‘ไวน์อิสราเอล’ ภายใต้เงื้อมเงาของสงครามและควันปืน

‘ไวน์อิสราเอล’ ภายใต้เงื้อมเงาของสงครามและควันปืน

‘อิสราเอล’ ผลิตไวน์มาตั้งแต่ยุคไบบลิคัล (Biblical) ซึ่งตอนนั้นเรียกว่าคานาน (Canaan) และฌูเดีย (Judea) มีหลักฐานว่าผลิตไวน์ก่อนชาติในยุโรปประมาณ 200 ปี ปัจจุบัน ‘ไวน์อิสราเอล’ มีคุณภาพดีไม่แพ้ไวน์โลกใหม่ และไวน์โลกเก่าบางรุ่น

อิสราเอล (Israel) เป็นอีกหนึ่งประเทศที่ต้องบันทึกไว้ว่าไม่ธรรมดาสำหรับการผลิตไวน์ สามารถผลิตไวน์คุณภาพดีไม่แพ้ไวน์โลกใหม่อย่าง ออสเตรเลีย สหรัฐอเมริกา ชิลี นิวซีแลนด์ และเซาธ์แอฟริกา บางยี่ห้อ บางรุ่นสามารถพิชิตไวน์โลกเก่าได้

ประวัติการทำ ไวน์อิสราเอล บันทึกไว้ว่ามีความสำคัญด้านเศรษฐกิจอย่างมาก โดยช่วงต้นคริสตกาล ถือว่าอิสราเอลเป็นศูนย์กลางการค้าไวน์ที่กระจายไปสู่ฝรั่งเศส อิตาลี และเลบานอน

‘ไวน์อิสราเอล’ ภายใต้เงื้อมเงาของสงครามและควันปืน    ไวเนอรียุคโบราณในอิสราเอล ค้นพบเมื่อปี 2021

ในยุคโบราณ ศูนย์กลางการผลิต ไวน์อิสราเอล อยู่ที่เมืองกิบอน (Gibeon) ประมาณปี 1959-1960 นักโบราณคดีค้นพบเซลลาร์ใต้ดินสำหรับเก็บไวน์ ซึ่งอุณหภูมิประมาณ 20 องศาเซลเซียส พร้อมพิสูจน์พบว่าสามารถผลิตไวน์และเก็บอยู่ในเมืองกิบอนตั้งแต่ 600– 700 C.E.

หลังจากโรมันรุกราน Judea ในช่วง 70 C.E. ไร่องุ่นถูกทำลายไปเป็นจำนวนมาก และเมื่อมุสลิมเข้ามาครอบครองในช่วง 636 C.E. ไวน์ก็กระสานซ่านเซ็นแทบจะสูญหายไปจากดินแดนแห่งนี้ ประกอบกับความไม่สงบในภูมิภาคตะวันออกกลางซึ่งดึงอิสราเอลเข้าไปเกี่ยวข้องกับความรุนแรงในตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา ทำให้อรรถรสน่าตื่นตะลึงเกี่ยวกับไวน์อิสราเอลถูกกลบด้วยเสียงอื้ออึงของสงคราม

‘ไวน์อิสราเอล’ ภายใต้เงื้อมเงาของสงครามและควันปืน

      โคเชอร์รุ่นต่าง ๆ ของอิสราเอล

อิสราเอลมีชื่อเสียงในการผลิตโคเชอร์ (Kosher) หรือไวน์หวานสำหรับประกอบพิธีกรรม โดยมีลูกค้าเป็นกลุ่มชาวยิวที่กระจายอยู่ในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก เป็นสินค้าส่งออกหลัก ปัจจุบันโคเชอร์ก็ยังมีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจไวน์ของอิสราเอล

โคเชอร์ หมายถึงอาหารคนยิว โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้เคร่งศาสนา (ศาสนายูดาย) วิธีดูว่าเคร่งหรือไม่เคร่งศาสนาให้ดูที่การใส่หมวก ถ้าใส่หมวกไม่ว่าจะหมวกใหญ่ หมวกเล็ก สีดำ สีฟ้า หรือสีขาวก็ตาม ถือว่าเคร่งและต้องหาโครเชอร์มารับประทาน

‘ไวน์อิสราเอล’ ภายใต้เงื้อมเงาของสงครามและควันปืน

    แหล่งทำไวน์ในอิสราเอล

หนึ่งในจำนวนโครเชอร์ก็คือ องุ่นและผลิตภัณฑ์จากองุ่น โดยองุ่นที่เป็นผลไม้ธรรมชาตินั้นเป็นโคเชอร์อยู่แล้ว แต่ผลิตภัณฑ์จากองุ่นจะต้องได้รับการพิจารณาเป็นกรณี ๆ ไป

ขณะที่ ไวน์ จากองุ่นเป็นเครื่องดื่มที่ใช้ในพิธีทางศาสนา จึงถือว่าเป็นโคเชอร์ไปโดยปริยาย แต่ผลิตภัณฑ์จากองุ่นอื่น ๆ จะต้องทำจากน้ำองุ่นที่ได้รับการตรวจตราโดยตลอดตั้งแต่ต้นจนจบเท่านั้นถึงจะเป็น ผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในข่ายพิจารณาให้การรับรองโคเชอร์

