'โหรฟองสนาน' เผยเกณฑ์ชะตาเมือง ช่วงราหูจรย้าย เข้ามีน-สิ้นปี 2566

'โหรฟองสนาน' เผยเกณฑ์ชะตาเมือง ช่วงราหูจรย้าย เข้ามีน-สิ้นปี 2566

"โหรฟองสนาน" เปิดคำทำนายปรากฎการณ์สำคัญที่จะเกิดในเมืองรัตนโกสินทร์อันเป็นผลจาก พระราหูจรย้ายราศี เข้ามีน-สิ้นปี 2566

"โหรฟองสนาน" เปิดเผยคำทำนายผ่านบทความ แม่หมอสมัครเล่นตอนที่501 โดยฟองสนาน จามรจันทร์ เกณฑ์ชะตาเมืองช่วง ราหูจร ย้ายเข้ามีน-สิ้นปี 2566

ในวาระที่ พระราหูจร(8) เจ้าของความมัวเมา - ความมืด - อวิชชา ซึ่งเป็นตัวแทนเพื่อน - โชค - ความสำเร็จโดยรวมของเมืองรัตนโกสินทร์ (เกษตร-ภพสิบเอ็ดลาภะ) กำลังจะย้ายจากราศีเมษ เคลื่อนตามเข็มนาฬิกาเข้าไปในเดินราศีมีนตั้งแต่ 18 ตุลาคม 2566 และจะอยู่ที่นี่ไปถึง 5 พฤษภาคม 2568 นั้น

\'โหรฟองสนาน\' เผยเกณฑ์ชะตาเมือง ช่วงราหูจรย้าย เข้ามีน-สิ้นปี 2566

ผู้เขียนขอคาดหมายปรากฎการณ์สำคัญที่จะเกิดในเมืองรัตนโกสินทร์อันเป็นผลจาก พระราหูจรย้ายราศี และดาวอิทธิพลดาวสำคัญอื่นๆตั้งแต่ประมาณกลางเดือนตุลาคม - สิ้นปี 2566 โดยรวมให้ทราบดังนี้

1.ลางของอุบัติภัย - เจ็บหมู่ - ตายหมู่ - เสียหายใหญ่โต ทุกทางทั้งดิน - น้ำ - ลมอากาศ - ไฟ - ควัน - ระเบิด - เลือด - สงคราม เริ่มรอบใหม่แล้วตั้งแต่ 3 ตุลาคม 2566

ย้อนกลับไปก่อนหน้าลางร้ายนี้ได้ตั้งเค้ารอมาตั้งแต่กรกฎาคม 2565 ยาวไปถึงกลางกรกฎาคม 2572 เป็นเวลาเจ็ดปี เพียงแต่รอเกณฑ์อื่นร่วมผสมโรงจุดระเบิดเกิดเหตุการณ์เป็นระยะๆ โดยเริ่มปรากฎการณ์แรกคือการสังหารหมู 38 ศพ ที่ตำบลอุทัยสวรรค์ อำเภอนากลาง จังหวัดหนองบังลำภู เมื่อ 6 ตุลาคม 2565 แล้วซาไป

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 

ข่าวร้ายคือรอบนี้เข้าโหมดดุเดือดอีกครั้งเริ่มตั้งแต่ 3 ตุลาคม 2566 เป็นต้นมาที่มีเหตุกราดยิงในสยามพารากอน - หลังคาอินดอสเตเดี้ยมถล่ม - ไฟไหม้เรือนจำกลางคลองเปรม ตามด้วยฮามาสรบอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2566 คนไทยก็พลอยฟ้าพลอยฝนตายไปเกินยี่สิบคน - เจ็บและถูกจับเป็นตัวประกันอีกจำนวนหนึ่ง และคาดว่าจะมีเหตุร้าย - ร้ายมากตามมาอีกเป็นระลอกๆ

โดยระหว่าง 15 พฤศจิกายน-27 ธันวาคม 2566 เกณฑ์นี้จะเพิ่มความรุนแรงสูงสุดสำหรับรอบนี้แล้วก็ยังจะมีเกิดข้ามปีไปถึง 5 กุมภาพันธ์ 2567 ขอให้ระวังตัว

2.พายุใหญ่รอเข้าภาคใต้ และน้ำท่วม จะท่วมหลายจังหวัดเริ่มประมาณ กลางพฤศจิกายน - กลางธันวาคม 2566

3.แผ่นดินไหว ประหลาด เช่นบางรอยเลื่อนไม่น่าจะเกิดก็เกิด หรือมีบางครั้งที่สั่นสะเทือนถึงกรุงเทพปริมณฑล

4.นายกรัฐมนตรี หรือบุคคลสำคัญ - ผู้นำองค์กรต่างๆ ในวงราชการ-การเมือง และเอกชน พึงระวังการใช้อำนาจเกินขอบเขต ที่สุดท้ายจะย้อนรอยเล่นงานคนใช้อย่างเจ็บแสบเช่นกรณีคุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตรอดีตนายกรัฐมนตรีย้ายคุณถวิล เปลี่ยนศรี หรือประมาทตกม้าตายง่ายๆเหมือนอดีตนายกรัฐมนตรีทำรายการอาหารแล้วตกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

