‘IVE’ เปิดทัวร์คอนเสิร์ตที่แรกของปีในไทย ขนเพลงฮิต แจกความสดใส สมมงตัวท็อป

“IVE” (ไอฟ์ หรือ ไอบึ ในภาษาเกาหลี) วงเกิร์ลกรุ๊ป “K-POP” ตัวท็อปวงการ เปิดการแสดงเวิร์ลทัวร์ครั้งแรกของปีนี้ในประเทศไทยในชื่อว่า “IVE THE 1ST WORLD TOUR < SHOW WHAT I HAVE > IN BANGKOK” เมื่อวันเสาร์ที่ 27 มกราคม 2567 ที่ผ่านมา ณ อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี

เมื่อสมาชิก IVE ทั้ง 6 คน ได้แก่ กาอึน (Gaeul) ยูจิน (Yujin) เรย์ (Rei) วอนยอง (Wonyoung) ลิซ (Liz) และอีซอ (LeeSeo) ก้าวขึ้นมาบนเวทีก็ได้รับเสียงต้อนรับดังกึกก้องจาก DIVE (ไดฟ์) แฟนคลับ โดยในครั้งนี้พวกเธอเปิดตัวกับ “I Am” เพลงฮิตของปีที่แล้ว ตามมาด้วย “Royal” ที่ถูกทำในสไตล์ร็อค และ “Blue Blood”

ก่อนที่ทุกคนจะกล่าวทักทายแฟนคลับอย่างเป็นทางการ โดยพวกเธอกล่าวว่ารู้สึกดีใจอย่างมากที่ได้มาแสดงคอนเสิร์ตที่ประเทศไทยอีกครั้ง ซึ่งคอนเสิร์ตในครั้งนี้พวกเธอตั้งใจเลือกเพลงมาอย่างดี และอยากให้ทุกคนได้เห็นว่าตัวตนที่แท้จริงของ IVE คืออะไร จากนั้นทำการแสดงเพลง “Heroine” “Cherish” และปิดท้ายช่วงแรกด้วย “Eleven” ซิงเกิลเดบิวต์ของพวกเธอ

กลับมาในโชว์ชุดที่ 2 ทั้ง 6 สาว เปลี่ยนชุดมาในลุคเจ้าหญิง พร้อมกับเปลี่ยนโหมดมาร้องเพลงช้าโชว์พลังเสียงอย่าง “Shine With Me” และ “Either Way” โดยเมมเบอร์กล่าวอยากจะโชว์มุมใหม่ ๆ ที่ DIVE ไม่เคยเห็นมาก่อน จากนั้นทั้ง IVE ก็ผลัดกันไปเปลี่ยนชุด ซึ่งระหว่างนั้นเมมเบอร์ต่างก็เล่าว่าชอบกินอาหารไทยมาก ๆ มาไทยรอบนี้ได้กินอาหารหลากหลายเมนู ไม่ว่าจะเป็นแกงเขียวหวาน เล้งแซ่บ และส้มตำ พร้อมบอกว่าผลไม้ไทยรสชาติหวานมาก และมีหลายอย่างให้ได้กิน

เมื่อทุกคนเปลี่ยนชุดเสร็จก็กลับมาแสดงเพลงสนุกน่ารักอย่าง “Lips” ต่อด้วยเพลง “Mine” ที่ทำการแสดงร่วมกับร่ม และเพลง “Off the Record” หนึ่งในเพลงไตเติ้ลจากอัลบั้มล่าสุด หลังจากนั้นยูจินและอีซอออกมาทำชาเลนจ์เพลง “งอนตลอด” ของ “ไอซ์ พาริส” ทำเอาเหล่า DIVE ต่างตะโกนส่งเสียงกรี๊ดให้กับความน่ารักของทั้งสองคน 

เข้าสู่องก์ 3 เป็นการจับคู่แสดงโชว์พิเศษ โดยเริ่มจาก Sentimentals ของกาอึลและเรย์ ที่เปิดตัวด้วยโชว์เดี่ยวจัดเต็มทั้งร้องและเต้นในเพลง “7 Rings” ของอารีอานา กรานเด ตามมาด้วยเรย์ที่มาในเพลงซึ้ง ๆ “Holo” ของ อี ฮา-อี จากนั้นทั้งคู่ก็กลับมาโชว์ด้วยกันในเพลง “Wannabe” จากวง Spice Girls cover