‘ไวน์อิสราเอล’ ภายใต้เงื้อมเงาของสงครามและควันปืน     ไร่องุ่นกลางทะเลทรายในอิสราเอล

ในความเป็นจริง อิสราเอล สามารถผลิตไวน์ได้ถึงปีละ 6 ล้านขวดต่อปีและส่งออกไปยัง 60 ประเทศทั่วโลก รวมทั้งฝรั่งเศส และอิตาลี ที่จัดเป็นประเทศผู้ผลิตไวน์ในโลกเก่า

ปี 2021 สด ๆ ร้อน ๆ อิสราเอล ได้ค้นพบไวเนอรี คอมเพล็กซ์ ขนาดใหญ่ในเมือง Yavne ที่คาดว่าน่าจะมีอายุกว่า 1,500 ปี หรือยุคไบเซนไทน์ (Byzantine) พบอุปกรณ์ในการผลิตไวน์ต่าง ๆ โกดังขนาดใหญ่ 4 แห่ง ซึ่งคาดว่ามีกำลังการผลิตไวน์ปีละ 2 ล้านลิตร

‘ไวน์อิสราเอล’ ภายใต้เงื้อมเงาของสงครามและควันปืน     การเก็บองุ่นในอิสราเอล

ยุคใหม่ของการผลิตไวน์ของอิสราเอลเริ่มต้นเมื่อ บาฮรง เอ็ดมอนด์ เดอ ร็อธส์ไชลด์ (Baron Edmond de Rothschild) หุ้นส่วนใหญ่ชาโต ลาฟิต ร็อธส์ชิลด์ (Chateau Lafite Rothschild) 1 ใน 5 เสือเมด็อก และเจ้าของชาโต คลาร์ก (Chateau Clarke) ซึ่งเบญจามิน เดอ ร็อธไชลด์ (Benjamin de Rothschild) ทายาทรุ่นที่ 7 เพิ่งจากไปด้วยสาเหตุหัวใจล้มเหลวในวัย 52 ปี เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2564

‘ไวน์อิสราเอล’ ภายใต้เงื้อมเงาของสงครามและควันปืน     ภาพจำลองการผลิตไวน์ยุคโบราณ

ในปี 1882 Baron Edmond ที่มีเชื้อสายยิว สนับสนุนให้ชาวยิวอพยพปลูกองุ่นทำไวน์ ท่ามกลางดินที่แน่นไปด้วยหิน ทราย และอากาศที่ร้อนระอุ ประกอบกับช่วงนั้นฟีลล็อกซีราทำลายองุ่นในยุโรปจนแทบจะราบเป็นหน้ากลอง

‘ไวน์อิสราเอล’ ภายใต้เงื้อมเงาของสงครามและควันปืน     ไวเนอรี คอมเพล็กซ์ ที่เพิ่งค้นพบ

Baron Edmond สร้างไร่องุ่น 2 แห่ง ๆ แรกที่เมืองซิกฮรอน ยากอฟ (Zikhron Ya'aqov) อยู่ทางเหนือของประเทศ หรือ 35 กิโลเมตรลงไปทางใต้ของเมืองไฮฟา (Haifa) เมืองแรกที่ชาวยิวอพยพมาอยู่ อีกแห่งหนึ่งอยู่ที่เมืองริชอน เลเซียน (Rishon LeZion) เมืองใหญ่อันดับ 4 ของอิสราเอล อยู่ตอนกลางของประเทศ ปรากฏว่าวินเทจแรกไวน์ออกมาหวาน เนื่องจากอุณหภูมิสูง

‘ไวน์อิสราเอล’ ภายใต้เงื้อมเงาของสงครามและควันปืน      ไหบรรจุไวน์โบราณ

ปี 1906 Baron Edmond ได้ยกการบริหารงานในไร่ให้กับเกษตรกรที่ร่วมกันก่อตั้ง Societe Co-operative Vigneronne des Grandes Caves ปี 1957 เจมส์ ร็อธไชลด์ ลูกชายของ Baron Edmond ได้บริจาคไร่ให้กับสหกรณ์ดังกล่าว ต่อมาผลิตไวน์ภายใต้ชื่อ คาร์เมล (Carmel)

‘ไวน์อิสราเอล’ ภายใต้เงื้อมเงาของสงครามและควันปืน

    ไวน์คาร์เมล

ในช่วงศตวรรษที่ 20 Carmel เป็นไวน์อิสราเอลรายแรกที่ไปคว้าเหรียญทองจากงาน Paris World's Fair ที่กรุงปารีส ฝรั่งเศส รุ่นที่ได้คือ Carmel No.1 วินเทจ 1900 นั่นเป็นสัญญาณว่าไวน์อิสราเอลกลับสู่ความยิ่งใหญ่ หลังสลบเหมือดไปถึง 2,000 ปี

ท่านบาฮรองทำคุณประโยชน์ให้กับวงการไวน์ และระบบเศรษฐกิจของประเทศอิสราเอลมากมาย จนรัฐบาลนำรูปของท่านไปพิมพ์ลงในธนบัตร

