บัลเลต์ ‘ความฝันในหอแดง’ ผสานความงามจีน-ตะวันตก

บัลเลต์ ‘ความฝันในหอแดง’  ผสานความงามจีน-ตะวันตก

ปิดฉากลงไปแล้วสำหรับบัลเลต์ “ความฝันในหอแดง” จากคณะบัลเลต์แห่งชาติจีน ส่วนหนึ่งของมหกรรมศิลปะการแสดงและดนตรีนานาชาติกรุงเทพฯ ครั้งที่ 27 แต่ความประทับใจนั้นยังไม่จบ

ความฝันในหอแดง” (A Dream of Red Mansions) เป็นเรื่องราวคลาสสิก ที่เกิดจากบทประพันธ์ของ เฉาเสวี่ยฉิน แห่งศตวรรษที่ 18 ได้รับการยกย่องว่าเป็น“กระจกสะท้อนสังคมจีนปลายราชวงศ์ชิง” คราวนี้ได้รับการตีความใหม่โดยคณะบัลเลต์แห่งชาติจีน ผสมผสานระหว่างบัลเลต์ที่มาจากตะวันตก กับเรื่องราววัฒนธรรมของจีน ถ่ายทอดความรัก ความฝัน ความสูญเสีย และความเปราะบางของชะตาชีวิตในตระกูลใหญ่ ผ่านนักเต้นกว่า 80 ชีวิต บนเวทีที่อลังการด้วยฉาก แสง และเครื่องแต่งกายอันวิจิตรที่ส่งตรงจากกรุงปักกิ่งกว่า 6 คอนเทนเนอร์

การแสดงมีความหมายมากขึ้นเมื่อมาจัดที่กรุงเทพฯ ในวาระเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับสาธารณรัฐประชาชนจีน การแสดงสองรอบเมื่อวันที่ 20 ก.ย. งดงามอลังการด้วยลีลาท่วงท่าอ่อนช้อยราวนางฟ้า สง่าดุจเทพ ประทับใจผู้ชมชาวไทยไม่รู้ลืม และผู้ที่ถ่ายทอดเบื้องหลังการทำงานได้ดีที่สุดคนหนึ่งคือ ถง รุ่ยรุ่ย (Tong Ruirui) นักออกแบบท่าเต้น เธอยอมรับว่า “ตื่นเต้นมาก” เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่บัลเลต์เรื่องนี้ได้ออกไปแสดงในต่างประเทศ  บัลเลต์ ‘ความฝันในหอแดง’  ผสานความงามจีน-ตะวันตก

"เป็นการใช้วัฒนธรรมตะวันตกถ่ายทอดวัฒนธรรมจีน  และทำให้ผู้ชมในประเทศไทยได้เข้าใจวัฒนธรรมจีนแบบดั้งเดิม" ถงกล่าวและเผยถึงเหตุผลที่เลือกวรรณกรรมคลาสสิกชิ้นนี้มาทำเป็นบัลเลต์ว่า  ผู้กำกับการแสดงหรือนักออกแบบท่าเต้นทุกคนย่อมมีความท้าทายอยากสร้างความสำเร็จในชีวิตของตัวเอง 

"สำหรับฉัน 'ความฝันในหอแดง' คือผลงานที่ท้าทายที่สุดในอาชีพการสร้างสรรค์ของฉัน ฉันไม่เคยคิดว่าความคิดนี้จะกลายเป็นจริงในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แถมยังมาในรูปแบบของบัลเลต์ด้วย  ตัวฉันเองเป็นผู้กำกับการเต้นจีน นี่คือผลงานละครบัลเลต์เรื่องแรก  ฉันคิดว่ามันเป็นความท้าทายครั้งใหญ่  ทั้งในแง่การเป็นงานวรรณกรรมคลาสสิกและการผสมผสานภาษาท่าเต้นบัลเลต์และการเต้นจีนเข้าด้วยกัน"

การแสดงอันยิ่งใหญ่ก่อนออกสู่สายตาสาธารณะต้องผ่านการซ้อมอย่างหนักหน่วง นักออกแบบท่าเต้นรายนี้เผยว่า ตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นการเตรียมงาน การสร้างโครงสร้างของบท ไปจนถึงการฝึกซ้อมในระยะหลัง ใช้เวลารวมกันประมาณสองปีครึ่ง  การซ้อมในห้องฝึกซ้อมจริงๆ แล้วใช้เวลาประมาณสี่ถึงห้าเดือน ที่เหลืออีก 1-2 ปี เป็นการอ่าน “ความฝันในหอแดง” ซ้ำๆ และค้นหาสัญลักษณ์ต่างๆ บัลเลต์ ‘ความฝันในหอแดง’  ผสานความงามจีน-ตะวันตก

  •  ความแตกต่างของบัลเลต์

น่าสังเกตว่าคนไทยหลายคนคุ้นกับชื่อ “ความฝันในหอแดง” เพราะวรรณกรรมคลาสสิกเรื่องนี้ถูกถ่ายทอดในหลายรูป แล้วการนำเสนอในรูปแบบบัลเลต์แตกต่างจากเวอร์ชันอื่นอย่างไร ถงยอมรับว่า แตกต่างอย่างมาก  ในประเทศจีนมีการดัดแปลง “ความฝันในหอแดง” ในรูปแบบต่างๆ มากมาย เช่น ภาพยนตร์ ละครโทรทัศน์ การแสดงระบำพื้นเมือง การแสดงงิ้ว หรือแม้กระทั่งการแสดงของท้องถิ่นต่างๆ 

