำ เกือบ 100 กระบอก ล่าสุดผู้ต้องหาถูกคุมตัวฝากขังศาล สีหน้าเคร่งเครียด ขณะที่ปืนตามคืนได้แล้วกว่า 50 กระบอก

ความคืบหน้าคดี "ดาบตำรวจ" เชาวลิต พุ่มขจร อดีต ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปราม สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี แอบลัก "ปืนหลวง" จากคลังของ สภ.ปากเกร็ด ไปขายกว่า 95 กระบอก ซึ่งต่อมาได้ถูกจับกุมและนำตัวไปฝากขังศาลคดีทุจริตภาค 1 จ.สระบุรี ขณะที่อาวุธปืนของกลางสามารถตามคืนมาได้แล้วกว่า 50 กระบอก ซึ่งก่อนหน้านี้ พ.ต.อ.พงศ์จักร ปรีชาการุณพงศ์ ผกก.สภ.ปากเกร็ด ได้ถูกคำสั่งเด้งให้มาช่วยราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 1 (ศปก.ภาค 1)

 

 

ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้(21 ตุลาคม 2565) ภายหลังการสอบปากคำ "ดาบตำรวจ" เชาวลิต พุ่มขจร ไปเมื่อคืนที่ผ่านมา โดยมี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. , พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 , พล.ต.ต.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รอง ผบช.ภ.1 , พล.ต.ต.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผบก.ภ.จ.นนทบุรี , พล.ต.ต.อภิชาติ วรรณภักดิ์ ผบก.สส.ภ.1 ร่วมสอบปากคำ

 

ภายหลังสอบปากคำ ดาบตำรวจเชาวลิต เสร็จ พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 ได้เซ็นคำสั่งที่ 292/65 ให้ พ.ต.อ.พงศ์จักร ปรีชาการุณพงศ์ ผกก.สภ.ปากเกร็ด , พ.ต.ท.สุเนตร์ สีชำนาญ รอง ผกก.ป.สภ.ปากเกร็ด และ พ.ต.ท.พรรษา จิวรรักษ์ สว.อก.สภ.ปากเกร็ด ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 1 (ศปก.ภ.1) โดยขาดจากตำแหน่งเดิม หรือจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง

 

และมีคำสั่งให้ข้าราชการตำรวจรักษาราชการแทน โดยให้ พ.ต.อ.อภิศักดิ์ โชติกเสถียร ผกก.สภ.ข้างใหญ่ จ.พระนครศรีอยุธยา รักษาราชการแทน ผกก.สภ.ปากเกร็ด , พ.ต.ท.สมภพ เชาว์เพชรไพโรจน์ รอง ผกก.สส.ภ.จ.นนทบุรี รักษาราชการแทน รอง ผกก.ป.สภ.ปากเกร็ด และ ร.ต.อ.พิชิต อิ่มโอชา รอง สว.อก.ภ.จ.นนทบุรี รักษาราชการแทน สว.อก.สภ.ปากเกร็ด พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง

 

เด้ง 3 เสือ สภ.ปากเกร็ด เซ่นคดี ดาบตำรวจ ลักปืนหลวง ตามคืนได้แล้วกว่า 50 กระบอก

 

 

ขณะที่การติดตามอาวุธปืนของกลางเมื่อเวลา 13.30 น. พล.ต.ต.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผบก.ภ.จว.นนทบุรี ได้เดินทางมาตรวจสอบจำนวนอาวุธปืน รวมทั้งสำนวนหลักฐานคดี โดยใช้เวลาในการตรวจสอบหลักฐานต่าง ๆ อยู่ราว 30 นาที ก่อนจะเข้าห้องสอบสวนเพื่อสอบถามรายละเอียดกับ ดาบตำรวจเชาวลิต ถึงเหตุการณ์และเรื่องราวที่เกิดขึ้น

 

ต่อมา พล.ต.ต.ไพศาล ให้สัมภาษณ์ว่า เช้าวันนี้ทางตำรวจได้อาวุธปืนกลับมาแล้วประมาณ 50 กว่ากระบอก แต่ก็ยังต้องดำเนินการติดตามในส่วนที่เหลือ โดยสภาพปืนยังเหมือนเดิมไม่มีอะไรเสียหาย

 

วันเดียวกันนี้เมื่อเวลา 13.20 น. พนักงานสอบสวน สภ.ปากเกร็ด ได้ควบคุมตัวดาบตำรวจเชาวลิต พุ่มขจร อดีต ผบ.หมู่งานธุรการ สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาขโมยปืนหลวงไปขายต่อ ไปขออำนาจศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 จังหวัดสระบุรี ฝากขังครั้งแรก ระหว่างคุมตัวขึ้นรถ ดาบตำรวจเชาวลิตไม่ตอบคำถามนักข่าว อีกทั้งยังมีสีหน้าเคร่งเครียด

 

โดยก่อนหน้านี้ ดาบตำรวจเชาวลิต ให้การว่า ปืนที่ขโมยไปเกือบทั้งหมดนำไปจำนำในพื้นที่ กทม.และนนทบุรี ไม่ได้นำไปขาย เนื่องจากเป็นปืนสำหรับให้ตำรวจใหม่ใช้ในการปฏิบัติภารกิจ แบบใช้แล้วคืนเป็นรายวัน ซึ่งเงินที่ได้นำไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ส่วนเรื่องการพนันดาบตำรวจเชาวลิตรับสารภาพว่า เล่นจริง แต่ไม่ได้เสพติด และจำไม่ได้ว่านำปืนออกไปทั้งหมดกี่กระบอก

 

ทั้งนี้ ดาบตำรวจเชาวลิต ถูกดำเนินคดีใน 4 ข้อหา คือ

  1. ความผิดตาม ม.147 เป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตนฯ
  2. ม.157 เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ
  3. ปลอมแปลงเอกสารทางราชการ
  4. ลักทรัพย์ในสถานที่ราชการ