ลือสนั่น! 'เนสท์เล่' ขายทิ้ง ร้านกาแฟดัง "บลู บอทเทิ่ล"

ลือสนั่น! 'เนสท์เล่' ขายทิ้ง ร้านกาแฟดัง "บลู บอทเทิ่ล"

สื่อยักษ์ใหญ่ระหว่างประเทศตีข่าว 'เนสท์เล่' เล็งขายกิจการ 'บลู บอทเทิ่ล' เชนร้านกาแฟพิเศษไฮเอนด์ชื่อดัง ตามแผนปรับโครงสร้างธุรกิจในพอร์ตครั้งใหญ่ หวังลดจำนวนร้านค้า สู้ต้นทุนพุ่ง หลังซีอีโอเนสท์เล่คนใหม่เข้ารับตำแหน่งหมาด ๆ

หลายวันก่อนผู้เขียนเพิ่งเจอข่าวจากสื่อมวลชนไทยว่า เชนร้านกาแฟพิเศษระดับไฮเอนด์ชื่อดังจากแคลิฟอร์เนียอย่าง 'บลู บอทเทิ่ล คอฟฟี่' (Blue Bottle Coffee) มีแผนเข้ามาเปิดสาขาแรกที่ประเทศไทยในช่วงเดือนธันวาคมนี้ หลังจากนั้นถัดมาวันเดียวก็มีข่าวจากสื่อออนไลน์ต่างประเทศจำนวนมากที่พร้อมใจกันรายงาน เป็นข่าวใหญ่ของบลู บอทเทิ่ล ที่ทำให้ผู้เขียนถึงกับร้องอ้าวววว...ขึ้นมาด้วยความเซอร์ไพรส์ใจเป็นยิ่งนัก

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานเป็นเจ้าแรก โดยอ้างแหล่งข่าวใกล้ชิดถึงสามรายด้วยกัน ระบุว่า บริษัท 'เนสท์เล่' (Nestlé) ยักษ์ใหญ่วงการอาหารโลกจากสวิส กำลังเล็งขายกิจการเชนร้านกาแฟบลู บอทเทิ่ล ออกไป ตามแผนปรับโครงสร้างธุรกิจในพอร์ตของซีอีโอคนใหม่ที่เพิ่งเข้ามาดำรงตำแหน่งเมื่อไม่นานมานี้ มีมอร์แกน สแตนเลย์ ธนาคารเพื่อการลงทุนในตลาดวอลล์สตรีท เป็นที่ปรึกษาของดีลนี้

ผู้เขียนค่อนข้างเชื่อว่ารายงานข่าวชิ้นนี้เป็นเรื่องจริง เพราะถ้าไม่จริงหรือไม่ใช่ รอยเตอร์คงไม่กล้าปล่อยข่าวนี้ออกมา มีสิทธิ์ถูกฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายเป็นเงินมหาศาลทีเดียว

นี่ก็ผ่านมาแล้วหลายวันยังไม่เห็นผู้บริหารของทั้งเนสท์เล่และบลู บอทเทิ่ล ออกมาปฎิเสธข่าว ประกอบกับข่าวใหญ่ในแวดวงธุรกิจร้านกาแฟโลกก่อนหน้านี้ 2 เคส อย่างกรณี 'สตาร์บัคส์' ขายธุรกิจร้านกาแฟในจีน และบริษัทโคคา-โคลา ขึ้นบัญชีขาย 'คอสต้า คอฟฟี่' แรก ๆ ก็เปิดด้วยการอ้างแหล่งข่าวเหมือนกันทั้งสิ้น

ลือสนั่น! 'เนสท์เล่' ขายทิ้ง ร้านกาแฟดัง "บลู บอทเทิ่ล"

ยักษ์ใหญ่เนสท์เล่ ฮุบกิจการบลู บอทเทิ่ล คอฟฟี่ ไปตั้งแต่ปีค.ศ. 2017 ล่าสุดมีกระแสข่าวว่า เนสท์เล่ เตรียมขายทิ้งเชนร้านกาแฟพิเศษระดับไฮเอนด์แห่งนี้   (ภาพ : facebook.com/bluebottlecoffee)

ย้อนกลับไปในปีค.ศ. 2017 เนสท์เล่ เข้าเทคโอเวอร์กิจการบลู บอทเทิ่ล ผ่านทางการเข้าไปซื้อหุ้นใหญ่ 68% ในวงเงิน 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หวังขยายฐานที่มั่นออกไปสู่ 'ธุรกิจกาแฟพิเศษ' ที่มีอัตราเติบโตสูงมากในตอนนั้น แม้ยักษ์ใหญ่แดนสวิสจะมีธุรกิจกาแฟหลายแบรนด์อยู่ในมือแล้ว แต่ก็เป็นเซ็กเมนท์กาแฟผงสำเร็จรูปและแคปซูลกาแฟ ยังไม่ได้เปิดแนวรบสู่เซ็กเมนท์กาแฟพิเศษอย่างเป็นเรื่องเป็นราว

