โฉมใหม่ 'เลอ นอร์มังดี' เปิดตัวเชฟมิชลินเจ้าของดาวมากสุดในโลก 'แอน-โซฟี พิค'
หากคุณเป็นแฟนคลับห้องอาหารฝรั่งเศส "เลอ นอร์มังดี" รร.แมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ ต้องทึ่งในโฉมใหม่ พร้อมฝีมือของ ‘แอน-โซฟี พิค’ เชฟมิชลินหญิงเจ้าของดาวมากสุดในโลก
โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ ประกาศการกลับมาของ ตำนานห้องอาหารฝรั่งเศส ในบันทึกบทใหม่ที่นำโดย แอน-โซฟี พิค เชฟหญิงชาวฝรั่งเศส ที่เป็นเจ้าของดาวมิชลินมากที่สุดในโลก
ในนามของ ห้องอาหาร แอน-โซฟี พิค แอท เลอ นอร์มังดี ด้วยวิสัยทัศน์โดดเด่น นำสมัย ปรัชญาการทำอาหารของเธอคือ Suffusion เน้นการสร้างชั้นเชิงของกลิ่นหอม และรสชาติอันละเอียดอ่อน
ผ่านเทคนิคต่าง ๆ อย่างเช่น การหมัก (marination), การอบ (infusion), และการรมควัน (smoking) เพื่อให้รสชาติของอาหารค่อย ๆ เผยตัวออกมาแล้วผสมผสานกันอย่างละเมียดละไม
เชื่อมโยงทุกประสาทให้รับรสและกลิ่น นับเป็นศิลปะของอาหารฝรั่งเศส ที่ก้าวไปอีกระดับอย่างน่าสนใจ
เชฟแอน-โซฟี เธอเป็นเจ้าของ ห้องอาหาร Restaurant Pic ที่เมืองวาล็องส์ ประเทศฝรั่งเศส ห้องอาหารระดับ 3 ดาวมิชลิน ที่เธอรับสืบทอดมาจาก ฌาคส์ พิค (Jacques Pic) และ อ็องเดร พิค (André Pic) พ่อและปู่ สองเชฟระดับตำนานของฝรั่งเศส
และได้รับ 3 ดาวมิชลิน มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี พ.ศ. 2550 (ค.ศ. 2007) อีกทั้งในปี พ.ศ. 2567 (ค.ศ. 2024) ร้านนี้ยังได้รับการยกย่องให้เป็น
ร้านอาหารที่ดีที่สุดในโลก โดยการจัดอันดับของ Tripadvisor ซึ่งช่วยตอกย้ำความสามารถและชื่อเสียงของเธอในวงการอาหารระดับโลก
ณ บัดนี้เธอได้มาเผยแพร่ศิลปะการปรุงอาหารเหนือระดับนี้ ที่ ห้องอาหาร เลอ นอร์มังดี โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ
ห้องอาหาร เลอ นอร์มังดี ถือว่าเป็นห้องอาหารในตำนาน ที่ เปิดให้บริการครั้งแรกในปี พ.ศ. 2501 (ค.ศ. 1958)
ณ ชั้นบนสุดของทาวเวอร์วิง โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ ซึ่งในขณะนั้นเป็นหนึ่งในอาคารที่สูงที่สุดของประเทศไทย
เป็น ห้องอาหารฝรั่งเศสไฟน์ไดน์นิ่ง แห่งแรกของประเทศ และได้รับการยกย่องจากแขกผู้ทรงเกียรติ และนักเดินทางจากทั่วโลกมาโดยตลอด อีกทั้งยังเป็น ห้องอาหารฝรั่งเศส แห่งแรกในประเทศไทยที่ได้รับการรับรองจาก Les Grandes Tables du Monde
การร่วมมือกับเชฟ แอน-โซฟี พิค เป็นเหมือนภาคต่อของเรื่องราวความผูกพันของ ‘เชฟแอน-โซฟี’ กับประเทศไทย ที่ก่อร่างและหยั่งรากลึกมายาวนานหลายทศวรรษผ่านสายสัมพันธ์ส่วนตัวและการทำงาน
เชฟแอน-โซฟี ได้มีโอกาสร่วมสร้างสรรค์อาหารที่ ห้องอาหารเลอ นอร์มังดี เป็นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2541 (ค.ศ. 1998) ระหว่างช่วงสัปดาห์ gastronomic week
ซึ่งไม่เพียงเป็นช่วงเวลาสุดประทับใจ แต่ยังเป็นโอกาสที่เธอได้มาเยือนห้องอาหารที่คุณพ่อของเธอ ฌาคส์ พิค เคยกล่าวชื่นชมเมื่อสี่สิบปีก่อนหน้านั้น
ณ วันนี้ ความผูกพันดังกล่าวได้หวนกลับมา เมื่อเธอกลับมายังห้องอาหารเลอ นอร์มังดี เพื่อร่วมปรุงบันทึกบทใหม่ให้แก่ห้องอาหารระดับตำนานแห่งนี้
“ฉันเชื่อว่าศิลปะการทำอาหารคือภาษาสากล เป็นพื้นที่ที่วัฒนธรรมต่างๆ มาบรรจบกัน การได้เป็นส่วนหนึ่งในการเริ่มต้นสิ่งใหม่ที่โรงแรมที่เป็นดั่งสัญลักษณ์ของความหรูหราอย่าง โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ
คือการเดินทางครั้งใหม่ที่ทำให้ฉันรู้สึกตื่นเต้นอย่างแท้จริง ฉันตั้งตารอที่จะได้สร้างประสบการณ์ที่ซึ่งอาหารฝรั่งเศสจะได้สอดประสานไปกับพลังชีวิตชีวาของวัฒนธรรมไทย”
เชฟแอน-โซฟี พิค กล่าว
ส่วนปรัชญา Suffusion หัวใจของศิลปะการปรุงอาหารของ แอน-โซฟี พิค นั้นก็คือ อาหารของเชฟแอน-โซฟี พิค นำเสนอในความงามแบบเรียบง่าย สงบเสงี่ยม
แต่ซ่อนไว้ด้วยรายละเอียดที่พร้อมปลุกประสาทสัมผัสกลิ่นและรส เพื่อสร้างประสบการณ์อาหารที่แปลกใหม่และไม่เหมือนใคร
ด้วยแรงบันดาลใจจากพืชพรรณธรรมชาติ ที่ก่อให้เกิดการรังสรรค์เมนูที่ทั้งอ่อนโยนและทรงพลัง
แก่นของศิลปะการทำอาหารของเชฟแอน-โซฟี พิค คือปรัชญา Suffusion ซึ่งไม่ใช่เพียงเทคนิค แต่คือกรอบแนวคิดด้านกลิ่นหอมที่ช่วยชูรสชาติของวัตถุดิบ
ค่อยๆ สร้างผ่านการหมัก แช่ อบกลิ่น หรือรมควัน จนเกิดกลิ่นหอมซ้อนทับกันเป็นชั้นๆ อย่างกลมกลืน ซึ่งจะค่อยๆ เผยกระจายกลิ่น และรสชาติ เพื่อสร้างประสบการณ์อาหารที่ทั้งน่าตื่นเต้นและน่าจดจำ
ช็อกโกแลต Alveole (Chocolate Alveole) และ Les Berlingots ©ASP (Les Berlingots ©ASP) เมนูราวิโอลีทรงสามเหลี่ยมที่เป็นเอกลักษณ์ของเชฟ
ซึ่งที่นี่รังสรรค์ขึ้นด้วยไส้ชีสคาม็องแบร์ แซฟฟรอน ดอกคาโมมายล์ และมะเขือเทศดองได้รสชาติ
เมนู บลูล็อบสเตอร์จากแคว้นบริตทานี (Brittany Blue Lobster) เสิร์ฟพร้อมซุปดาชิที่ปรุงจากผลไม้สีแดงและสาหร่าย เป็นอีกภาพสะท้อนความหลงใหลที่เธอมีต่อวัฒนธรรมเอเชียที่มีมาอย่างยาวนาน
เมนู ปลากะพงขาวซอสแชมเปญกับไข่ปลาคาเวียร์ (Wild Sea Bass with Champagne Sauce and Caviar) เป็นเมนูที่รังสรรค์ขึ้นด้วยความระลึกถึงเมนูในตำนานของ
ฌาคส์ พิค บิดาของเธอ เชฟคนแรกที่เริ่มจับคู่อาหารร้อนและเย็น ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องแหวกขนบในยุค 70 คือปลากะพงซึ่งเป็นเมนูร้อนและคาเวียร์ซึ่งเป็นเมนูเย็น และจับคู่ลงตัวด้วยรสละมุนของซอสแชมเปญ
สำหรับเมนูเนื้อนั้น เชฟแอน-โซฟี พิค นำเสนอ สเต๊กเนื้อชาโรเลส์ (Charolais Beef Fillet) ปรุงด้วยกระเทียมดำไทยและวานิลลารมควัน เป็นเมนูที่ทั้งลุ่มลึกและกลมกล่อมด้วยกลิ่นเครื่องเทศ
ของหวานปิดท้ายคือ มิลเฟยดอกบัวขาว (White Lotus Millefeuille) ซึ่งเป็นเมนูที่สร้างสรรค์โดยได้รับแรงบันดาลใจจากมิลเฟยคลาสสิกของเธอ โดยในครั้งนี้มาในรูปดอกบัวที่กลีบบอบบางเผยอบาน
ประกอบด้วยแป้งทูลแผ่นบางจากกลีบกุหลาบ ครีมวานิลลา และดอกมะลิเนื้อนุ่มฟู ซ่อนรสของดอกขิงไทย เป็นของหวานที่เชื่อมโยงศิลปะฝรั่งเศสเข้ากับรายละเอียดแบบไทยๆ ได้อย่างงดงาม
ประสบการณ์ใหม่ที่ เลอ นอร์มังดี ยังรวมถึงส่วนบาร์ต้อนรับที่สร้างขึ้นใหม่ เพื่อเป็นพื้นที่รับรองแขกก่อนที่จะเข้าสู่บริเวณโต๊ะ โดยแขกทุกท่านจะได้นั่งพัก จิบค็อกเทลพลางชมทัศนียภาพอันตระการตาของแม่น้ำเจ้าพระยา
เมนูเครื่องดื่มที่ให้บริการ ณ ส่วนบาร์นี้ มีทั้งแบบแอลกอฮอล์และไม่มีแอลกอฮอล์ รังสรรค์อย่างพิถีพิถันเพื่อชูเอกลักษณ์ของวัตถุดิบ
ทั้งยังผสมผสานสีสันและกลิ่นหอมอย่างลงตัว เมนูแนะนำ อาทิ Brume ค็อกเทลที่ผสมผสานคาลวาโดสกับดอกหอมหมื่นลี้พร้อมกลิ่นกาแฟบาง ๆ
หรือ Genmaicha Collins ที่นำชาเขียวคั่วมาผสานกับตะไคร้ ใบมะกรูด และมัทฉะ ให้รสสัมผัสทั้งหอมและเผ็ดเบาๆ
เครื่องดื่มที่สร้างสรรค์เป็นพิเศษยังปรากฏเป็นการจับคู่กับเมนูอาหารด้วย เช่น ชาเขียวคั่วกับคอมบุกอร์เดียลและใบซากุระ จะเสิร์ฟมาคู่กับหอยเม่นฮอกไกโด
ในขณะที่ชาอู่หลงและดอกคาโมมายล์ จะเสิร์ฟคู่กับ Les Berlingots ©ASP เพื่อช่วยส่งเสริมรสชาติ และช่วยเตรียมสัมผัสสำหรับคอร์สถัดไป
และนี่คือโปรเจกต์ ร้านอาหารไฟน์ไดน์นิ่ง แรกของพวกเขา เป็นโปรเจกต์ที่เชื่อมโยงหนึ่งในเชฟชื่อดังที่สุดของฝรั่งเศส เข้ากับหนึ่งในโรงแรมระดับตำนานของเอเชีย
โจทย์ของพวกเขาคือการรักษาจิตวิญญาณของสถานที่ที่อัดแน่นด้วยประวัติศาสตร์ ขณะเดียวกันก็จินตนาการถึงอนาคตที่เคารพต่อมรดกของกาลเวลา
และผลลัพธ์คือห้องอาหารโปร่งโล่ง บรรยากาศที่ทั้งคุ้นเคยและแปลกตา ทั้งอบอุ่นและกว้างขวาง มีกลิ่นของอดีตแต่ก็เต็มไปด้วยสิ่งใหม่ๆ
ความสง่างามแบบฝรั่งเศส และความรุ่มรวยทางวัฒนธรรมของไทย ผสมผสานกันผ่านชั้นเชิงในการออกแบบที่ละเมียดละไม สุขุม และร่วมสมัย
ทั้งหมดอยู่ท่ามกลางห้องโทนสีเบจและทองอ่อนๆ สร้างบรรยากาศผ่อนคลาย และยังมีรายละเอียดงานปักลายดอกโบตั๋นซึ่งเป็นดอกไม้โปรดของ เชฟแอน-โซฟี
และวัสดุการตกแต่งเหล่านี้ ถูกจัดวางอย่างประณีตและสงบ และจะค่อยๆ เผยตัวเองทีละน้อยเมื่อยามมองใกล้ๆ
สะท้อนเอกลักษณ์ของโรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ และสะท้อนความรุ่มรวยของวัฒนธรรมไทย
แสงไฟในพื้นที่ห้องอาหารถูกออกแบบให้สร้างน้ำหนักและแสงสะท้อนที่น่าสนใจเมื่อตกกระทบกับพื้นผิวและรูปทรงที่แตกต่างกัน
ช่วยเชื่อมโยงทุกส่วนของห้องอาหารให้เป็นหนึ่งเดียว และมอบประสบการณ์ที่สัมผัสได้ในทุกประสาทมากกว่าที่ตาเห็น
“ที่กรุงเทพฯ ฉันได้ทำงานร่วมกับทีมงานที่ทำงานร่วมกับฉันมาอย่างยาวนาน เชฟทามากิ โคบายาชิ ที่อยู่เคียงข้างฉันมากว่า 14 ปี คือคนที่ฉันวางใจให้เป็นผู้นำทีมครัวที่ แอน-โซฟี พิค แอท เลอ นอร์มังดี
ซึ่งเธอจะทำงานร่วมกับ เอ็ดวิน โคเชต์ Head Sommelier ที่จะช่วยนำเสนอไวน์ที่จะช่วยขับและเติมเต็มรสชาติของทุกจาน และฉันยังยินดีที่ได้ต้อนรับ ยูโกะ คุวายามะ Pastry Chef ที่จะรังสรรค์ขนมหวานที่ลึกซึ้งและละเอียดอ่อน”
เชฟแอน-โซฟี พิค กล่าวทิ้งท้าย
ทามากิ โคบายาชิ (Tamaki Kobayashi) Chef de Cuisine เชฟหลักประจำ ห้องอาหารแอน-โซฟี พิค แอท เลอ นอร์มังดี
เธอเริ่มต้นที่สถาบันสอนทำอาหาร Tsuji Culinary Institute ในประเทศญี่ปุ่น ก่อนที่จะเดินทางไปยังฝรั่งเศสเพื่อพัฒนาทักษะและเพิ่มประสบการณ์ โดยได้เข้าร่วมทีมที่ Maison Pic เมืองวาล็องส์
และค้นพบความผูกพันกับปรัชญาการทำอาหาร Suffusion ของแอน-โซฟี พิค ที่เน้นความสมดุลและการซ้อนชั้นของกลิ่นหอม
เชฟทามากิ ยังเคยได้ร่วมงานกับร้าน Joël Robuchon ที่กรุงโตเกียว และกลับมายุโรปอีกครั้งที่เมืองโลซานน์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เพื่อร่วมเปิด Pic au Beau Rivage Palace กับเชฟแอน-โซฟี ในปี พ.ศ. 2552 (ค.ศ. 2009)
ก่อนที่จะกลับไปร่วมทีม Maison Pic เมืองวาล็องส์อีกครั้ง ในปี พ.ศ. 2563 (ค.ศ. 2020) ก่อนจะเติบโตเป็นอีกหนึ่งกำลังสำคัญที่ช่วยทำให้ร้านได้ครอง 3 ดาวมิชลิน มาอย่างต่อเนื่อง ด้วยความแม่นยำ ความอดทน ความสุขุม และความทุ่มเทต่อศิลปะ อาหารฝรั่งเศส
‘ห้องอาหาร แอน-โซฟี พิค แอท เลอ นอร์มังดี’ โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ
เปิดให้บริการวันพุธ - วันอาทิตย์ มื้อกลางวัน: 12:00 น. ถึง 15:30 น. มื้อค่ำ: 18:30 น. ถึง 23:30 น.
ทั้งเมนู: อะลาคาร์ต และ เมนูมื้อกลางวัน 3 คอร์ส และ เมนู Voyage 7 คอร์ส
สนใจโทรศัพท์: +66 (0) 2 659 9000
อีเมล: [email protected]
เว็บไซต์: www.mandarinoriental.com/en/bangkok/chao-phraya-river/dine/anne-sophie-pic-at-le-normandie
อินสตาแกรม: @PIC.LENORMANDIE
