ทักษะไม่ตรงงาน ดันคนว่างงานเพิ่ม แพลตฟอร์มใหม่ชี้ทางอาชีพ

ปัญหาว่างงานในกลุ่มคนรุ่นใหม่เริ่มเป็นสัญญาณที่ต้องจับตาทั้งในระดับโลกและประเทศไทย ข้อมูลขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) ระบุว่า ปัจจุบันมีเยาวชนกว่า 65 ล้านคนทั่วโลกที่อยู่ในภาวะว่างงาน ขณะที่ในไทย อัตราว่างงานของเยาวชนปี 2568 อยู่ที่ 5.3% เพิ่มจาก 4.5% ในปีก่อนหน้า แม้ตัวเลขเหล่านี้จะไม่สูงเมื่อเทียบกับหลายประเทศ แต่สะท้อนชัดถึงความเปราะบางของตลาดแรงงานที่กำลังเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจดิจิทัลอย่างรวดเร็ว และความไม่สอดคล้องกันระหว่างทักษะที่แรงงานมี กับงานที่ตลาดต้องการจริง โดยเฉพาะทักษะใหม่ด้าน AI และเทคโนโลยีขั้นสูงที่กำลังกลายเป็นพื้นฐานสำคัญของหลากหลายอาชีพ

ในบริบทเช่นนี้ โครงการ 2025 Global Innovation Challenge ของ มูลนิธิซิตี้ (Citi Foundation) ซึ่งสนับสนุนองค์กรเพื่อสังคมกว่า 50 แห่งทั่วโลก จึงกลายเป็นหนึ่งในความพยายามเชิงระบบเพื่อแก้ปัญหาโอกาสทางเศรษฐกิจของเยาวชน โดยเน้นการลดช่องว่างทักษะที่กำลังกว้างขึ้นจากความเปลี่ยนแปลงของตลาดงาน ปีนี้ มูลนิธิคีนันแห่งเอเซีย เป็นองค์กรในไทยที่ได้รับทุนสนับสนุน 500,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 16 ล้านบาท) เพื่อนำไปพัฒนาแพลตฟอร์ม “A.I.R – AI for Readiness and Resilience” ระบบการเรียนรู้และวางแผนอาชีพที่ใช้เทคโนโลยี AI เป็นแกนกลาง

นางสาวนฤมล จิวังกูร กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย กล่าวว่า ปัญหาทักษะไม่ทันโลกงานเป็นโจทย์ที่หลายประเทศเผชิญพร้อมกัน และต้องการการทำงานร่วมกันหลายภาคส่วน ทั้งภาครัฐ การศึกษา และพื้นที่การเรียนรู้นอกระบบ

“ความต้องการแรงงานที่มีทักษะใหม่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจากเศรษฐกิจดิจิทัล ทำให้เยาวชนจำนวนมากตกหล่น เพราะไม่รู้ว่าต้องเริ่มตรงไหน หรือขาดข้อมูลที่ชัดเจนในการวางเส้นทางอาชีพ” เธอกล่าว

พร้อมชี้ว่า ซิตี้และมูลนิธิซิตี้ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมโอกาสทางเศรษฐกิจแก่เยาวชนทั่วโลกมาอย่างต่อเนื่อง และโครงการในไทยเป็นส่วนหนึ่งของพันธกิจระยะยาวดังกล่าว

ดร.วิมลกานต์ โกสุมาศ กรรมการบริหาร มูลนิธิคีนันแห่งเอเซีย อธิบายว่า แพลตฟอร์ม A.I.R จะถูกพัฒนาให้เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ด้านอาชีพสำหรับนักเรียนอาชีวะและครูผู้สอน โดยรวบรวมทั้ง คลังความรู้ด้าน AI สำหรับผู้เริ่มต้น, ระบบแนะนำเส้นทางอาชีพแบบเฉพาะบุคคล, เครื่องมือเตรียมความพร้อมสมัครงาน เช่น การสร้างเรซูเม่และโปรแกรมจำลองการสัมภาษณ์, การประเมิน Soft Skills ที่ตรงกับความต้องการของตลาด ไปจนถึง ฐานข้อมูลทักษะอาชีพ ที่ปรับให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของตลาดอย่างต่อเนื่อง

แพลตฟอร์มนี้ตั้งเป้าพร้อมใช้งานในภาคการศึกษาแรกปี 2569 และคาดว่าจะเข้าถึงนักเรียนระดับ ปวส. 1–2 จำนวน 2,000 คน และครูผู้สอน 80 คน ภายในสองปีแรกหลังเปิดตัว

แม้แพลตฟอร์มเดียวจะไม่สามารถคลี่คลายความซับซ้อนของตลาดแรงงานทั้งหมดได้ทันที แต่ความเคลื่อนไหวครั้งนี้สะท้อนความพยายามในการสร้างระบบเสริมทักษะ ที่ตอบโจทย์โลกงานจริงมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่เยาวชนไทยกำลังเผชิญจุดเปราะบางจากทั้งการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีและความไม่สอดคล้องของระบบการศึกษา การมีข้อมูลอาชีพที่ไวขึ้น ชัดขึ้น และเป็นรายบุคคล อาจช่วยให้คนรุ่นใหม่ มองเห็นทางเดินของตัวเองได้ชัดเจนขึ้น