รายงานข่าวบอกว่า ยักษ์ใหญ่ด้านอาหารและเครื่องดื่มของสวิสกำลังเร่งปรับโครงสร้างเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพครั้งใหญ่ แล้วการลงทุนของเนสท์เล่ในบลู บอทเทิ่ล ไม่ได้สร้างผลกำไรให้มากพอ ท่ามกลางแรงกดดันด้าน 'ต้นทุน' ที่เพิ่มขึ้นสูง คาดว่ามูลค่าของบลู บอทเทิ่ล จะลดลงจากราคาที่เนสท์เล่เข้าซื้อกิจการเมื่อ 8 ปีที่แล้ว

ขณะที่สื่อออนไลน์อย่างยูโรเปียน ไฟแนนเชียล รีวิว ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า การเคลื่อนไหวของเนสท์เล่เป็นส่วนหนึ่งของแผนทบทวนกลยุทธ์การลงทุน ภายใต้ซีอีโอคนใหม่ที่ชื่อ 'ฟิลิปป์ นาฟราทิล' มีเป้าหมายเพื่อลดความซับซ้อนของพอร์ตโฟลิโอของบริษัทและลดจำนวนธุรกิจร้านค้าปลีกแบบมีหน้าร้านที่มีผลประกอบการไม่เป็นไปตามเป้า

ลือสนั่น! 'เนสท์เล่' ขายทิ้ง ร้านกาแฟดัง "บลู บอทเทิ่ล"

บลู บอทเทิ่ล เชนร้านกาแฟพิเศษชื่อดังจากแคลิฟอร์เนีย ได้รับความนิยมอย่างสูงในญี่ปุ่น มีร้านสาขาตามเมืองใหญ่แดนปลาดิบประมาณ 30 แห่ง  (ภาพ : facebook.com/bluebottlecoffee)

เดือนตุลาคมที่ผ่านมา เนสท์เล่ประกาศเพิ่มเป้าหมายการลดต้นทุนเป็น 3,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปีค.ศ. 2027 พร้อมประกาศแผนเลิกจ้างพนักงาน 16,000 คน คิดเป็น 6% ของพนักงานทั่วโลก ในอีก 2 ปีข้างหน้า

ใช่ครับ... นี่คืองานชิ้นแรกของฟิลิปป์ นาฟราทิล ซึ่งทำงานกับเนสท์เล่มาตั้งแต่ปีค.ศ. 2001 และเป็นคนที่เพิ่งเข้ามานั่งเก้าอี้ซีอีโอของบริษัท แทนโลรองต์ เฟร็กซ์ ที่ถูกปลดออกจากตำแหน่งเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา หลังตกเป็นข่าวมีสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับพนักงานใต้บังคับบัญชา

ไม่ใช่เชนร้านกาแฟบลู บอทเทิ่ล รายเดียวที่ตกเป็นข่าวถูกเนสท์เล่ เตรียมขายกิจการ ก่อนหน้านี้ก็เคยมีข่าวว่า วางแผนขายบริษัทธุรกิจน้ำแร่ในพอร์ต เช่น 'เปอริเอ้' และ 'ซานเปลเลกรีโน'

ที่ผู้เขียนรู้สึกเซอร์ไพรส์หลังเห็นข่าวเนสท์เล่เตรียมขายกิจการบลู บอทเทิ่ล ก็เพราะว่าเชนร้านกาแฟพิเศษสัญชาติอเมริกันรายนี้กำลัง 'เร่งขยาย' เครือข่ายสาขาในเอเชีย รวมถึงประเทศไทยด้วย

ลือสนั่น! 'เนสท์เล่' ขายทิ้ง ร้านกาแฟดัง "บลู บอทเทิ่ล"

เนสท์เล่ มีแบรนด์กาแฟในพอร์ตมากมาย นอกจากบลู บอทเทิ่ล แล้ว ก็มีแบรนด์เรือธงอย่างเนสกาแฟและเนสเพรสโซ่  (ภาพ :  instagram.com/nescafeusa)

อีกทั้งสาขาในญี่ปุ่นที่เข้าไปเปิดร้านครั้งแรกที่กรุงโตเกียว แถวย่านคิโยสุมิชิราคาวะ มาตั้งแต่ปีค.ศ. 2015 เพิ่งจัดงานฉลองครบรอบ 10 ปี แห่งการเปิดตลาดญี่ปุ่นไปเมื่อเร็วๆนี้ มีกิจกรรมเฉลิมฉลอง เช่น การอัพเกรดเมล็ดกาแฟพรีเมียมฟรี และคอลเลกชันพิเศษต่าง ๆ นานา เรียกว่ากิจการกำลังไปได้สวยทีเดียว

