คุยกับ วราวุฒิ แก้วเจริญ จิตรกรผู้ตั้งใจวาดภาพสวนสาธารณะทั่วโลก

สนทนาประสาดอกไม้กับ วราวุฒิ แก้วเจริญ ผู้เริ่มต้นเป็นจิตรกรอาชีพในวัย 50 และตั้งใจวาดภาพสวนสาธารณะทั่วโลก
KEY
POINTS
- สวนสาธารณะ คือ สถานที่ปลอบประโลมใจ และสร้างแรงบันดาลใจให้ วราวุฒิ แก้วเจริญ ผู้เริ่มต้นเป็นจิตรกรอาชีพในวัย 50
- วราวุฒิ หรือ Woody Wind จัดแสดงผลงาน Art In The Park มาแล้ว 2 ครั้ง ได้แก่ Love From Griffith Park To Thailand และ Spring in Central Park
- สวนลุมพินี เป็นผลงานชุดล่าสุดที่กำลังเตรียมจัดแสดงในต้นปี 2569 ก่อนออกเดินทางไปวาดภาพสวนสาธารณะทั่วโลก
เรามีนัดกับ วราวุฒิ แก้วเจริญ หรือ Woody Wind จิตรกรวัยห้าสิบบวกที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลจากสวนลุมพินี สวนสาธารณะที่เต็มไปด้วยความทรงจำของเขาในช่วงวัยหนุ่มขณะใช้ชีวิตเป็นมนุษย์ทำงานในบริษัทโฆษณาแห่งหนึ่งในย่านสีลมก่อนที่จะเดินทางไปตามหาความฝันที่สหรัฐอเมริกานานกว่า 17 ปี
ความฝันที่หล่นหาย เวลาที่หมดไปกับการทำงานในร้านอาหารและร้านขายยา กว่าจะพบว่าสวนสาธารณะ คือ สถานที่พักพิงใจและก่อให้เกิดแรงบันดาลใจ และการกลับเมืองไทยในฐานะจิตรกรเต็มขั้น เพื่อมาวาดรูปสวนลุมพินี ในโครงการ Art In The Park อาจเป็นเรื่องราวที่ไม่หวือหวาแต่ทำให้เราได้ตระหนักว่า ชีวิตเริ่มต้นใหม่ได้เสมอ
“ผมเรียนจบครุศาสตร์จากสวนดุสิต ทำงานเป็นกราฟฟิกดีไซเนอร์ให้กับบริษัทโฆษณามาตั้งแต่ยังเรียนไม่จบ ยุคนั้นสิ่งพิมพ์เฟื่องฟูมากทำงานอยู่บริษัทโฆษณาหลายแห่ง จุดเปลี่ยนที่อยากเป็นศิลปินอาชีพตอนนั้นทำงานบริษัทอยู่แถวสีลม บ้านผมอยู่เพชรเกษม เวลาเลิกงานแถวนั้นรถติดมาก ปกติจะปาร์ตี้กันก่อนกลับบ้าน พอปาร์ตี้มากเข้าชักเบื่อเลยเปลี่ยนมาวาดรูปช่วงหัวค่ำรอเวลาให้รถหายติด
ไปนั่งวาดรูปในสวนลุมได้วันละหนึ่งรูป สองทุ่มกลับบ้าน วาดรูปแล้วสนุกเริ่มติดใจเลยนำผลงานไปจัดแสดงเดี่ยวที่ห้างเซ็นทรัลชิดลม ปี 2541 เรารู้ใจตัวเองนะว่าอยากเป็นศิลปินแต่ในช่วงเวลานั้นเรายังต้องทำมาหาเลี้ยงชีพ” วราวุฒิเล่าถึงจุดเปลี่ยนที่ทำให้รู้ใจตัวเอง
วราวุฒิ แก้วเจริญ หรือ Woody Wind
“ตอนนั้นน้องสาวชวนไปทำงานร้านอาหารที่อเมริกา ผมตัดสินใจไปเพราะว่ารายได้ดีแล้วเราก็อยากเป็นศิลปินด้วย ผมไปอเมริกาปี 2544 ใช้เวลาพยายามอยู่ 2 ปี ได้แสดงงานตามร้านอาหารและคลับ แต่ไม่ได้เป็นศิลปินเต็มตัวเพราะกลางวันต้องทำงานร้านอาหารกว่าจะเลิกงานก็สี่ทุ่ม ช่วงนั้นที่บ้านมีปัญหาเรื่องการเงินเลยต้องทำงานเก็บสตางค์ก่อน แต่เรารู้ว่าวันหนึ่งเราจะกลับมาทำสิ่งที่รัก”
เขาเชื่อว่าเมื่อประตูบานหนึ่งปิดลง จะมีประตูบานใหม่ที่เปิดออกเสมอ
“ระหว่างนั้นผมใช้วันหยุดเสาร์อาทิตย์ไปพักผ่อนตามสวนสาธารณะ ผมชอบธรรมชาติ ไม่เคยคิดเรื่องศิลปะอิมเพรสชั่นนิสม์เลย ไม่ได้คิดว่าจะไปศึกษาธรรมชาติเพื่อนำมาใช้เขียนรูป เพราะว่าเราอินกับมันจริงๆ
ช่วงที่อยู่แอลเอ ที่พักผมอยู่ใกล้กับกริฟฟิท พาร์ค สวนสาธารณะขนาดใหญ่ในลอสแอนเจลิส เป็นที่ตั้งของหอดูดาวกริฟฟิทสัญลักษณ์สำคัญของเมือง ผมรักที่นี่มากนะครับ หอดูดาวเป็นสิ่งที่คอยเตือนใจผมเสมอว่าชีวิตคนเรานั้นมีขนาดเล็กนิดเดียว Art In The Park ของผมเริ่มต้นขึ้นที่นี่”