‘ไวน์อิสราเอล’ ภายใต้เงื้อมเงาของสงครามและควันปืน     ธนบัตรพิมพ์หน้า Baron Edmond

พันธุ์องุ่นในอิสราเอลล้วนเป็นสายพันธุ์คลาสสิกจากยุโรปทั้งสิ้น โดยกาแบร์เนต์ โซวีญยอง (Cabernet Sauvignon) นิยมปลูกมากที่สุด และทำไวน์ได้คุณภาพดี ตามด้วยแมร์โลต์ (Merlot), โซวีญยอง บลอง (Sauvignon Blanc) และชาร์โดเนย์ (Chardonnay)

นอกนั้นก็มีปิโนต์ นัวร์ (Pinot Noir) กาแบร์เนต์ ฟรอง (Cabernet Franc) โยฮันนิสเบิร์ก รีสลิ่ง (Johannisberg Riesling) เกวืร์ซทรามิเนอร์ (Gewürztraminer) และมุสแคต คาเนลลี (Muscat Canelli)

‘ไวน์อิสราเอล’ ภายใต้เงื้อมเงาของสงครามและควันปืน     โรงผลิตไวน์ที่ทันสมัยในอิสราเอล

พันธุ์ใหม่ ๆ ก็มีซีราห์/ชิราซ (Syrah/Shiraz), เปตีต์ แวร์กโดต์ (Petit Verdot),วีญอเย (Viognier), ซินฟานเดล (Zinfindel), เปตีต์ ซีราห์ (Petite Sirah) และมุสแคต ออฟ อเล็กซานเดรีย ( Muscat of Alexandria) ใช้ทำไวน์หวาน

ส่วนเอ็มเมอรัล รีสลิง (Emerald Riesling) เกิดจากการผสมสายพันธุ์ระหว่างโจฮันนิสเบิร์ก รีสลิง (Johannisberg Riesling) กับมุสกาเดลล์ (Muscadelle อิสราเอลสามารถทำได้ดีกว่าแคลิฟอร์เนีย แหล่งกำเนิดเดิมขององุ่นพันธุ์นี้

‘ไวน์อิสราเอล’ ภายใต้เงื้อมเงาของสงครามและควันปืน      ไร่องุ่นที่มีชื่อเสียงในอิสราเอล

แหล่งปลูกองุ่นดั้งเดิมของอิสราเอลอยู่ในเขตชารอน แอนด์ ชิมชอน (Sharon & Shimshon) แต่ไวน์คุณภาพดีเยี่ยมมาจากอัปเปอร์ กาลิลี (Upper Galilee), ที่ราบสูงโกลัน (Golan Heights), ฌูดีน ฮิลล์ แอนด์ รามัต อารัด (Judean Hills & Ramat Arad) เนื่องจากบริเวณนี้ดินเป็นดินแดง เทอร์รา รอสซา (Terra Rossa) หินปูน, ดินเหนียวปนทราย และดินภูเขาไฟ มีพื้นที่ปลูกองุ่นรวม 4,000 เฮกตาร์ ทำให้ อิสราเอลเป็นประเทศขนาดเล็กที่ผลิตไวน์ได้ยอดเยี่ยม

‘ไวน์อิสราเอล’ ภายใต้เงื้อมเงาของสงครามและควันปืน

    ไวน์บาร์กัน

ปี 1970 Carmel เริ่มผลิตไวน์จากองุ่นพันธุ์คลาสสิกเป็นครั้งแรกของอิสราเอล จากองุ่นกาแบร์เนต์ โซวีญยอง และโซวีญยอง บลอง ขณะที่ อิสราเอล ไฟน์ ไวน์ ที่ผลิตอย่างจริงจังพิถีพิถันตัวแรกคือ Carmel Special Reserve 1976 (วางตลาดปี 1980)

วิกฤติแห่งความขัดแย้งครั้งใหม่นี้ เลี่ยงไม่ได้ที่จะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมไวน์อิสราเอลในด้านใดด้านหนึ่ง ซึ่งทุกคนล้วนอยากให้ทุกอย่างจบด้วยดีและรวดเร็ว

‘ไวน์อิสราเอล’ ภายใต้เงื้อมเงาของสงครามและควันปืน      ไร่องุ่นในอิสราเอล

หมายเหตุ : หนึ่งในผู้ผลิตไวน์ระดับคุณภาพและสร้างชื่อเสียงให้กับอิสราเอล และนำเข้ามาเมืองไทยครั้งแรกคือ บาร์กัน (Barkan) โดยบริษัท U&V Intertrade และยังเหนียวแน่นมาจนถึงปัจจุบันกว่า 20 ปีไม่เคยเปลี่ยนผู้นำเข้า แถมมีหลากหลายรุ่นกว่าแต่ก่อน นอกจากนั้น U&V Intertrade น่าจะเป็นเจ้าเดียวที่นำเข้าไวน์อิสราเอล พร้อมสินค้าอิสราเอลอีกหลายอย่าง สอบถามโทร.02 962 0788