'บลู บอทเทิ่ล' จัดว่าเป็นหนึ่งในหัวหอกบุกเบิกธุรกิจร้านกาแฟพิเศษในสหรัฐอเมริกา ก่อตั้งขึ้นในปีค.ศ. 2002 ในเมืองโอ๊คแลนด์ รัฐแคลิฟอร์เนีย  แม้จะยังไม่มีเครือข่ายสาขาในไทย แต่คอกาแฟชาวสยามก็ทำความรู้จักกับร้านกาแฟที่มีโลโก้เป็นรูปขวดสีฟ้าแนวมินิมอลมานานหลายปีแล้ว ด้วยเป็นแบรนด์ที่เกิดในสหรัฐ แต่มาเพิ่มโด่งดังจนเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายในญี่ปุ่น มีสาขาตามเมืองใหญ่ในแดนอาทิตย์อุทัยมากมาย

เพื่อนผู้เขียนเป็นคอกาแฟตัวยง เวลาบินไปเที่ยวโตเกียว ก็มักปักหมุดไปจิบ 'กาแฟดริป' ที่ร้านบลู บอทเทิ่ล สาขาที่ไปบ่อยสุด คือ สาขาอาโอยาม่า ซึ่งมีพื้นที่กว้างขวางและระเบียงกลางแจ้ง กับสาขาชิบูย่า ที่มีดีไซน์เรียบง่ายร่วมสมัย

ด้วยความมุ่งมั่นในการเสิร์ฟกาแฟไม่เกิน 48 ชั่วโมงหลังการคั่ว บลู บอทเทิ่ลกับการตกแต่งร้านในสไตล์มินิมอล, เสิร์ฟกาแฟคุณภาพอย่างพิถีพิถัน และมีวิธีการชงกาแฟดริปที่ได้รับแรงบันดาลใจจากญี่ปุ่น เป็นเสน่ห์ดึงดูดใจลูกค้าให้แวะเวียนมาชิมเครื่องดื่มกาแฟพิเศษภายในร้าน

ลือสนั่น! 'เนสท์เล่' ขายทิ้ง ร้านกาแฟดัง "บลู บอทเทิ่ล"

บลู บอทเทิ่ล แตกไลน์ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มกาแฟอินสแตนท์ออกมาหลายตัว หลังถูกซื้อกิจการไปโดยเนสท์เล่  (ภาพ : facebook.com/bluebottlecoffee)

กลางปีค.ศ. 2015 ปีเดียวกับที่เปิดร้านแรกในโตเกียว ปรากฎภาพข่าวที่สร้างความฮือฮาไปทั่ว ชาวญี่ปุ่นเข้าคิวรอกาแฟหน้าร้านบลู บอทเทิ่ล นานถึง 4 ชั่วโมง

เป็นร้านกาแฟจากแคลิฟอร์เนีย แต่เห็นเอเชียเป็น 'ขุมทอง' ในการทำตลาด ว่ากันว่าไม่ใช่เฉพาะเรื่องที่ธุรกิจกาแฟพิเศษในภูมิภาคนี้ยังมีโอกาสเติบโตได้อีกเท่านั้น แต่ยังเป็นเพราะ 'เจมส์ ฟรีแมน' ผู้ก่อตั้งร้าน มีความหลงใหลได้ปลื้มในวัฒนธรรมกาแฟดริปสไตล์ญี่ปุ่น ที่เมื่อสัก 20-30 ปีก่อน ร้านกาแฟอเมริกันแทบไม่รู้จัก

นี่เป็นสาเหตุสำคัญที่ฟรีแมน เลือกเปิดสาขาต่างประเทศแห่งแรกที่โตเกียว

ณ เดือนสิงหาคม 2025 บลู บอทเทิ่ล มีร้านกาแฟสาขา 140 แห่งใน 6 ประเทศ ส่วนใหญ่เป็นในสหรัฐและเอเชีย แยกเป็นสาขาในสหรัฐประมาณ 100 แห่ง และญี่ปุ่น 30 แห่ง ที่เหลือเป็นร้านสาขาในโซล, ฮ่องกง, เซี่ยงไฮ้ และสิงคโปร์ รวม ๆ แล้วมีปริมาณการคั่วกาแฟชนิดพิเศษประมาณ 1,800 ตันต่อปี