จากนั้นถึงคิวของวอนยองและลิซ หรือ YoungLiz ที่จับคู่กันร้องเพลงในตำนานอย่าง “Reality” ของริชาร์ด แซนเดอร์สัน ทำเอาผู้ชมเคลิบเคลิ้มไปกับเสียงหวาน ๆ ของทั้งคู่ ก่อนจะปิดท้ายด้วยโชว์ที่แสนร้อนแรงของ LiMakz (ยูจินและอีซอ) ในเพลง  “Woman Like Me” ของวง Little Mix ฉีกภาพลักษณ์ไปแนวเซ็กซี่ที่ DIVE ไม่เคยเห็นมาก่อน

ถัดมาเป็นการแสดงเพลง “Hypnosis” และ “My Satisfaction” ซึ่ง IVE ตั้งใจให้เป็นโชว์แนวลึกลับ น่าค้นหา ตั้งใจให้คนดูได้เห็นถึงภาพลักษณ์ใหม่ ๆ ให้สมกับชื่อคอนเสิร์ต SHOW WHAT I HAVE

หลังจากนั้นเข้าสนุกสุดเหวี่ยงกับเพลงฮิตของวง ตั้งแต่ “Love Dive” เพลงที่กวาดรางวัลเพลงแห่งปี 2022 จากทุกเวที ตามมาด้วย “Kitsch” อีกหนึ่งเพลงฮิตของปี 2023 ต่อด้วย “Baddie”​ ซิงเกิลล่าสุดของวง ก่อนจะปิดโชว์อย่างตระการตาด้วย “After LIKE” ที่คนร้องตามกันได้ทั้งฮอลล์

ทั้งทีที่การแสดงจบลง DIVE ต่างพากันเรียกชื่อ IVE กันดังสนั่น เพื่อให้พวกเธอกลับขึ้นมาแสดงบนเวทีอีกครั้ง ใช้เวลาเพียงไม่นานสมาชิกวง IVE ทุกคนก็ปรากฏตัวอีกครั้งพร้อมโชว์เพลง “OTT” เพลงที่แต่งขึ้นเพื่อแฟนคลับ และ “I Want” โดยระหว่างโชว์ ยูจิน กาอึล วองยอง และอีซอ ได้เดินลงไปพบ DIVE อย่างใกล้ชิด ส่วนลิซและเรย์ โบกมือทักทายแฟนคลับชั้น 2 และ ชั้น 3 อยู่บนเวที

DIVE ชาวไทย ชูสโลแกน “다이브와아이브가  함께한순간은 WAY TOO GOOD” (ช่วงเวลาที่ DIVE และ IVE มีร่วมกันนั้นดีที่สุด) ทำเอาสาว ๆ ทั้ง 6 คนปลื้มปริ่ม โดยแต่ละคนได้พูดถึงความประทับใจและความรู้สึกที่มีในคอนเสิร์ตนี้ ซึ่งทุกคนต่างกล่าวขอบคุณและบอกรักเป็นภาษาไทย รู้สึกดีที่ได้มาเล่นคอนเสิร์ตในประเทศไทยเป็นที่แรกของปีนี้ เพราะพวกเธอได้รับพลังงานดี ๆ จากผู้ชมอย่างล้นหลาม ไม่คิดว่าจะมีคนมาดูคอนเสิร์ตพวกเธอมามากขนาดนี้ พร้อมกล่าวว่าปีนี้จะมีผลงานดี ๆ ออกมาให้ได้ฟังกันอีกอย่างแน่นอน และสัญญาว่าจะกลับมาหา DIVE ชาวไทยให้เร็วที่สุด

ในที่สุดคอนเสิร์ตดำเนินมาถึงช่วงสุดท้าย โดย IVE แสดงเพลง "Not Your Girl" เพลงสดใสสมวัยสุดน่ารักและมีความหมายที่ดี เป็นตัวแทนความรู้สึกของศิลปินและแฟนคลับได้เป็นอย่างดี เป็นเพลงสุดท้าย 

คอนเสิร์ต SHOW WHAT I HAVE ของ IVE ในครั้งนี้ถือว่าเป็นการแสดงศักยภาพความสามารถให้ทุกคนได้เห็นว่า IVE ไม่ได้มีแค่ความสดใส น่ารัก เท่านั้น แต่พวกเธอมีของ ทั้งร้องทั้งเต้นได้ไม่มีหลุด มีเสน่ห์บนเวทีชนิดที่ไม่สามารถละสายตาได้เลย และปรับเปลี่ยนลุคได้อย่างหลากหลาย จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่พวกเธอจะก้าวขึ้นมาเป็นตัวท็อปของวงการ K-POP ได้ และในอนาคตเราคงได้เห็นอะไรใหม่ ๆ จากพวกเธออีกแน่นอน