“แต่นี่เป็นครั้งแรกที่นำเรื่องนี้มาทำในรูปแบบบัลเลต์ เพราะการแสดงบัลเลต์มีลักษณะเฉพาะตัวที่แตกต่างจากหลายๆ ประเภท การเต้นบัลเลต์มีความพิเศษที่การใช้ร่างกายในการแสดงออก มีความงามที่ไม่ต้องพูดออกมา มีความหมายที่ไม่ต้องการการสื่อสารด้วยคำพูด แต่ใช้พื้นที่และเวลาในการแสดงออก ทำให้สามารถผสมผสานเรื่องราวจากอดีตและปัจจุบันที่ไม่สามารถเกิดขึ้นในเวลาเดียวกันบนเวทีเดียวกันได้” 

ถงกล่าวอีกว่า การแสดงบัลเลต์นี้แตกต่างจากงานศิลปะอื่นๆ เช่น ภาพยนตร์หรือซีรีส์ ที่มักจะถ่ายทอดเรื่องราวผ่านการแสดงออกในรูปแบบที่ตรงไปตรงมา แต่ในละครบัลเลต์นี้กลับเล่าเรื่องราวทั้งหมดในเชิงจินตนาการที่ลึกซึ้ง และสื่อสารความหมายที่เกินกว่าแค่เนื้อหาของวรรณกรรม

นอกจากนี้เมื่อบัลเลต์ “ความฝันในหอแดง” ก้าวไปสู่ระดับสากล ผู้ชมต่างชาติหลายคนจะได้ค้นพบว่าศิลปะบัลเลต์สามารถสื่อสารอารมณ์ของตะวันออกได้เช่นกัน  ทั้งยังมีด้านที่ละเอียดอ่อนและอ่อนโยน ไม่ใช่แค่การยืดตัวขึ้นเท่านั้น แต่ยังสามารถโน้มลงไปเพื่อแสดงอารมณ์ที่ละเอียดอ่อน และสามารถใช้ภาษาท่าเต้นในการแสดงที่ไม่เคยปรากฏในภาษาท่าเต้นบัลเลต์มาก่อน 

  •  แนวคิดเบื้องหลังท่าเต้น

การออกแบบทุกท่าทางการเต้นจะต้องอิงตามตัวละคร ไม่ใช่แค่เริ่มต้นจากการเคลื่อนไหว แต่ต้องเหมาะสมกับบุคลิกของตัวละคร เช่น ใส่ท่าทางเดินแบบนักแสดงชายในจีนลงไป ซึ่งแตกต่างจากท่าทางบัลเลต์ที่เน้นการเคลื่อนไหวขึ้นไป หรือการเชิญท่านเข้ามาในรูปแบบการผายมือของตัวละครอาจจะดูคล้ายๆ กับการเชื้อเชิญได้ด้วย 

"ก็มีหลายสิ่งหลายอย่างที่แตกต่างกัน ภาษาท่าเต้นบัลเลต์มีความลึกซึ้งและสูงขึ้น แต่การเต้นจีนโบราณ โดยเฉพาะตัวละครอย่างเป่าอวี้ ต้องมีความจริงใจ ถ้ามองเห็นน้องสาวก็ต้องมองเห็นน้องสาวจริงๆ ไม่ใช่แค่ท่าทางที่เห็นว่านั่นเป็นน้องสาว ดังนั้นท่าทางหรือทุกๆฝีเท้า จะต้องอิงตามตัวละครและต้องมีความเหมาะสม" นักออกแบบท่าเต้นอธิบาย  บัลเลต์ ‘ความฝันในหอแดง’  ผสานความงามจีน-ตะวันตก

และในวาะครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างจีนและไทย ถงหวังว่า การนำบัลเลต์ “ความฝันในหอแดง” มาแสดงที่เมืองไทยจะสามารถเชื่อมโยงสองประเทศได้ผ่านวัฒนธรรม 

“ทำให้เราเห็นว่าแม้ว่าแต่ละชาติจะมีวิธีการแสดงออกที่แตกต่างกันในการรับรู้ถึงความเศร้าโศก ความรัก ความแค้น หรือความเกลียดชัง แต่เราต่างต้องการความงดงามที่เหมือนกัน การแสดงออกอย่างจริงใจ และความรักที่มีความเศร้าอยู่ในนั้น ฉันเชื่อว่า มิตรภาพระหว่างจีนและไทยสามารถเชื่อมโยงกันได้ด้วยวัฒนธรรม และทำให้เรารู้จักและเข้าใจกันมากขึ้น” ถงกล่าวทิ้งท้าย ซึ่งผลงานบัลเลต์ชิ้นนี้ก็ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเป็นจริงตามนั้น ส่วนมหกรรมศิลปะการแสดงและดนตรีนานาชาติกรุงเทพฯ ครั้งที่ 27 ยังมีไปจนถึงวันที่ 15 ต.ค. ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.bangkokfestivals.com

บัลเลต์ ‘ความฝันในหอแดง’  ผสานความงามจีน-ตะวันตก