สำหรับเนสท์เล่แล้ว การซื้อกิจการบลู บอทเทิ่ล เมื่อ 8 ปีก่อน ก็ชัดเจนว่า ต้องการดึงเชนร้านกาแฟพิเศษระดับไฮเอนด์ มาช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับขุมกำลังของเนสท์เล่ในตลาดสหรัฐอเมริกา และขยายผลิตภัณฑ์ในตลาดกาแฟพิเศษ

ลือสนั่น! 'เนสท์เล่' ขายทิ้ง ร้านกาแฟดัง "บลู บอทเทิ่ล"

ผลิตภัณฑ์กาแฟแคปซูลของบลู บอทเทิ่ล ที่พัฒนาร่วมกันกับเนสเพรสโซ่ สามารถใช้ได้กับเครื่องชงกาแฟแบบซิงเกิ้ล ยูส ของเนสเพรสโซ่  (ภาพ : instagram.com/nestle)

ท่ามกลางความคาดหมายว่า หากบลู บอทเทิ่ล ได้รับเงินทุนสนับสนุนจากเจ้าของใหม่แล้ว ก็อาจมีศักยภาพแข่งขันได้กับแบรนด์ร้านกาแฟหมายเลขหนึ่งอย่าง 'สตาร์บัคส์'

ความที่เมื่อถูกเทคโอเวอร์ไปแล้ว  บลู บอทเทิ่ล ได้แตกไลน์ออกผลิตภัณฑ์ในตลาดกาแฟอินสแตนท์และกาแฟแคปซูลหลายตัวด้วยกัน ผ่านทางความร่วมมือกับ 'เนสกาแฟ' และ 'เนสเพรสโซ่'  สองแบรนด์ในเครือของเนสท์เล่ เช่น คราฟท์ อินสแตนท์ คอฟฟี่, โนลา คราฟท์ อินสแตนท์ คอฟฟี่ และกาแฟแคปซูลรุ่นต่าง ๆ

ดังนั้น รายงานข่าวบางกระแสจึงระบุว่า มีความเป็นไปได้ที่เนสท์เล่ อาจตัดสินใจขายเฉพาะธุรกิจร้านกาแฟ แต่เก็บผลิตภัณฑ์ที่เป็นทรัพย์สินทางปัญญาเอาไว้  เพื่อสามารถจำหน่ายสินค้าแบรนด์บลู บอทเทิ่ล ได้ต่อไป รวมไปถึงเมล็ดกาแฟคั่ว และ

หากว่า 'เนสท์เล่' ตัดใจขายทิ้ง 'บลู บอทเทิ่ล' จริง ๆ ก็มีความเป็นไปได้ 3 แนวทางสำหรับเหตุผล 

ลือสนั่น! 'เนสท์เล่' ขายทิ้ง ร้านกาแฟดัง "บลู บอทเทิ่ล"

บลู บอทเทิ่ล กับโลโก้แบรนด์รูปขวดสีฟ้าแนวมินิมอล หนึ่งในหัวหอกบุกเบิกธุรกิจร้านกาแฟพิเศษในสหรัฐอเมริกา  (ภาพ : facebook.com/bluebottlecoffee)

1. ต้องการลดต้นทุนของกิจการที่ลงทุนสูงแต่ให้กำไรน้อย ตามแผนปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ล่าสุด

2. ต้องการถอนตัวออกจากธุรกิจกาแฟพิเศษ หันไปมุ่งเน้นเฉพาะตลาดกาแฟตามบ้านและออฟฟิศอย่างกาแฟสำเร็จรูปและกาแฟแคปซูลที่ให้ผลกำไรสูงกว่า และเป็นตลาดที่ฐานลูกค้าใหญ่กว่า

3. ต้องการทำตลาดร้านกาแฟพิเศษแบบไฮเอนด์ ตามแคแรคเตอร์ของเนสท์เล่เอง

ทั้ง 3 ข้อ เป็นการคาดการณ์ของผู้เขียน อาจจะผิดไปจากนี้ก็ได้ อย่าเพิ่งเชื่อครับ

อย่างไรก็ดี คาดว่าไม่นานหลังจากนี้ จะมีรายละเอียดความคืบหน้าเข้ามาเพิ่มเติม ตอนนี้วิเคราะห์อะไรมากไปกว่านี้ไม่ได้ ต้องรอจนกว่าจะมีความชัดเจนมากกว่านี้ครับ

ป.ล. สำหรับท่านใดที่สนใจประวัติของร้านกาแฟบลู บอทเทิ่ล สามารถติดตามอ่านได้จากบทความเรื่อง 'นักดนตรีอิสระ+คนบ้ากาแฟ สู่แบรนด์ต้นแบบ Blue Bottle Coffee' ในเว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ เสิร์จหาจากกูเกิ้ลก็เจอทันทีครับ

.................................

เขียนโดย : ชาลี วาระดี