รอบนี้ลางเริ่มขึ้นแล้วคือเรื่องหมูกระทะ หรือก้าวไกลขับรองประธานสภาผู้แทนออกจากพรรคแล้วถูกร้อง หรือการเลือกผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนใหม่ที่เสนอคนอาวุโสลำดับที่สี่เพียงคนเดียวฯลฯ

5.ตั้งแต่ประมาณ 24 ตุลาคม 2566 เป็นต้นไป รัฐบาลจะเริ่มเดินหน้าโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะมีค่าใช้จ่ายมหาศาลที่ออกแนวตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ เพราะต้องใช้จ่ายเงินมหึมาตามนโยบายที่หาเสียงไว้โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เงินดิจิทัล

การเดินหน้าครั้งนี้คาดว่าฝ่ายกระตุก คือ ธนาคารแห่งประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ว่าการคงจะมีแรงกดดันมาก โดยมีนักวิชาการ - นักกฎหมาย - ผู้รู้ช่วยกันเพิ่มบทบาทโต้แย้งกับรัฐบาลเต็มที่ ชนิดเดินยุทธ์ หรือเดินหน้าชน โดยมีเดิมพันคือผลประโยชน์ของประชาชนที่ต้องการรับของแจกกับค่าใช้จ่ายมหึมาของรัฐที่ใช้ไป

ไม่ว่ารัฐบาลจะใช้นโนบายอะไรช่วงนี้คงต้องชั่งน้ำหนักให้ดีว่าคุ้มค่าหรือไม่ เพราะหากพลาดพลั้ง นรกทางเศรษฐกิจของชาติจะเริ่มเห็นตั้งแต่วันเกิดเมือง 21 เมษายน 2568 เป็นต้นไป ในระดับน้องๆ ต้มยำกุ้ง จากการเดินยุทธ์ หรือทำศึกของฝ่ายกระตุ้นกับฝ่ายกระตุกครั้งนี้ คาดผลว่าน่าจะมีการเปลี่ยนแปลงใหญ่เกี่ยวกับตัวบุคคลที่เกี่ยวข้องประมาณ 9 มกราคม 2567 (บวก-ลบเจ็ดวัน) เพียงแต่ใครจะอยู่จะไป - ใครจะดวงแข็ง หรือดวงตกระหว่างผู้นำฝ่ายกระตุ้นกับผู้นำฝ่ายกระตุก คือธนาคารแห่งประเทศไทย
 

6.ตั้งแต่ 18 ตุลาคม 2566 เป็นต้นไป-สิ้นปี (ถึง5พฤษภาคม 2568) ระวังการซ่องสุม หรือมุดดิน หรือทำการลับๆบ่อนเซาะอำนาจรัฐ เช่นในอดีตเคยเกิดขบวนการแบ่งแยกดินแดน หรือลัทธิคอมมิวนิสต์ หรือแม้กระทั่งทำอย่างเปิดเผยเช่นพันธมิตรประชาธิปไตยที่ต่อต้านรัฐบาลพันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร

7.ให้จับตาดูเนื้อในของสภาผู้แทนราษฎรที่อาการผิดฝั่งฝาเกิดขึ้นตลอด เช่น ฝ่ายค้านก็ไม่เป็นเนื้อเดียวกันเพราะมีฝ่ายรอเป็นรัฐบาลแม้แต่ในพรรคเดียวกันเองอย่างประชาธิปัตย์ หรือผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนฯ ก็ยังไม่รู้ว่าจะออกหัว หรือก้อยว่าเป็นใคร ฯลฯ จึงคาดว่า ในระยะเวลาสิบแปดเดือนนับจาก 18 ตุลาคม 2666 เป็นต้นไป ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงเป็นระยะๆ ในเนื้อในสภาผู้แทนราษฎรเอง หรือเกิดจากคำสั่งจากองค์กรอิสระต่างๆ และฝ่ายตุลาการด้วย

สรุปคือ คำทำนายนี้อาจจะออกในแนวร้าย แต่ประเทศไทยเคยเจอเรื่องหนักๆมากกว่านี้มาแล้ว ในระดับดวงเมืองใกล้เคียงกันนี้พันธมิตรเคยทิ้งระเบิดใส่หัวคนกรุงเทพฯมาแล้ว ให้คิดเสียว่ายิ่งมีวิฤตเมืองยิ่งมีโอกาส อีกทั้งเมืองถูกออกแบบมาให้รอดปากเหยี่ยวปากกาทุกครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งแม้จะมีความคิดเห็นขัดแย้งจากกรอบที่ควรจะเป็นกันบ้างแต่ประชาชนคนเดินดินโดยรวมกำลังเป็นสิริมงคลของเมืองคงช่วยได้มาก (พระจันทร์2 กำลังเป็นศรีจร)

ช่วยกันโขยก - เขยกประคองปีกกันข้ามปีไปให้ถึงวันเกิดเมืองปีหน้าเกณฑ์โหรจะพลิก - ด้านบวกจะบังเกิดในเมืองประมาณแปดจากสิบส่วน

ฟองสนาน จามรจันทร์
13 ตุลาคม 2566