‘เที่ยวกระบี่’ เห็น ‘รอยยิ้มแห่งลันตา’
‘เที่ยวกระบี่’ นั่งมอง ‘รอยยิ้มแห่งลันตา’ เกาะรอก สวยยังไง เอาเป็นว่า ที่นี่ ทดแทนเกาะตาชัย ที่ปิดไปได้สบายๆ ดีใจที่ ชีพจรของการท่องเที่ยวได้กลับฟื้นคืนมาแล้ว
ต้องย้อนหลังไปนานหลายปีทีเดียว ถ้าเราอยากจะเห็นภาพของ เกาะลันตา จ.กระบี่ในช่วงแรกๆ ของการเป็นแหล่ง ท่องเที่ยว อันลือชื่อ แห่งหนึ่งของไทย อย่างทุกวันนี้ ว่ากว่าจะไปถึง มันมีความทุรกันดารเพียงใด โดยเฉพาะการเดินทางไปจนสุดปลายเกาะ ที่ แหลมโตนด
ซึ่งเป็นที่ตั้งของประภาคาร และติดกันเป็นที่ตั้งของ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา ซึ่งต้องใช้รถ 4 WD เท่านั้นจึงจะไปถึงได้ เส้นทางกว่าค่อนเป็นทางลูกรัง ทางลาดยางนั้นลาจากกันตั้งแต่ที่ท่าเรือบ้านหัวหิน สุดปลายถนน หมายเลข 4206 นั่นคือที่สุดท้าย และเมื่อลงเรือข้ามฟากมา ลันตาน้อย
จากลันตาน้อยต้องลงเรืออีกรอบมา ลันตาใหญ่ ล้วนแล้วแต่ทางลูกรังทั้งสิ้น รถวิ่งกันที ฝุ่นแดงจากลูกรังที่ถูกลมทะเลพัดก็จะเฮไปด้านใดด้านหนึ่ง บ้านใครอยู่ปลายลมก็รับเคราะห์ไป แล้วถนนจากบ้านศาลาด่านไปยังหมู่บ้านต่างๆนี่ล้วนแล้วแต่ทางลูกรัง ยิ่งไปแหลมโตนดยิ่งไม่ต้องพูดถึง ทางทั้งชัน ทั้งเป็นหลุมบ่อ
ผมมา เกาะลันตา ก่อนนี้ ก็ก่อนที่จะมีการประกาศห้ามการเดินทางเพราะวิกฤติการโควิด โดยมาถึงลันตาได้คืนเดียววันรุ่งขึ้น ทางการก็ประกาศห้ามการเดินทาง และที่เกาะลันตา ก็มีการประกาศปิดเกาะ ผมต้องเร่งกลับกรุงเทพก่อนที่จะเดินทางเข้ามาไม่ได้
ระหว่างนั้น ผมรับรู้ถึงความเป็นอยู่อันยากยิ่งของเกาะลันตามาตลอด เกาะที่ดำรงอยู่ได้ด้วยการท่องเที่ยว เมื่อไม่มีการ ท่องเที่ยว เสียแล้ว ทุกอย่างก็นิ่งสนิท ได้ยินแต่ข่าวคราวเล็กๆของเกาะลันตาจากผู้คนที่ยังพอส่งข่าวกันได้บ้างในช่วงที่เกาะขาดไร้นักท่องเที่ยว
บ้านเราเปิดประเทศมา 7-8 เดือนแล้ว มีการเดินทาง ผมเห็นนักท่องเที่ยวเข้ามาบ้านเราจนแน่นสนามบิน ฟังข่าวคราวว่าที่นั่น ที่นี่ มีนักท่องเที่ยวกันแน่น แน่นอน ผมคิดถึงเกาะลันตา
ผมมาลันตาอักครั้งเมื่อ 24 มีนาคม 2566 และเที่ยวอยู่บนนี้ถึง 4 คืน เป็น 4 คืนที่ได้แต่ชื่นชมเกาะลันตา เห็นการพัฒนาไปอย่างมาก
