เตรียมรับมือ "พายุโนรู" เร่งเสริมคันคูป้องกันการไหลย้อนกลับของน้ำ

ส่วนท้องถิ่นระดมกำลังตรวจสอบจุดเสี่ยง เสริมคันคูเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำจากพายุโนรู ขณะที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น เตือนประชาชนที่อาศัยบริเวณรอบอ่างเก็บน้ำเขื่อนอุบลรัตน์ที่เตรียมพร้อมรับมือน้ำ ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้นจนเต็มความจุในวันที่ 1 ตุลาคมนี้

เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2565 ที่บริเวณสะพานบึงถุงเทียว ถนนสายน้ำพอง-กระนวน ใกล้กับที่ทำการเทศบาลตำบลลำน้ำพอง อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น เจ้าหน้าที่จากสำนักงานป้องกันเทศบาลตำบลลำน้ำพอง นำประสอบทรายเข้าปิดและเสริมคันคูน้ำที่ไหลลงจากบึงถุงเทียว ไปสู่ลำน้ำพอง เพื่อป้องกันการไหลย้อนกลับ เนื่องจากระแสน้ำในลำน้ำพองสูงขึ้นกว่าระดับน้ำในบึงฯ เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำไหลย้อนกลับเอ่อล้นเข้าไปท่วมภายในสำนักงานเทศบาลฯ โดยระดับน้ำที่เขื่อนหนองหวาย ซึ่งเป็นเขื่อนลมที่กั้นผันน้ำในแม่น้ำพองเพื่อการเกษตรไปยังคลองฝั่งซ้าย – ขวา มีระดับน้ำสูงกว่าปกติ ขณะเดียวกันสำนักงานป้องกันบรรเทาสารธารณภัยจังหวัดขอนแก่น ได้นำเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ติดตั้งบริเวณห้วยอีตื๋อ ซึ่งเป็นลำห้วยสาขาที่ไหลลงสู่ลำน้ำพอง บริเวณบ้านบึงเป่ง ต.ท่ากระเสริม อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ทำการสูบน้ำย้อนกลับ หลังจากน้ำในลำน้ำพองได้เอ่อล้นพื้นที่ทำการเกษตร ในเขตบ้านบึงเป่ง ต.ท่ากระเสริม อ.น้ำพอง และบ้านโคกท่า ต.หนองตูม อ.เมือง จ.ขอนแก่น ได้รับความเสียหายกว่า 3,000 ไร่
 

นายเคื่อง ผิวขำ อายุ 66 ปี อยู่บ้านเลขที่ 335 หมู่ 11 บ้านโคกท่า ต.หนองตูม อ.เมือง ขอนแก่น เปิดเผยว่า ตนเองมีพื้นที่ทำการเกษตรอยู่ในเขตบ้านบึงเป่ง อ.น้ำพอง กว่า 15 ไร่ โดยทำนาและขุดบ่อเลี้ยงปลา 2 ไร่ ได้รับความเสียหายทั้งหมด เนื่องจากน้ำที่เอ่อขึ้นมาจากลำน้ำพองไหลเข้ามาท่วมตั้งแต่วันเสาร์ที่ผ่านมา ซึ่งชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนหลายพันไร่ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นทุกปี น้ำจะท่วมอย่างนี้ทุกปี อยากให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเข้ามาช่วยเหลือชาวบ้านด้วย โดยตนขอเสนอให้ทำประตูปิด-เปิดน้ำ 3 จุด คือ 1.บริเวณบ้านญี่ปุ่น (ห้วยน้ำขุ่น) 2. สะพาน 1 ห้วยปากเขื่อนหนองหวาย และ 3. สะพาน 2 ห้วยอีตื๋อ ใช้เงินงบประมาณไม่ถึง 10 ล้านบาท ก็สามารถช่วยเหลือชาวบ้านได้ทั้ง 2 ตำบล ไม่ต้องกังวลว่าจะต้องรับมือกับน้ำท่วมทุกปี ซึ่งจะทำให้ค่าใช้จ่ายในการทำงานเพิ่มขึ้น อยากให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเข้ามาช่วยชาวบ้านอย่างจริงจัง
 

ขณะที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น รายงานสถานการณ์น้ำในเขื่อนอุบลรัตน์ ประจำวันที่ 27 กันยายน 2565 มีระดับกักเก็บ 2,023 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 83.11 โดยมีปริมาณน้ำไหลเข้า 107.27 ล้าน ลบ.ม. ปริมาณน้ำระบายออก 25 ล้าน ลบ.ม. สามารถรองรับน้ำได้อีกเพียง 408.19 ล้าน ลบ.ม.เท่านั้น จากสถานการณ์ดังกล่าว กฟผ.ได้ฝากเตือนประชาชนที่อาศัยบริเวณรอบอ่างเก็บน้ำเขื่อนอุบลรัตน์ที่อาจได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักและฝนตกสะสมจนมีปริมาณน้ำไหลหลากลงสู่อ่างเก็บน้ำ ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้นจนเต็มความจุในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ จึงขอให้ประชาชนเตรียมความพร้อมและเฝ้าระวังระดับน้ำ และติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด