‘เชฟมาร์โค’ ‘จิออร์จิโอ’ อาหารอิตาเลียนใช้วัตถุดิบที่ผลิตอย่างยั่งยืน

เชฟคนใหม่ห้องอาหารอิตาเลียน ‘จิออร์จิโอ’ ‘โรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน’ เชฟมาร์โค คัมมาระตะ แนะนำเมนูใหม่เลือกใช้วัตถุดิบที่ผลิตอย่างยั่งยืน ตอบรับแนวคิด Sustainable เพื่อส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด
ห้องอาหารอิตาเลียน จิออร์จิโอ (Giorgio) โรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน แนะนำเชฟคนใหม่ เชฟมาร์โค คัมมาระตะ นำเสนอเมนูใหม่ใช้วัตถุดิบจากฟาร์มแบบยั่งยืน มีจริยธรรม และผักผลไม้อินทรีย์ ปรุงอาหารอิตาเลียนแบบดั้งเดิมดีไซน์ร่วมสมัย
เชฟมาร์โค คัมมาระตะ (Marco Cammarata) รับหน้าที่ Executive Chef ของ โรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน ด้วย เผยว่า เมนูห้อง อาหารอิตาเลียน จิออร์จิโอ (Giorgio) เปลี่ยนใหม่ทั้งหมด และตอบโจทย์วิถีการปรุงอย่างยั่งยืน เลือก วัตถุดิบที่ผลิตอย่างยั่งยืน เพื่อส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด เชฟบอกว่า
“วัตถุดิบที่ผลิตอย่างยั่งยืนของไทยหลายอย่าง เหมาะกับอาหารอิตาเลียน ที่นำมาใช้ได้แก่ เป็ด จากคลองไผ่ฟาร์ม, หมูชีวา ไก่เบญจา จากฟาร์มที่เลี้ยงแบบปล่อย ไม่ขังกรงในชนบทของประเทศไทย
ไข่ไก่ Cage free ผ่านวิธีการเลี้ยงแม่ไก่แบบปล่อยอิสระ ไม่ขังกรง ในโรงเรือนระบบปิด สะอาด ปลอดภัยด้วยระบบควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวด ช่วยให้แม่ไก่ใช้ชีวิตได้ตามธรรมชาติ มีอิสระในการเคลื่อนไหว ไก่จะไม่เครียดและได้รับสารอาหารครบถ้วน และมีสุขภาพแข็งแรง”
เชฟบอกว่า แนวคิดเลือกวัตถุดิบเลี้ยงแบบปล่อยจะทำให้เนื้อมีคุณภาพ กินอร่อย แม้กระทั่ง ปลา เลือกจากวิสาหกิจชุมชนปัตตานี รวมถึงอาหารทะเลอื่น ๆ พร้อมตราสัญลักษณ์ Sustainable Seafood ที่มี MSC certificate ASC
เชฟคนใหม่มาพร้อมเมนูใหม่ มาแล้วห้ามพลาดชิม ได้แก่
Chilled Black Angus Roasted Beef, Tuna, Capers and Boiled Egg Sauce เนื้อสไลซ์เย็นกับซอสทูน่า
Chilled Roasted Pine Nut Soup ซุปเย็นถั่วไพน์นัทใส่เนื้อปูกับแผ่นแป้งเซโมลินาชิพ
Tabisca with Sciacca Anchovy, Datterino Tomato, Stracchino Cheese, Taggiasca Olives พิซซ่าทรงสี่เหลี่ยมหน้าแอนโชวี่และมะเขือเทศสด ท็อปปิ้งด้วยไวท์ซอส และมะกอกดอง (468.-)
Linguine with Dry Aged squid, Light Squid Ink, Garlic Sauce เนื้อปลาหมึกดรายเอจ ปรุงกับหมึกดำและซอสกระเทียม
Organic Farm Black Angus Beef Tenderloin, Hazelnut and Parmigiano Crust (1,288.-) สเต๊กเนื้อแองกัสจากฟาร์มที่เลี้ยงแบบเปิด ท็อปปิ้งด้วยแผ่นฮาเซลนัทปาร์มีจาโนชีส กรุบกรอบ เค็มนิด ๆ
เมนูอื่น ๆ ได้แก่ Lamp Lettuce, Fragrant Pear, Aged Balsamic Dollops เนื้อแกะซอสลูกแพร์กับบัลซามิค หรือซี่โครงแกะย่างกับหอมใหญ่ ซอสไวน์แดง
Cream of Pumpkin Soup, Orange Scent, Cayenne Pepper, Black Truffle (388.-) ฟักทองครีมซุป เข้มข้นหอมกลิ่นส้มและเห็ดทรัฟเฟิล
Ink Tonnarelli with Smoked Salmon in Light Vodka Cream Sauce ทอนนาเรลลี่คือเส้นพาสต้าจากตอนใต้ของอิตาลี ปรุงกับหมึกดำ แซลมอนรมควันและวอดก้าซอส
Roasted Wild Caught Andaman Red Snapper, Lemon Marinated Cherry Tomatoes (728.-) ปลากะพงแดงจากทะเลอันดามันของไทยกับมะเขือเทศเชอร์รี่จากเกษตรกรท้องถิ่น
ยังมี สลัดบีทรูท เชฟนำบีทรูทออกมา 3 แบบ ให้รสสัมผัสที่แตกต่างกัน เดรสซิ่งรสอมเปรี้ยวหวานบาง ๆ เคล้ากับชีสนมแพะและถั่วพิสตาชิโอ้
ริซอตโต้ ปรุงกับสาเก แป้งสเปลท์ พาร์เมซานชีสและถั่วขาวและกุ้งขาว
พาสต้าริกาโตนี พาสต้าแผ่นแบนกว้างปรุงกับเห็ดชิโอดีนี ไส้กรอก และทรัฟเฟิล
อาหารทะเลสูตรซิกเนเจอร์ของเชฟยังมีหอยเชลล์จี่กับเห็ดกับครีมฟักทองและส้ม, ปลาหิมะย่างกับหน่อไม้ฝรั่ง ซอสฮอแลนเดซกระเทียม
ของหวานจัดเยอะ ตั้งแต่ ทีรามิสุสูตรคลาสสิก เข้มข้นด้วยมาสคาโปนชีส บิสกิตเลดี้ฟิงเกอร์ เหล้ากัลลิอาโน่และเอสเพรสโซ่ เพิ่มผลไม้ประเภทเบอร์รี่ กินแล้วเข้ากัน
อีกความหวานที่ห้ามพลาดคือ Pannacotta Madagascar ประกบกับมาการองแมคคาเดเมียจากดอยตุง, ช็อกโกแลตกับฮาเซลนัทครีม, สตรอว์เบอร์รี่กรานิต้ากับครีมริคอตต้า และห้ามพลาด ลูกแพร์เชื่อมในไวน์แดงกับครีมซินนามอน
ควรตบท้ายกับบิสกิตสไตล์อิตาเลียนของเชฟ ได้แก่ คุกกี้ฮาเซลนัทกับช็อกโกแลต, บิสกิตสไตล์ทัสคัน และคุกกี้อัลมอนด์กับผิวส้ม
กรานิต้าสตรอว์เบอร์รี่
สอบถามโทร.02 266 0123, www.royalorchidsheraton, FB: Royal Orchid Sheraton Hotel & Towers