ถนนที่แยกมาจากหมายเลข 4 (ตรัง-กระบี่)ตรงแยกบ้านห้วยน้ำขาว มาตามถนนหมายเลข 4206 เข้ามายังบ้านหัวหิน ช่วงปากทางกำลังมีการถูกขยายให้เป็นด้านละ2-3 ช่องจราจร เพื่อรองรับการจราจรที่หนาตา ป้ายโครงการสร้างสะพานจากบ้านหัวหิน ไปยัง ลันตาน้อย ขึ้นตระหง่าน ด้วยงบประมาณพันกว่าล้านบาท
ทางบน ‘เกาะลันตาน้อย’ นั้นลาดยางมานานแล้ว สะพานสิริลันตา ที่สร้างโดยกรมทางหลวงชนบทที่เชื่อมระหว่างเกาะลันตาน้อยและเกาะลันตาใหญ่ มีคนจอดรถถ่ายรูปกลางสะพาน ด้วยว่าทิวทัศน์นั้นคงยั่วยวนใจคนเดินทางจนอดใจไม่ไหว
นักท่องเที่ยวต่างชาติบนเกาะยังหนาตาอย่างมาก แม้ผู้ประกอบการจะบอกว่านี่จะเข้าช่วงปลายฤดูท่องเที่ยวของเขาแล้วก็ตาม ส่วนใหญ่จะเป็นชาวยุโรป นักท่องเที่ยวชาวเอเชีย อย่างมาเลเซีย จีน อินเดีย เกาหลี แม้กระทั่งชาวเวียตนาม ที่นิยมมาเมืองไทยขณะนี้ กลับมีไม่มากบนเกาะลันตา
นักท่องเที่ยวยุโรป อเมริกา ขี่มอเตอร์ไซค์ ฝ่าลมแดด แล่นกันขวักไขว่ ตามชายหาดต่างๆ เห็นนักท่องเที่ยวมานอนอาบแดด เล่นน้ำ นั่งบนเตียงผ้าใบอ่านหนังสือ ชนิดไม่กลัวแดด แต่ถ้าเป็นนักท่องเที่ยวชาวไทยก็จะห่อตัวยิ่งกว่าแหนมป้าย่น ชายหาดสารพัดหาด อย่างหาดยาว หาดพระแอะ หาดบากันตียง หาดคลองจาก หาดไม้ไผ่ ฯลฯ
ชายหาดในช่วงเวลานี้สวยงาม หาดทรายกว้าง นักท่องเที่ยวมีปริมาณกำลังพอดี ไม่มากและไม่น้อยจนเกินไป ทำให้ชายหาดเหล่านี้ดูคึกคัก ยิ่งมีแดดด้วย ยิ่งทำให้ทะเลสวย
ที่ได้รับอานิสงอย่างมากคือ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา ที่อยู่ปลาย แหลมโตนด นั้น นักท่องเที่ยวที่เช่ามอเตอร์ไซค์ขับ ล้วนแล้วแต่ไปที่นี่กันแทบทุกคน แม้จะเสียค่าธรรมเนียมสำหรับชาวต่างชาติถึงคนละ 400 บาทก็ตามที แต่ก็ถือว่าคุ้มค่าสำหรับแหลมโตนด
ที่นี่มี ชายหาด อยู่สองด้านของแหลม คือด้านตะวันออก จะเป็นหาดทรายที่เป็นเวิ้งสวยงาม ยิ่งในยามน้ำลง ชายหาดจะกว้างมาก เงียบสงบ ไม่พลุกพล่าน ส่วนทางด้านตะวันตก เป็นหาดหิน ที่มีสีสันและลวดลายสวยงามสะดุดตา รวมทั้งหินกลมมนขนาดต่างๆที่อยู่กันทางหาดด้านนี้ ทั้งยังเป็นด้านที่ชมพระอาทิตย์ตกที่สวยมาก
สำหรับสายแคมปิ้ง ไม่ว่าจะเป็นรถบ้านหรือเอาเต็นท์ออกมากาง ที่นี่ก็นับเป็นจุดกางเต็นท์ที่ดีมาก สนามหญ้าที่กว้างใหญ่ มีร้านอาหาร ไฟฟ้า ห้องน้ำ อินเตอร์เนตไวไฟ และการเดินทางที่สะดวกมาก ทางลาดยางถึงที่ คนไทยที่อายุ 60 ขึ้นไป ก็เข้าฟรีอีก