วราวุฒิกล่าวถึงผลงานที่ทำให้เขาได้รับเกียรติครั้งสำคัญจาก Edwin Charles Krupp ผู้อำนวยการของ Griffith Observatory (หอดูดาวกริฟฟิท) แห่งเมืองลอสแอนเจลิส ในฐานะแขกรับเชิญพิเศษผู้วาดรูปสวนสาธารณะกริฟฟิททั้งคอลเลคชั่น
Edwin Charles Krupp ผู้อำนวยการของ Griffith Observatory (หอดูดาวกริฟฟิท) แห่งเมืองลอสแอนเจลิส รับมอบภาพเขียน
“ผมรู้สึกว่ามันดีมากๆ ที่เราไม่ได้ทำสิ่งที่รักมาตั้งแต่ตอนหนุ่มๆ เพราะเราจะรู้ว่าอะไรคือสิ่งที่เราปรารถนา บวกกับการที่เราได้เห็นมิวเซียม ได้เห็นงานศิลปะดีๆ ได้เห็นโลกมากมายทำให้เรารู้ว่าเราต้องการถ่ายทอดอะไรออกไป
จุดหมายของ Art In The Park คือการบอกให้รู้ว่าสวนสาธารณะเป็นสิ่งที่งดงามที่สุดในสายตาจิตรกรคนนี้ ตอนผมทำงานอยู่แอลเอผมมีกริฟฟิท พาร์ค เป็นที่ชาร์จพลัง พอมาอยู่นิวยอร์ก ผมไปเซ็นทรัล พาร์ค ผมเข้าไปรับพลังงานดีๆ แล้วมาส่งต่อความรู้สึกดีๆ ปลายทางผมอยากออกเดินทางไปวาดภาพสวนสาธารณะทั่วโลก” วราวุฒิกล่าวถึงความตั้งใจ
วาดรูปในสวนสาธารณะเซ็นทรัลพาร์ค นิวยอร์ก
วราวุฒิ แก้วเจริญ และคู่ชีวิต รัตนนรี ทองนพคุณ
Art In The Park นำทางเขากลับเมืองไทยโดยมีภรรยา รัตนนรี ทองนพคุณ แพทย์เจ้าของ Raparis คลินิกเป็นผู้สนับสนุนในทุกกิจกรรม ไม่ว่าจะเป็นการจัดนิทรรศการ ติดต่อประสานงานแกลเลอรี่ รวมไปถึงการคิดทำไอศกรีมที่มีรสชาติและสีสันอันสะท้อนผลงานภาพเขียนสไตล์อิมเพรสชั่นนิสม์ของสามี
รัตนนรีบอกกับเราว่า “อยากให้พี่วุฒิได้ทำในสิ่งที่รัก เขาเหนื่อยมามากแล้ว ทุกวันนี้แพรมีรายได้มากพอในการดูแลครอบครัว เรามีกันสองคนไม่มีลูก เพราะฉะนั้นให้เขาวาดรูปได้เต็มที่ นอกเหนือไปจากนี้แพรดูแลเอง”
คำพูดภรรยายืนยันด้วยการเป็นแม่งานหลักในงานจัดแสดงผลงาน Art In The Park มาแล้ว 2 ครั้ง ได้แก่ นิทรรศการ Love From Griffith Park To Thailand (ที่เซ็นทรัลเอ็มบาสซี มกราคม 2566) และ Spring in Central Park (ที่ริเวอร์ซิตี สิงหาคม 2568) รวมทั้งกิจกรรมวาดรูปกลางแจ้ง Plein Air Painting ภายในสวนลุมพินี ท่ามกลางดนตรีอะคูสติก เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา เพื่อนำไปสู่การจัดนิทรรศการศิลปะที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสวนลุมพินีในต้นปี 2569
กิจกรรมวาดรูปกลางแจ้ง Plein Air Painting ภายในสวนลุมพินี ท่ามกลางดนตรีอะคูสติก
“สวนลุมพินีเป็นสวนสาธารณะที่สำคัญของคนกรุงเทพ ขณะเดียวกันสวนลุมทำให้ผมคิดถึงช่วงชีวิตหลังเลิกงานที่เคยเข้าไปนั่งวาดรูปในสวนลุมก่อนกลับบ้าน ในนิทรรศการที่เตรียมจัดแสดงในครั้งนี้ ผมอยากเล่าถึงบรรยากาศยามเย็นที่เปลี่ยนความเร่งรีบของคนเมืองให้ผ่อนคลายลง รูปของผมมองเผินๆ อาจคิดว่าผมวาดรูปวิว แต่ความจริงแล้วผมเขียนความรู้สึกที่มีความเคลื่อนไหว ผมเขียนลม เขียนอากาศ ผมเล่าเรื่องตอนพระอาทิตย์ตกดินที่ผมรู้สึกว่าเป็นช่วงเวลาที่งดงามด้วยโทนสีในแบบฉบับของผม”
ความฝันที่เคยหล่นหาย ความทรงจำที่ยังแจ่มชัดอยู่เหนือกาลเวลา รวมทั้งความรักในการวาดรูปของวราวุฒิ แก้วเจริญ หรือ Woody Wind คือทั้งหมดที่ผู้ชมจะได้สัมผัสใน Art In The Park เวอร์ชั่นสวนลุมพินี ในปี 2569 โปรดติดตามกันต่อไป
ท้ายนี้เขาย้ำว่า “อายุเป็นเพียงตัวเลข หากรักที่จะทำอะไรแล้วเริ่มต้นวันนี้ได้เลย”