คนที่ชอบจอดถนตั้งแคมป์นานหลายๆวัน ลองมาที่นี่แล้วจะติดใจ แต่ถ้าเห็นว่ามากางเต็นท์ถึงแหลมโตนดอาจจะไกลไป อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา ยังมีที่กางอีกที่อยู่เชิงสะพานสิริลันตาฝั่งเกาะลันตาน้อย ที่นี่ก็จะสะดวกมากเพราะอยู่ติดถนน และอยู่ห่างจากชุมชนศาลาด่านเพียงแค่ข้ามสะพาน
นอกจากนี้ ที่เกาะลันตา ยังมีแพกเกจไปเที่ยวเกาะรอก หมู่เกาะห้า อีกด้วย ซึ่งที่เกาะรอกนั้น ท่านสามารถจะพักแรมบนเกาะได้ด้วย เพราะมีบ้านพักของอุทยานฯหรือจะกางเต็นท์ก็ได้ แล้วค่อยกลับกับเรือ ที่ซื้อแพกเกจมาในวันต่อไปได้ เพราะในช่วงฤดูท่องเที่ยว เรือเขามีออกไปเกาะรอกทุกวัน
เกาะรอก สวยยังไง เอาเป็นว่า ที่นี่ ทดแทนเกาะตาชัยที่ปิดไปได้สบายๆ
ผมขับรถเลาะดูตามโรงแรม ที่พัก ร้านอาหารต่างๆ ก็ดีใจ ที่มีนักท่องเที่ยวหนาตา สอบถามบางโรงแรม มีนักท่องเที่ยวเข้าพักร้อยละ 70 รถรับส่งทั้งรถตู้หรือแท็กซี่ที่มาจากกระบี่ มาจากอ่าวนาง ก็จอดรอกันหน้าโรงแรมจนขวักไขว่ ยิ่งไปย่านคลองนิน ซึ่งจะเป็นสามแยกไปชุมชนเก่าเกาะลันตานั้น ย่านนี้จะเป็นชุมชนกลายๆ พลุกพล่านอย่างมาก ทั้งคนพื้นที่ ทั้งนักท่องเที่ยว เรียกว่าชีพจรของการท่องเที่ยวกลับฟื้นคืนมาแล้ว
ผมได้ไปลองเดินตามเส้นทางเดินป่าไปน้ำตกคลองจาก ซึ่งถึงแม้น้ำตกจะอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา แต่เจ้าหน้าที่เขาไม่ได้มาตั้งโต๊ะเก็บค่าบริการ ให้ชาวบ้านดูแลกันเอง ทางอุทยานฯเพียงส่ง เจ้าหน้าที่มาตรวจตราตรงทางเข้าแค่นั้น แล้วให้มีไกด์หรือเด็กในพื้นที่นำทางนักท่องเที่ยวเข้าไปเอง ปรากฏว่ามีนักท่องเที่ยวเข้าไปกันถี่มาก ไกด์ชาวบ้านแทบไม่พอ
แหล่งท่องเที่ยว ในประเทศที่หากินกับการท่องเที่ยวนั้น เพียงแค่ดูแลแหล่งท่องเที่ยว บริการนักท่องเที่ยวให้ดี ซื่อสัตย์ ไม่เอาเปรียบ ให้ความปลอดภัยแก่เขา เพียงแค่นี้ ถ้าทำได้ เชื่อว่าการท่องเที่ยวเราจะทำเงินได้อีกนาน
ได้มาเห็นเกาะลันตาในวันนี้ก็ชื่นใจ เพราะที่ลันตามีปัจจัยทุกอย่างที่ผมว่ามานั้นครบครัน ต่างชาติเขามาเที่ยวชมบ้านเรา เพราะบ้านเรามีดี ก็อยากให้คนไทยเรา มาเที่ยวชมเกาะลันตาของบ้านเราบ้าง จะได้ช่วยกันแนะนำคนที่ยังไม่เคยมา จะได้มาช่วยกันชื่นชม
มาลันตาคราวนี้ เห็นแต่รอยยิ้มกันทั่วหน้า แบบนี้ ถึงร้อนอากาศ ก็ยอมครับ....
